ประเด็นสำคัญ
- ออสเตรเลียเลื่อนแผนเปิดพรมแดนระหว่างประเทศไปอีก 2 สัปดาห์ จากเดิม 1 ธ.ค. ไปเป็นวันที่ 15 ธ.ค.
- นักศึกษาต่างชาติ และผู้ถือวีซ่าแรงงานทักษะ ต้องสูญเงินหลายพันดอลลาร์ไปกับตั๋วเครื่องบินที่ซื้อไว้ก่อนหน้า จากการประกาศเลื่อนเปิดประเทศอย่างกะทันหัน
- รัฐบาลออสเตรเลียยังคงย้ำว่า การเลื่อนวันเปิดประเทศ ‘เป็นการระงับชั่วคราว และเพื่อเฝ้าระวัง’ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
- ผู้ถือวีซ่านักเรียนชาวไทยเปิดใจกับเอสบีเอส ไทย หลังสูญเงินหลายหมื่น-ขอคืนไม่ได้ ชี้แผนเปิดออสเตรเลียไม่เคยชัดเจน หมดความหวังแล้วกับประเทศนี้
เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา รัฐบาลออสเตรเลียได้ประกาศว่า พรมแดนระหว่างประเทศของออสเตรเลียจะกลับมาเปิดอีกครั้งสำหรับนักศึกษาต่างชาติ และผู้ถือวีซ่าแรงงานทักษะของออสเตรเลีย ในวันที่ 1 ธ.ค.
แต่เมื่อช่วงดึกของวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ประกาศเลื่อนวันเปิดพรมแดนระหว่างประเทศออกไปอย่างกะทันกันไปเป็นวันที่ 15 ธ.ค. ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
การประกาศนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเพียง 2 วันก่อนถึงกำหนดวันเปิดประเทศเดิม 1 ธ.ค. ทำให้เกิดความไม่พอใจอย่างมากในบรรดาผู้ถือวีซ่านักเรียน และวีซ่าอื่น ๆ ของออสเตรเลียหลายพันคน ซึ่งส่วนมากจ่ายเงินเพื่อซื้อตั๋วเครื่องบิน ประกันเดินทาง วางเงินมัดจำกับที่พักอาศัย รวมถึงจ่ายค่าเล่าเรียนให้กับสถานศึกษาในออสเตรเลียไปแล้ว
'เข็ดแล้วกับประเทศนี้'
LISTEN TO
ออสฯ เลื่อนเปิดประเทศ นศ.ต่างชาติ-แรงงานทักษะสูญเงินอ่วม
SBS Thai
01/12/202106:42
คุณบี (นามสมมุติ) เป็นชาวไทยที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันนี้ เขาได้จองตั๋วเครื่องบิน จองที่พักอาศัยในออสเตรเลียไว้ล่วงหน้า หลังวีซ่านักเรียนได้รับการอนุมัติเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา คุณบีมีกำหนดเดินทางมายังออสเตรเลียในวันศุกร์นี้ (3 ธ.ค.)คุณบี กล่าวกับเอสบีเอส ไทย ว่า ทันทีที่ได้ทราบข่าวการเลื่อนวันเปิดประเทศ เขารู้สึกผิดหวังอย่างมาก หลังจากที่เฝ้ารอการเปิดประเทศมาตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา คุณบีไม่สามารถเลื่อนวันเดินทาง หรือขอคืนเงินค่าตั๋วเครื่องบินได้ ไม่ได้รับการชดเชยใด ๆ จากประกันการเดินทาง และถูกยึดค่ามัดจำจากที่พักอาศัยที่จองไว้ในออสเตรเลีย
