ประเด็นสำคัญ
- การเดินทางไปต่างประเทศเสี่ยงต่อการติดโรคที่ไม่มีในออสเตรเลีย
- คุณปกป้องตัวเองได้ด้วยการฉีดวัคซีน
- ควรปรึกษาแพทย์ก่อนออกเดินทางอย่างน้อย 6 สัปดาห์
กด ▶ ฟังพอดคาสต์ด้านบน
องค์การอนามัยโลกแนะนำให้ผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศฉีดวัคซีน รวมถึงวัคซีนเฉพาะสำหรับบางภูมิภาคที่มีความเสี่ยงต่อการติดโรคเฉพาะถิ่นสูง
คุณเจน ฟราวลีย์ (Jane Frawley) รองศาสตราจารย์คณะสาธารณสุขแห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีซิดนีย์ (Faculty of Health at University of Technology Sydney) กล่าวว่าการเดินทางเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคร้ายแรงที่ไม่มีในออสเตรเลีย
สิ่งสุดท้ายที่คุณต้องการเมื่อคุณไปเที่ยวคือการป่วย
"และการไปเที่ยวต่างประเทศมักเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคที่อาจไม่มีในออสเตรเลีย เช่น วัณโรค ไทฟอยด์ โรคพิษสุนัขบ้า และไข้เหลืองเป็นต้น”
มีวัคซีนหลายประเภทที่จำเป็นสำหรับผู้ที่จะเดินทางออกนอกออสเตรเลีย
อาจมีโรคระบาดใหม่ที่ต้องใช้วัคซีนใหม่ รองศาสตราจารย์ฟราวลีย์อธิบาย
เชื้อโรคแพร่หลายมากขึ้นและบางครั้งมีการระบาดเฉพาะถิ่นในประเทศอื่น
"ซึ่งร่างกายและระบบภูมิคุ้มกันของคุณอาจไม่เคยเจอมาก่อน ดังนั้นการฉีดวัคซีนจึงสำคัญมากเพื่อป้องกันตัวคุณเอง”
วัคซีนนั้นขึ้นอยู่กับประเทศจุดหมายปลายทางและระยะเวลาพำนัก
การขอคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมและเจาะจงตามจุดหมายปลายทางและตามความต้องการเฉพาะด้านสุขภาพรายบุคคล
รองศาสตราจารย์ฟราวลีย์แนะนำให้ผู้ที่จะเดินทางปรึกษากับแพทย์รักษาโรคทั่วไป (GP) เพื่อพิจารณาวัคซีนที่จำเป็นกับการเดินทาง
“ขึ้นอยู่กับประเทศที่คุณจะไป แต่ละประเทศมีรายละเอียดวัคซีน บางประเทศมีการกำหนดวัคซีนบังคับด้วย ดังนั้นหากคุณต้องไปที่ประเทศนั้น คุณต้องมีหลักฐานว่าคุณได้ฉีดวัคซีนตามที่กำหนดแล้ว แพทย์จีพีจะทราบข้อมูลนั้นรวมถึงวัคซีนที่คุณเคยฉีดแล้ว ตัวอย่างเช่น แพทย์จะทราบว่าคุณต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นบาดทะยักหรือวัคซีนกระตุ้นโควิดหรือไม่”
การเลือกฉีดวัคซีนอะไรนั้นขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเดินทางไปที่ไหนและนานเท่าไหร่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
เข้าประเทศออสเตรเลีย: อะไรที่ต้องสำแดง อะไรที่นำเข้าไม่ได้
ศาสตราจารย์ฟราวลีย์ยังเน้นถึงเรื่องสำคัญคืออย่าปล่อยเวลาไว้จวนตัว เพราะวัคซีนบางตัวอาจต้องฉีดมากกว่า 1 โดส
หลายคนลืมเรื่องวัคซีนไปจนเกือบจะถึงเวลาที่พวกเขาจะเดินทางจึงค่อยนัดแพทย์จีพี ซึ่งมักจะสายเกินไป
"ต้องใช้เวลาสักหน่อยกว่าที่วัคซีนจะเข้าระบบภูมิคุ้มกันของคุณเพื่อให้มีการปกป้องที่ดี อย่างน้อยคือ 6 สัปดาห์ แต่ควรอยู่ที่ประมาณ 12 สัปดาห์ หรือ 3 เดือนก่อนที่คุณจะเดินทาง”
ศาสตราจารย์นิโคลัส วูด (Nicholas Wood) ผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยซิดนีย์ (Clinical Vaccinology at University of Sydney) ระบุว่าวัคซีนที่คุณต้องการนั้นต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น สุขภาพ อายุ การใช้ชีวิตและอาชีพของคุณ
เรียกสั้นๆ ว่า HALO (Health Age Lifestyle and Occupation)
