ดอกไม้ ชนชั้น และรากเหง้า คำถามในงานศิลปะชิ้นใหม่ของ บอล–นรภัทร

บอล–นรภัทร ศักดิ์อาธรทรัพย์ ศิลปินไทยผู้ที่ใช้ดอกไม้ในการสร้างงานศิลปะ เขามักใช้มันเพื่อตั้งคำถามที่ไล่ไปตั้งแต่เรื่องเพศสภาพยาวไปถึงระบบชนชั้นที่เกิดจากความพยายามในการจัดดอกไม้

บอล–นรภัทร ศักดิ์อาธรทรัพย์ ศิลปินไทยผู้ที่ใช้ดอกไม้ในการสร้างงานศิลปะ

บอลได้รับเลือกให้มาเป็น artist-in-residence หรือศิลปินพำนักที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย ภายใต้โครงการ Creative Australia ที่ร่วมมือกัน ระหว่าง University of New South Wales และ SAC Gallery Bangkok แลกเปลี่ยนศิลปินจากทั้งสองประเทศ Credit: SBS Thai // Supplied

ไม่ว่าดอกไม้สำหรับคุณจะมีความหมายอย่างไร แต่ถ้าคุยเรื่องนี้ บอล–นรภัทร ศักดิ์อาธรทรัพย์ ศิลปินไทยผู้ที่ใช้ดอกไม้ในการสร้างงานศิลปะ เรามักจะได้คำตอบที่ลุ่มลึกไปมากกว่าแค่เรื่องกลิ่นและความสวยงาม

จากงานศิลปะที่ตั้งคำถามถึงประเด็นเพศสภาพ ที่เขาเริ่มจากการคลี่ปมส่วนตัว มาสู่งานชิ้นล่าสุดที่เขาตั้งคำถามถึงที่กว้างกว่าในความเป็นมนุษย์

บอลได้รับเลือกให้มาเป็น artist-in-residence หรือศิลปินพำนักที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย ภายใต้โครงการ Creative Australia ที่ร่วมมือกัน ระหว่าง University of New South Wales และ SAC Gallery Bangkok แลกเปลี่ยนศิลปินจากทั้งสองประเทศ

เมื่อได้ข่าวอย่างนั้น เราเลยไม่รอช้าที่จะนัดเจอเขาเพื่อคุยถึงงานชิ้นล่าสุดภายใต้การพำนักครั้งนี้

เรานัดเจอกันที่สวน Royal Botanical Garden ที่ซิดนีย์ หนึ่งในสถานที่ที่บอลบอกว่าเขาขลุกตัวอยู่ที่นี่ทั้งวัน (และเป็นพื้นที่ที่เขาใช้รีเสิร์ชข้อมูลเพื่อสร้างงาน)

botanic_140406_AAP.jpg
วิวจากสวน Royal Botanical Garden ที่ซิดนีย์ (AAP)
1.

“ตอนได้รับเลือกให้เป็น artist-in-residence ผมดีใจมาก ประเทศออสเตรเลียผมรู้สึกว่าเป็นประเทศที่ผมรู้จักดอกไม้เขาหลายๆ ดอก ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เห็นแค่ในหนังสือ อย่างการได้มาเห็นดอก Gymea Lily ถือว่าชีวิตคุ้มแล้วเหมือนกัน”