คุณบี (นามสมมุติ) ผู้ถือวีซ่านักเรียนชาวไทย Source: SBS Thai
“ผมจองตั๋วเครื่องบินไว้ จะบินวันที่ 3 ธ.ค. ด้วยความที่ออสเตรเลียเลื่อนการเปิดประเทศ ก็ทำให้ไฟลต์บินของผม ผมจองไว้ 3-4 เที่ยวบิน ผมก็เลื่อนไม่ได้ โทรไปถามประกันว่าเคลมได้ไหม ประกันก็บอกว่ามันไม่ได้อยู่ในเงื่อนไข ก็เคลมไม่ได้ ทางสายการบินก็ไม่ได้รับผิดชอบด้วย
“แล้วผมก็จองห้องพักไว้ที่โน่น (ออสเตรเลีย) ด้วย ผมก็ติดต่อไป เขาก็บอกว่า เราไม่ได้มาตามกำหนดเขา เขาจะคิดเงินค่ามัดจำไว้ด้วย ผมก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร”
“ถ้ารวมประมาณค่าที่พัก ค่า bond ค่าตั๋วเครื่องบินด้วย ก็ประมาณ 30,000 กว่าบาท” คุณบี กล่าว
คุณบีกล่าวว่า รัฐบาลออสเตรเลียควรที่จะมีแนวทางในการรับมือที่ดีกว่านี้ เนื่องจากการเลื่อนวันเปิดประเทศ ส่งผลกระทบต่อผู้ถือวีซ่าในหลายด้าน
“ก็อยากจะให้รัฐบาลกำหนดเปิดให้มันแน่นอนหน่อย พูดตรง ๆ ผมก็รอการเปิดประเทศมาหลายครั้งแล้ว รอมาตั้งแต่มิถุนายนแล้ว แล้วก็เลื่อนมาตลอด จนตอนนี้เรารู้สึกว่าเราไม่อยากจะคาดหวังแล้ว”
“ถ้ากังวลก็น่าจะเพิ่มมาตรการ อย่างเช่นว่า ให้เข้ามา แต่อาจจะกักตัว มันก็น่าจะโอเคกว่าจะมาเลื่อนแบบนี้ เพราะเลื่อนแบบนี้มันส่งผลกระทบเยอะมาก ทั้งเที่ยวบิน ทั้งที่พัก”
แต่ถึงแม้จะมีกำหนดวันที่แน่นอนในการเปิดประเทศ แต่สำหรับคุณบี แม้พรมแดนจะกลับมาเปิดอีกครั้ง แต่เขาก็ถอดใจกับการเดินทางมาออสเตรเลียไปแล้ว
“ในใจคิดว่าเข็ดแล้ว เข็ดแล้วกับประเทศนี้” คุณบีกล่าว
“ถึงแม้ว่าออสเตรเลียจะเปิดพรมแดนแล้ว แต่เราก็ไม่มีความมั่นใจอีก คือเราขาดความมั่นใจกับประเทศนี้ไปแล้ว ก็คิดว่าคงจะไปเรียนที่แคนาดา หรือไม่ก็อังกฤษแทน”
'เราเสียหายย่อยยับ'
สำหรับ อังคูร์ กุปตะ (Ankur Gupta) ก่อนหน้านี้ที่รัฐบาลประกาศวันเปิดประเทศว่าเป็นวันที่ 1 ธ.ค.ชีวิตของเขากลับมาเข้ารูปเข้ารอยในเวลานั้น เขารีบจองตั๋วกับสายการบิน แอร์ อินเดีย เส้นทาง นิวเดลี-ซิดนีย์ สำหรับตัวเขาเอง พร้อมกับภรรยา และบุตรชายผู้ติดตาม ทั้งหมดมีกำหนดออกเดินทางมายังออสเตรเลียในวันที่ 4 ธ.ค.
