ประเด็นสำคัญ:
- ในศตวรรษที่ 19 ผู้คนมักทำงาน 12 ชั่วโมงต่อวัน ทำ 6 วัน ต่อสัปดาห์
- ภายในปี 1939 มาตรฐานการทำงานต่อสัปดาห์ในออสเตรเลียลดลงเหลือ 44 ชั่วโมง ซึ่งกระจายชั่วโมงไปใน 5.5 วัน
- มาตรฐาน 38 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ที่ชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่ทำงานนั้นเริ่มใช้ในปี 1988
เป็นเวลาหลายทศวรรษแล้ว ที่หนึ่งสัปดาห์ของการทำงาน มีมาตรฐานที่ 38 ชั่วโมง โดยกระจายชั่วโมงเหล่านั้นไปใน 5 วัน
แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บางบริษัทได้เริ่มทดลองให้ลูกจ้างงาน 4 วัน รวม 32 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
แนวคิดเบื้องหลังคือ การทำงานในสัปดาห์ที่สั้นลงจะทำให้พนักงานมีความสมดุลมากขึ้นระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิต ในขณะที่เพิ่มผลิตภาพด้วย
ล่าสุดผลลัพธ์ของได้ให้น้ำหนักสนับสนุนสมมติฐานเหล่านั้น
ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงธันวาคมที่ผ่านมา พนักงานเกือบ 3,000 คนจาก 61 บริษัทในประเทศอังกฤษได้เข้าร่วมการโครงการทดลองนี้ ซึ่งจัดโดยกลุ่มไม่แสวงหาผลกำไร 4 Day Week Global ร่วมกับกลุ่ม Autonomy มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ และวิทยาลัยบอสตันในสหรัฐอเมริกา
นักวิจัยพบว่าการลดวันทำงานไม่ได้ส่งผลเสียต่อผลิตภาพ โดยรายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น 1.4 เปอร์เซ็นต์โดยเฉลี่ยตลอดการทดลอง สุขภาพโดยรวมและสวัสดิภาพของลูกจ้างดีขึ้น เช่นเดียวกับอัตราการรักษาพนักงานไว้ไม่ให้ย้ายไปทำงานที่อื่น
มากกว่าร้อยละ 90 ของบริษัทที่เข้าร่วมการทดลองกล่าวว่า พวกเขาวางแผนที่จะให้ลูกจ้างทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ต่อไป
ทำไมเราถึงมีมาตรฐานทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์?
ศาสตราจารย์วุฒิคุณ โทนี วีล แห่งคณะธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีซิดนีย์ กล่าวว่า การเปลี่ยนไปทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์เริ่มจากการผลักดันให้วันทำงานสั้นลง
ในเริ่มต้นของการปฏิวัติอุตสาหกรรม ผู้คนมักจะทำงานวันละ 12 ชั่วโมง 6 วันต่อสัปดาห์ โดยมีวันอาทิตย์เป็นวันหยุดเพียงวันเดียว
จากการประท้วงหยุดงานในปี 1856 ช่างก่อหินในรัฐวิกตอเรียกลายเป็นคนงานชาวออสเตรเลียกลุ่มแรกที่บรรลุข้อตกลงได้ทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวันโดยไม่เสียค่าจ้าง
แต่ต้องใช้เวลา 60 ปี กว่าที่จะกลายเป็นมาตรฐานสำหรับคนงานทั่วรัฐวิกตอเรียและรัฐนิวเซาท์เวลส์ โดยที่กฎหมายการทำงาน 8 ชั่วโมง (Eight Hours Act) ไม่ผ่านการอนุมัติในรัฐสภาของรัฐทั้งสองจนกระทั่งปี 1916
ในปี 1920 คนงานอุตสาหกรรมตัดไม้และวิศวกรของออสเตรเลียได้รับข้อกำหนดให้ทำงาน 44 ชั่วโมงหรือ 5.5 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งหลังจากนั้นได้นำไปใช้กับทุกอุตสาหกรรมในปี 1939 ซึ่งนั่นหมายความว่าสำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว พวกเขาต้องทำงานเต็มวันในวันจันทร์ถึงวันศุกร์ และทำงานครึ่งวันในวันเสาร์
“การเจรจาค่าจ้างที่เริ่มต้นในอุตสาหกรรมหนึ่งที่สหภาพแรงงานมีความแข็งแกร่ง หรือทำกำไรสูง จากนั้นก็มักจะขยายไปยังอุตสาหกรรมอื่นในที่สุด” ศ.วีล กล่าว
เกือบหนึ่งทศวรรษต่อมาในปี 1948 ศาลอนุญาโตตุลาการแห่งเครือจักรภพได้อนุมัติให้ชาวออสเตรเลียทุกคนทำงาน 40 ชั่วโมง ใน 5 วันต่อสัปดาห์ในปี 1948
ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างกว้างขวางในออสเตรเลียนั้น นายจ้างในบางประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกา ก็ลดชั่วโมงการทำงานของลูกจ้างลงโดยไม่ตัดค่าจ้าง
"มีตัวอย่างของเฮนรี ฟอร์ด ซึ่งตัวเขาเองได้ริเริ่มการทำงาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ในขณะที่ทุกคนทำงานกัน 50 ชั่วโมง ในช่วงปีทศวรรษ 1920" ศ.วีล กล่าว
"บริษัทเคลล็อกก์ (Kellogg) ก็ทำแบบเดียวกัน แต่พวกเขาถูกมองว่าเป็นทั้งบริษัทผู้บุกเบิกและบริษัทที่ค่อนข้างแปลก บริษัทอื่นๆ ในอุตสหกรรมจึงไม่ได้ทำตามอย่างจนกระทั่งนานพอสมควรหลังจากนั้น"
มาตรฐานการทำงาน 38 ชั่วโมงต่อสัปดาห์สำหรับผู้คนในออสเตรเลียส่วนใหญ่เกิดขึ้นในปี 1988
ในที่สุดทุกคนจะเปลี่ยนไปทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์หรือไม่?
ศ.มาร์ก วูดเดน จากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจและสังคมประยุกต์ ในเมลเบิร์น กล่าวว่า แม้ว่าการทำงาน 32 ชั่วโมงใน 4 วันต่อสัปดาห์อาจเป็นประโยชน์สำหรับบางบริษัท แต่แนวคิดที่ว่าสัปดาห์การทำงานที่สั้นลงอาจขยายตัวไปทั่วทั้งระบบเศรษฐกิจนั้น “เหลวไหล”
เขากล่าวว่าสำหรับอุตสาหกรรมที่ให้บริการแบบตัวต่อตัว เช่น การศึกษา การดูแลสุขภาพ การดูแลผู้สูงอายุ และช่างทำผม การทำงานแค่ 4 วันต่อสัปดาห์นั้นไม่คุ้มกับต้นทุน
“พยาบาลไม่สามารถพูดว่า 'เอาล่ะ วันศุกร์ฉันจะไม่ขึ้นวอร์ด ฉันจะทำงานเฉพาะวันจันทร์ถึงพฤหัสบดี'” ศ.มาร์ก วูดเดน กล่าว
“แน่นอนว่า พวกเขามีกะทำงานที่หลากหลาย แต่สุดท้ายแล้ว ถ้าพวกเขาต้องลดชั่วโมงทำงานลง 20 เปอร์เซ็นต์ พวกเขาก็จะต้องหาคนเพิ่มสำหรับงาน 20 เปอร์เซ็นต์นั้น”
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ
'ลดฮวบอย่างไม่หยุดยั้ง' นี่คือสาเหตุที่ Australia Post ต้องเปลี่ยนแปลง