ประเด็นสำคัญในบทความ
- ในวันอาทิตย์แรกของเดือนตุลาคมของทุกปี เป็นวันเริ่มต้นของเวลาฤดูร้อน (Daylight Saving Time) ในบางรัฐและมณฑลของออสเตรเลีย เวลาจะปรับขึ้น 1 ชั่วโมงเพื่อให้กลางวันยาวนานขึ้น และจะปรับลงในวันอาทิตย์แรกของเดือนเมษายนปีถัดไป
- การศึกษาวิจัยพบว่า การปรับเวลาขึ้นลงในทุกปีเช่นนี้มีผลกระทบต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต เสี่ยงอายุสั้น และปัญหาเกี่ยวกับสมอง
- มูลนิธิด้านการนอนหลับมีคำแนะนำในการปรับ “นาฬิการ่างกาย” แบบค่อยเป็นค่อยไปและไม่หักโหมที่คุณนำไปใช้ได้
ชาวออสเตรเลียจำนวนไม่น้อยจะเสียเวลานอนไป 1 ชั่วโมง พร้อมกับเวลากลางวันอบอุ่นที่ยาวนานและอบอุ่นขึ้นที่กำลังจะมาถึง หลังเวลาฤดูร้อนได้เริ่มต้นขึ้นแล้วในหลายพื้นที่ทั่วประเทศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนตุลาคม ประชาชนในบางพื้นที่ของออสเตรเลียจะปรับเวลาเพิ่มขึ้น 1 ชั่วโมงเมื่อถึงเวลา 2:00 น. ทำให้เวลาเดินหน้าขึ้นเป็น 3:00 น. และจะสิ้นสุดลงในวันอาทิตย์แรกของเดือนเมษายน โดยจะปรับลงเมื่อถึงเวลา 3:00 น. ทำให้เวลาถอยกลับมาเป็น 2:00 น.
ระบบเวลาฤดูร้อน หรือเวลาออมแสง (Daylight Savings Time) ใช้ในรัฐวิกตอเรีย รัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐแทสเมเนีย รัฐเซาท์ออสเตรเลีย และมณฑลนครหลวงออสเตรเลีย ยกเว้นในรัฐควีนส์แลนด์ มณฑลนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี และรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
นอนไม่หลับทำอย่างไรดี?
การปรับเวลาเดินหน้าส่งผลต่อการนอนของคุณอย่างไร
แม้การปรับเวลาเดินหน้าในฤดูใบไม้ผลิจะทำให้เรามีเวลาที่มีแสงแดดนานขึ้น แต่มูลนิธิเพื่อสุขภาพการนอนหลับ (Sleep Health Foundation) ระบุว่าเรายังได้เสียเวลาในการนอนหลับไป 1 ชั่วโมงด้วยเช่นกันหากไม่ได้เตรียมตัว
กล่าวโดยทั่วไปก็คือ การปรับเวลาเดินหน้าสามารถรบกวนรูปแบบการนอนหลับได้ ซึ่งการสูญเสียเวลานอนไป 1 ชั่วโมงนั้นปรับตัวได้ยากกว่าการได้เวลากลับมา 1 ชั่วโมง เมื่อปรับนาฬิกาถอยกลับเมื่อสิ้นสุดฤดูร้อน
ทำไมจึงเป็นแบบนั้น นั่นก็เพราะจังหวะรอบวันของเรา หรือ circadian rhythms ซึ่งเป็นรอบเวลา 24 ชั่วโมงที่เป็นส่วนหนึ่งของนาฬิการ่างกาย ถูกกำหนดให้ตรงกับความสว่างและความมือในรอบวันตามธรรมชาติ สิ่งนี้จะทำงานไม่ตรงกันเมื่อเราต้องตื่นในเวลาที่ร่างกายถูกกำหนดให้นอนหลับ
“นาฬิการ่างกายของเรา หรือจังหวะรอบวัน 24 ชั่วโมงจะต้องปรับเปลี่ยนไปตามการปรับเวลา” มูลนิธิเพื่อสุขภาพการนอนหลับ (Sleep Health Foundation) ระบุบนเว็บไซต์
“ถึงแม้ว่าผู้คนส่วนใหญ่จะปรับตัวได้อย่างไม่มีปัญหา แต่เราต้องตระหนักว่ามันมีโอกาสที่จะง่วงนอนมากขึ้นขณะที่ร่างกายกำลังปรับตัวเข้ากับเวลาใหม่”