เขาเผยความรู้สึกตอนได้รับเลือกให้มาพำนักอยู่ที่ซิดนีย์

“ตอนที่รู้ว่าได้รับเลือก ก็พยายามรีเสิร์ชเยอะมาก เพราะ proposal ที่เขียนไป คือประวัติศาสตร์การจัดดอกไม้ แต่สิ่งที่เราไม่มั่นใจ คือเราจะหาดอกไม้ที่นี่ได้อย่างไรบ้าง และจะจัดการกับมันอย่างไรได้บ้าง เพราะว่าตอนที่เข้าประเทศ เขาเข้มงวดเรื่องการ bio security มาก เลยไม่แน่ใจว่าจะเอาอะไรมาได้บ้าง”
People standing and looking out at the Sydney Opera House and Sydney Habour Bridge.
วิวจากสวนRoyal Botanical Garden ที่ซิดนีย์ (AAP Image/Bianca De Marchi) Source: AAP / Bianca De Marchi
ส่วนกระบวนการการได้รับเลือกนั้น มาจากการยื่น proposal ไป และต้องสร้างผลงานที่ยึดจากสิ่งที่เรายื่นไป ที่นี่เป็นครั้งแรก ที่ทำให้รู้ว่าการมาทำ residency มีกระบวนการอย่างไร บ้าง

บอลเล่าด้วยนำเสียงตื่นเต้นว่า “ด้วยความที่คนออสซี่ใจดีมากๆ เขาให้ความสำคัญกับคนที่เป็นแขกที่มาเยือนประเทศ กลายเป็นว่าทุกสัปดาห์ต้องออกไปเจอกับศิลปิน ออกไปเจอคนที่มีความรู้เฉพาะทางทั้งคนดูแลสวน คนดูแลห้องสมุดที่สวนแห่งนี้ และอีกหลายๆ คน เหมือนกับว่าพอเรารู้จักคนคนหนึ่ง เขาก็จะแนะนำต่อกันไปเรื่อยๆ มันคือคอนเนคชันของกลุ่มคนที่ให้ความรู้เราลึกลงไปเรื่อยๆ ผมรู้สึกเป็นสิ่งที่หาจากที่อื่นไม่ได้”
“อย่างตอนไป residency ที่ปารีส ที่นั่นเขาให้ศิลปินจัดการตัวเอง หาคอนเนคชันด้วยตัวเอง หาพื้นที่ในการรีเสิร์ชด้วยตัวเอง แต่กลับกันที่นี่ ทุกคนพร้อมเดินมาให้ความช่วยเหลือ เป็นอะไรที่เราไม่เคยเจอมาก่อน และไม่เคยคาดหวังว่าเราจะได้สิ่งนี้ ผมรู้สึกโชคดีมากที่ได้มาที่นี่”

2.

หากใครเคยตามงานของบอล นรภัทร มาบ้างคงทราบดีว่า งานชิ้นก่อนๆ ของเขาคือการตั้งคำถามถึงเรื่องเพศสภาพ แต่การมาเป็น artist-in-residence เขากลับขยายความสนใจออกกว้างขึ้นไปอีก