“ถ้าสุขภาพของคุณไม่ดีและคุณต้องใช้ยาตามอาการหรือยากดภูมิคุ้มกัน (immune suppressants) หรือคุณต้องฉีดวัคซีนไข้หวัดเป็นประจำ คุณควรบอกว่าเป็นโรคเบาหวาน โรคปอดเรื้อรัง หรือฉันรับประทานยากดภูมิอยู่ และฉันต้องเดินทาง และต้องฉีดวัคซีนเพิ่มเติม”
ความเสี่ยงติดโรคแตกต่างไปตามแต่ละภูมิภาคและเวลา
ศาสตราจารย์วูดกล่าวว่าโรคเหล่านี้อาจทำให้ป่วยหนัก แม้กับผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง เช่น โรคพิษสุนัขบ้า
“การมีวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเดินทางไปที่ไหน เพราะบางที่อาจไม่มียารักษาโรคนี้ หากคุณเป็นโรคพิษสุนัขบ้า คุณจะป่วยหนักมาก คุณอาจติดโรคนี้ได้ในบางประเทศ หากคุณโดนกัดจากสุนัขหรือค้างคาวที่ติดเชื้อ”
ศาสตราจารย์วูดกล่าวต่ออีกว่า มีวัคซีนอื่นๆ ที่ยังสามารถปกป้องคุณไม่ให้ป่วยหนัก
“โรคไทฟอยด์ก็สำคัญ คุณรู้ไหมว่ามีหลายคนที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลจากอาการไทฟอยด์เป็นพิษในเลือด โรคนี้รักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ แต่มันก็จะทำลายการเที่ยวของคุณไปเลยจริงๆ บางครั้งคุณอาจต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยโรคไทฟอยด์ เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากโรคไข้กาฬหลังแอ่นมันรุนแรงมาก โรคไข้สมองอักเสบญี่ปุ่นก็ร้ายแรงเช่นกัน"
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเดินทางไปที่ไหน
นักท่องเที่ยวลากกระเป๋าที่สนามบิน Source: iStockphoto / 06photo/Getty Images/iStockphoto
“ถ้าคุณฉีดวัคซีนบาดทะยักเมื่อนานมาแล้ว และคุณเกิดอุบัติเหตุที่เสี่ยงเกิดบาดทะยัก เช่น คุณล้มลงและถูกของมีคมที่มีสนิมหรือสกปรกบาด หากคุณอยู่ที่ออสเตรเลีย คุณสามารถพบแพทย์และแผลจะถูกทำความสะอาดอย่างทั่วถึง แต่หากคุณอยู่ต่างประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล"
การขอรับการรักษาจากแพทย์มักเป็นเรื่องยากและราคาแพง
รองศาสตราจารย์ฟราวลีย์เตือนว่าอย่าลืมนึกถึงโควิด-19 ด้วย
“ปรึกษาแพทย์จีพีเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 หากคุณได้รับวัคซีนเมื่อ 6 เดือนที่แล้วหรือคุณติดโควิด ควรฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น โควิด-19 ยังคงระบาดทั่วโลก ทุกประเทศ และคุณมีความเสี่ยงสูงขึ้นตอนที่คุณเดินทางโดยเครื่องบิน อยู่บนเรือสำราญ บนรถเมล์ และในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน”
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ททท. มองอนาคตท่องเที่ยวไทยหลังโควิด
ในบางกรณีอาจเกิดอาการแพ้วัคซีน หากคุณกังวลเรื่องผลข้างเคียงจากวัคซีน ควรปรึกษาแพทย์
คุณสามารถรายงานและปรึกษาเรื่องผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนกับ ที่เบอร์ 1300 633 424 (1300 MEDICINE)
สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนในต่างประเทศ คุณควรบันทึกวัคซีนนั้นไว้ใน(Australian Immunisation Register หรือ AIR) ก่อนที่จะออกใบรับรอง
เฉพาะผู้เชี่ยวชาญทางแพทย์ของออสเตรเลียเท่านั้นที่จะสามารถลงบันทึกได้ คุณสามารถสอบถามแพทย์จีพีหรือผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์อื่นๆ ได้
ผู้ที่กำลังจะเดินทางไปต่างประเทศสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้อีกที่ และ
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
เอ็นโดมาออสฯ ครั้งแรกในชีวิต แต่ถูก ตม.ส่งกลับหลังตอบคำถามนี้