“ผู้ที่มีปัญหาในการนอนหลับอยู่แล้ว เช่น ผู้ที่มีความผิดปกติในการนอน หรือคนที่ทำงานเป็นกะ อาจพบว่าการปรับร่างกายทำได้ลำบากขึ้น ขณะที่เด็ก ๆ จะใช้เวลาในการปรับตัวมากกว่า” มูลนิธิ ฯ ระบุ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
"ฉันไม่รู้เลยว่าการหมดไฟจะมีผลกับร่างกายได้ขนาดนี้"
เวลาฤดูร้อนมีผลต่อสุขภาพอย่างไร
ขณะที่บางคนอาจมีข้อถกเถียงว่ามีข้อดีบางอย่างเกี่ยวกับเวลาฤดูร้อน เช่น เวลากลางวันที่ยาวขึ้น แต่สำหรับบางคนก็มีข้อถกเถียงว่าเวลาฤดูร้อนนั้นสร้างปัญหา
ความสัมพันธ์ระหว่างการนอนหลับกับสุขภาพกายและสุขภาพจิตโดยรวมนั้น ได้มีการบันทึกไว้เป็นอย่างดี ซึ่งนอกจากผลกระทบที่มีต่อสมาธิและอารมณ์แล้ว การนอนหลับไม่เพียงพอ
การศึกษาวิจัยขนาดใหญ่ได้แสดงให้เห็นว่า การนอนหลับที่ถูกรบกวนอย่างเรื้อรัง ยัง เช่น ภาวะซึมเศร้า ภาวะวิตกกังวล และภาวะป่วยทางจิตจากเหตุการณ์รุนแรง (PTSD)
บางการศึกษาวิจัยยังได้วิเคราะห์ถึงผลกระทบระยะสั้นของเวลาฤดูร้อน ซึ่งอาจรวมถึงระยะเวลานอนที่สั้นลง พร้อมกับประสิทธิภาพร่างกายที่ลดลง และสุขภาพที่แย่ลง
การวิจัยระยะเวลา 20 ปีจนถึงปี 2020 ที่ผ่านมาชี้ว่า
เมื่อพูดถึงผลกระทบในระยะยาว ที่ได้แสดงให้เห็นว่า ความแตกต่างระหว่างเวลาของ “นาฬิการ่างกาย (body clock)” และ “นาฬิกาสังคม (social clock)” มีส่วนเกี่ยวข้องต่ออายุขัยเฉลี่ยที่ลดลง และความบกพร้องในการรับรู้
เคล็ดลับในการปรับสู่เวลาฤดูร้อน
มูลนิธิสุขภาพการนอนหลับแนะนำว่า ก่อนที่นาฬิกาจะปรับขึ้นเป็นเวลาฤดูร้อน 3-4 วัน ให้คุณเข้านอนเร็วขึ้น 15-20 นาที และการตั้งนาฬิกาปลุกให้เร็วขึ้นกว่าปกติ 30 นาทีจะช่วยเตรียมคุณให้พร้อมสำหรับการตื่นเช้าในวันจันทร์
นอกจากนี้ มูลนิธิ ฯ ยังแนะนำให้คุณทำให้ห้องนอนสว่างที่สุดเท่าที่เป็นไปได้เมื่อคุณตื่นนอน เช่นเดียวกับการออกไปข้างนอกเพื่อรับแสงแดด หรืออกกำลังกายกลางแจ้งในตอนเช้า พร้อมกับคำแนะนำในการนอนหลับให้เพียงพอระหว่าง 7-9 ชั่วโมงในแต่ละคืน
นอกจากนี้ การหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายก่อนเข้านอน เช่นเดียวกับการหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา หรือกาแฟ ไม่สูบบุหรี่ก่อนนอนหรือในช่วงกลางคืน ก็จะช่วยคุณได้มากขึ้นด้วย
รัฐควีนส์แลนด์และข้อถกเถียงเรื่องเวลาฤดูร้อน
มีเสียงเรียกร้องอีกครั้งให้มีการลงประชามติ ในเรื่องการใช้เวลาฤดูร้อนของรัฐควีนส์แลนด์ แต่อย่างไรก็ตาม อี
ในเวลานั้น เธอกล่าวว่าประเด็นดังกล่าวไม่ได้เป็นจุดสนใจ หลังมีคำแนะนำให้ทำประชามติจากนายกเทศมนตรีนครบริสเบน
“เราได้รับฟังผู้คนในรัฐควีนส์แลนด์ที่ได้พูดมาแล้วก่อนหน้านี้ว่าพวกเขาไม่ต้องการเวลาฤดูร้อนแล้ว” รัฐมนตรีดาร์ท กล่าวก่อนหน้านี้
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ
พอลติดหนี้พนันกว่าล้านดอลลาร์ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ที่สุดของเขา