“ที่ผ่านมาผมพยายามให้ดอกไม้พูดถึงตัวเองมาโดยตลอด เรื่องเพศสภาพ แต่ ณ วันหนึ่งที่งานศิลปะมันทำหน้าที่ของมันสมบูรณ์แบบแล้ว คือมันช่วยทำให้ผมได้เข้าใจตัวเองมากขึ้น ให้คนรอบข้างเข้าใจผมมากขึ้นแล้ว สิ่งที่เราอยากพูดต่อไปมันคือการขายสเกลความเป็นมนุษย์ที่กว้างขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องเพศ แต่เป็นเรื่องของชนชั้น ความเป็นคนที่กว้างกว่า และครอบคลุมทุกคนมากกว่า”
หนึ่งในผลงานชิ้นล่าสุดของบอล
วันหนึ่งที่งานศิลปะมันทำหน้าที่ของมันสมบูรณ์แบบแล้ว สิ่งที่เราอยากพูดต่อไปมันคือการขายสเกลความเป็นมนุษย์ที่กว้างขึ้น เรื่องของชนชั้น ความเป็นคนที่กว้างกว่า และครอบคลุมทุกคนมากกว่า Credit: SBS Thai // Supplied
“ผมรู้สึกว่าการแบ่งแยกเพศสภาพคือ ‘ซับเซ็ต’ ของการที่คนเราไม่เคารพความเป็นคนมากพอ ผมอยากให้งานของตัวเองเป็นงานที่คนได้ฉุกคิดมากขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องของเพศ แต่เป็นเรื่องของมนุษย์ที่ถูกแฝงในหลายๆ เรื่องที่ถูกสืบต่อกันมาเป็นเวลานาน อย่างเช่นการจัดดอกไม้ เพราะคนเราอาจชินกับความสวยงามของมัน จนลืมไปว่ามันมีบางอย่างแอบแฝงอยู่ในสิ่งนี้เหมือนกัน”
ประเด็นที่สนใจคือการจัดดอกไม้ในยุควิกตอเรียน พอมาถึงที่นี่ ไปตลาดดอกไม้ถึงได้รู้ว่า ดอกไม้ที่นี่ราคาแพงมาก ตอนที่มารีเสิร์ชกับคนสวนที่นี่ เขาบอกว่า flower is not for everyone ผมรู้สึกอินกับคำนี้มาก เพราะมันเป็นเรื่องจริง
“ประวัติศาสตร์การจัดดอกไม้ตั้งแต่ยุควิกตอเรียน เป็นสิ่งที่คนชนชั้นสูงสร้างขึ้นมา เพื่อที่จะทำให้กลุ่มของเขาเองมีสิ่งเหล่านี้รับรองไว้สำหรับพวกเขา เราจะเห็นได้จาก the language of flowers หรือภาษาดอกไม้ที่เราอ่านจากหนังสือ ที่บอกว่าดอกกุหลาบสีแดงสื่อถึงสิ่งนั้น สีเหลืองสื่อถึงสิ่งนี้ มันเป็นสิ่งที่คนยุควิกตอเรียนสร้างสิ่งนี้ขึ้นมา เพื่อให้เขาได้สื่อสารผ่านดอกไม้เฉพาะกลุ่มเขาเท่านั้น ผมคิดว่าสิ่งนี้มันทำให้เกิดการแบ่งแยกชนชั้นกันขึ้นมา”
งานชิ้นใหม่ของบอล
คนสวนที่นี่บอกว่า flower is not for everyone ผมรู้สึกอินกับคำนี้มาก เพราะมันเป็นเรื่องจริง Credit: SBS Thai// Supplied
บอลบอกกับเราว่า ณ ปัจจุบันเราสามารถซื้อดอกไม้ที่ไหนก็ได้ แต่ดอกไม้ทุกชนิดก็ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเจ้าของได้ ดอกไม้บางดอกมีราคาแพงมาก บางดอกถูกมาก ดอกไม้บางดอกใช้ได้เฉพาะแค่ในวัด คนเราไม่เอาดอกไม้ที่ใช้ในวัดมาจัดเป็นช่อเพื่อให้ในงานแต่งาน
กลายเป็นว่าชนชั้นที่ถูกแฝงอยู่ในการจัดดอกไม้ มันอยู่ในดอกไม้ ชนิดของมันอีกด้วย
“มนุษย์เป็นคนเอาสิ่งเหล่านี้ไปใส่ในตัวดอกไม้เองและพยายามสร้างเงื่อนไขให้กับมัน ทำให้คนทำตามสิ่งนี้มาเรื่อยๆ ทำให้การแบ่งชนชั้นในยุควิกตอเรียนมันดำเนินมาถึงยุคปัจจุบัน โดยที่เราไม้รู้ตัวว่าสิ่งนี้มันแอบแฝงอยู่มาโดยตลอด”

3.

ขลุกตัวอยู่ในสวนนี้เกือบทุกวัน มีต้นไหนที่ชอบเป็นพิเศษไหม เราโยนคำถามนี้ ก่อนที่เขาจะรับบทเป็นไกด์พาเราไปดูต้นที่เขาบอกว่า การได้มาเห็นกับตาถือว่า ‘ชีวิตนี้คุ้มแล้ว’

บอลเริ่มจากต้น Wollenmia nobilis หรือ Wollemi Pine เขาเล่าว่านี่คือสนชนิดหนึ่งที่เก่าแก่มากตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์ จริงๆ มีการค้นพบต้นนี้ที่รัฐ NSW แล้วมีการปกปิดเอาไว้ เพื่อป้องกันสายพันธุ์ ไม่ให้มีการขโมย หรือนำต้นออกมาปลูก มาขายต่อ เลยเป็นต้นไม้ที่พิเศษมากสำหรับสวนแห่งนี้

“ถ้าดูที่ใบจะเข้าใจเลยว่า ทำไมถึงเป็นต้นไม้จากยุคดึกดำบรรพ์ ใบมันพิเศษมาก สำหรับผมมันคล้ายหางไดโนเสาร์ เป็นต้นไม้พื้นถิ่นที่ชอบของที่นี่”
WOLLEMI PINE REGENERATION NSW
ต้น Wollemi Pine หรืออีกชื่อที่คนเรียกกันคือ wishing tree เพราะคนโบราณเชื่อว่าต้นไม้มี spirit ตั้งชื่อนี้เพื่อให้คนมาขอพร จากการสัมผัสต้น (AAP Image/Supplied by NSW Government) NO ARCHIVING Credit: PR IMAGE
“ผมชอบการให้ความสำคัญกับพีชท้องถิ่นของที่นี่มากๆ อย่างสวนแห่งนี้ก็เป็นสวนที่สร้างขึ้นมาเพื่อเก็บรักษาพืชท้องถิ่น”

นอกจากนี้บอลยังบอกอีกว่า ต้น Wollemi Pine หรืออีกชื่อที่คนเรียกกันคือ wishing tree เพราะคนโบราณเชื่อว่าต้นไม้มี spirit ตั้งชื่อนี้เพื่อให้คนมาขอพร จากการสัมผัสต้น

“ถ้าเราไปที่อื่น เราจะไม่ค่อยได้ยินสิ่งนี้เท่าไหร่ พืชท้องถิ่นของที่นี่ หรือของประเทศอะไรก็แล้วแต่ มันมีความสำคัญในการบอกที่มาที่ไปของประเทศนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี บางประเทศที่ไม่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง การที่เขามีสิ่งเหล่านี้ มันทำให้เขารู้รากเหง้าของตัวเองด้วย”

ส่วนต้นไม้ที่บอลบอกว่าชอบที่สุดของที่นี่ คือต้น Gymea Lily
Gymea lily, Doryanthes excelsa
การได้มาเห็นดอก Gymea Lily ถือว่าชีวิตคุ้มแล้วเหมือนกัน บอล นรภัทร เผยความในใจที่ได้เห็นดอกนี้ด้วยตาตัวเอง (Photo by: Auscape/Universal Images Group via Getty Images) Credit: Auscape/Universal Images Group via Getty
บอลอธิบายว่านี่คือต้นที่ชาวอะบอริจินใช้ในการทำอาหาร ยอดอ่อนและรากของมันสามารถกินได้

“พอได้เห็นดอกที่บานเต็มที่รู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะมันเป็นดอกไม้ที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต ได้เห็นแค่ภาพวาดยุคโบราณใน gallery เลยกลับไปรีเสิร์ชเกี่ยวกับต้นนี้ ถึงรู้เลยว่ามันเป็นต้นไม้ที่อยู่คู่ชาวอะบอริจินมานานมาก และเราจะเห็นต้นนี้อยู่ในทุกๆ ที่เพราะมันคือพืชท้องถิ่น ที่มีความเป็นมาเป็นไป และสำคัญกับชาวอะบอริจินมากๆ”
4.

“จริงๆ แล้วพอเราให้ความสำคัญกับพืชที่ท้องถิ่น เราจะรู้ว่าการหาต้นตอของพืชบางอย่างมันยากมาก ดอกกุหลาบคือหนึ่งในพืชที่เราสงสัยว่าทำใมบางดอกมีกลิ่นบางดอกไม่มี ด้วยความที่มันเป็นพืชที่เกษตรกรปลูกมาเพื่อขาย การที่จะให้ดอกไม้มีขนาดใหญ่ สวย สมบูรณ์แบบได้ คือการตัดต่อพันธุกรรม ทำให้กลิ่นหายไป พอกลิ่นหายไป ดอกมันก็ใหญ่มากขึ้น และยังคงสดได้ยาวนานแม้ถูกตัดออกมา”
งานชิ้นใหม่ของบอล
งานชิ้นใหม่ของบอล ที่ชวนตั้งคำถามถึงชนชั้นการจัดการดอกไม้ Credit: SBS Thai// Supplied
บอลในฐานะศิลปินผู้ใช้ดอกไม้และการจัดดอกไม้พื่อตั้งคำถามกับประเด็นสังคม เขากล่าวว่า มนุษย์เราต้องการของที่ไม่จีรังอย่างดอกไม้ ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน มันเลยเกิดการพัฒนาสายพันธุ์เพื่อให้ดอกไม้เหล่านี้ต้องสวยและคงทน อย่างต้น Wollemi Pine ที่มีความพยายามจะไม่บอกที่ที่สามารถเจอสายพันธุ์นี้ในธรรมชาติ ก็เพื่อรักษาสายพันธุ์ดั้งเดิมของมันเอาไว้

“เพราะทันทีที่ถูกยกมาปลูกในพื้นที่อื่น โอกาสในการกลายพันธุ์ก็จะสูงมากเช่นกัน ทำให้สายพันธุ์ที่ควรจะเป็นหายไป การจะกลับไปรากของมันก็จะยากมากขึ้น อย่างดอกเบจมาศเป็นดอกไม้ที่เราไม่สามารถกลับไปรากเดิมของมันได้อีกแล้ว เพราะมันคือดอกไม้ที่มีการปรับปรุงสายพันธุ์มาตลอดอย่างยาวนาน”

บอลยังมองด้วยว่าถ้ากรุงเทพมีสวนที่ปลูกเฉพาะพืชท้องถิ่นก็จะเป็นเรื่องดีที่ทำให้เราได้ไปศึกษา ได้รู้จักกับรากเหง้าของประเทศ
“ผมคิดถ้าเรารู้ว่าพืชตัวไหนอยู่กับประเทศเรามาตั้งแต่เริ่ม มันจะช่วยสามารถทำให้ดำดิ่งสู่รากของเราได้มากขึ้น ต้นไม้ที่เป็นพืชท้องถิ่นจะปรากฎอยู่ในภาพวาดมาโดยตลอด มันทำให้เรารู้ได้ว่านี่คือต้นที่อยู่กับคนมาหลายร้อยหลายพันปี”

“มันคงดีถ้ามันมีพื้นที่ให้คนไปศึกษามัน ผมคิดว่าในกรุงเทพก็อาจจะมี เพียงแต่มันไม่เปิดให้มีการพูดคุยมากขนาดนั้น ไม่ได้อยากเบลมประเทศขนาดนั้น แต่มันแค่ไม่ได้อยู่ในความสนใจของคนส่วนใหญ่เท่านั้นเอง มันทำให้เราไม่ได้เห็นความสำคัญมากขนาดนั้น ซึ่งก็ยอมรับว่าตัวเองก็เป็นหนึ่งในนั้น จนกระทั่งได้มาที่นี่ ทำให้รู้ว่าพืชท้องถิ่นมันสำคัญกับความเป็นเชื้อชาติ ความเป็นรากเหง้ามากขนาดไหน”

Share
Published 27 January 2025 4:05pm
Updated 29 January 2025 2:39pm
By Warich Noochouy
Source: SBS

Share this with family and friends


Recommended for you