คุณกุปตะ ซึ่งกำลังศึกษาเพื่อให้ได้รับประกาศนียบัตรด้านการเป็นผู้นำและการจัดการกับสถานบันแห่งหนึ่งในนครเมลเบิร์น เปิดเผยกับเอสบีเอส ภาคภาษาปัญจาบว่า เขาต้องหมดเงินชนิดกระเป๋าฉีก เพื่อจองตั๋วเครื่องบินเดินทางมายังออสเตรเลีย
“ผมต้องหมดเงินกับตั๋วแต่ละใบไปเกือบ 135,000 รูปี (เกือบ $2,500 ดอลลาร์) ” คุณกุปตะ กล่าว
คุณกุปตะ กล่าวว่า ชีวิตของเขาพังครืนเมื่อรัฐบาลออสเตรเลียประกาศว่า ออสเตรเลียจะเลื่อนวันเปิดประเทศออกไปเป็นวันที่ 15 ธ.ค.
“เราเสียหายย่อยยับ ผมอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้เลยว่าผมรู้สึกยังไง โชคไม่ดีที่วีซ่าของผมจะหมดอายุในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ ซึ่งหมายความว่า ผมจะไม่มีหนทางได้กลับไปออสเตรเลียอีก นอกจากผมจะได้วีซ่านักเรียนใหม่อีกครั้ง” คุณกุปตะ กล่าว
“และที่ทำให้แย่ไปกว่านั้น ผมหมดเงินไปแล้วเกือบ $7,500 ดอลลาร์ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ออกไปก่อนล่วงหน้า มันเป็นจำนวนเงินที่มากเกินไปสำหรับใครสักคนที่ถือวีซ่านักเรียน แม้ทราเวลเอเจนท์ของผมจะยืนยันว่าขอค่าตั๋วคืนได้ แต่ผมไม่รู้เลยว่าจะได้เงินคืนเมื่อไหร่”
นักศึกษาต่างชาติ และผู้ถือวีซ่าออสเตรเลียต้องลำบาก หลังรัฐบาลเลื่อนวันเปิดพรมแดนระหว่างประเทศ Source: Getty Images/mikkelwilliam
‘เราจะไม่กลับไปล็อกดาวน์อีก’
นักศึกษาต่างชาติ ผู้ถือวีซ่าแรงงานทักษะ และผู้ถือวีซ่าด้านมนุษยธรรมเกือบ 2 แสนคน มีกำหนดที่จะได้รับอนุญาตให้เข้าออสเตรเลียตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปโดยไม่ต้องกักตัว หากพวกเขาฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว แต่รัฐบาลสหพันธรัฐได้เลื่อนแผนเปิดประเทศออกไปอีก 2 สัปดาห์ เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนให้มากขึ้น
นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ได้ออกมาปกป้องการตัดสินใจดังกล่าว โดยระบุว่า จะไม่มีการกลับไปใช้มาตรการที่เข้มงวด โดยย้ำว่าจะไม่มีมาตรการล็อกดาวน์ หรือมาตรการจำกัดพรมแดนภายในประเทศอีกต่อไป
“เราจะไม่กลับไปล็อกดาวน์อีก ไม่มีใครต้องการสิ่งนั้น” นายมอร์ริสัน กล่าว โดยให้ความหวังว่า พรมแดนระหว่างประเทศอาจเปิดอีกครั้งก่อนเทศกาลคริสต์มาสนี้
Australian Prime Minister Scott Morrison has urged calm after the Omicron variant was detected in Australia. Source: AAP
แม้แผนเปิดพรมแดนระหว่างประเทศของรัฐบาลสหพันธรัฐจะถูกเลื่อนออกไป แต่รัฐนิวเซาท์เวลส์ได้ประกาศว่า จะยังคงดำเนินโครงการนำร่อง เพื่อนำนักศึกษาต่างชาติกลับมา ตามที่ได้มีการประกาศไว้ตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา
นางแคเรน แอนดรูส์ รัฐมนตรีมหาดไทยของออสเตรเลีย ได้กล่าวต่อรัฐสภาว่า รัฐบาลคำนึงถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงแผนเปิดพรมแดนระหว่างประเทศที่มีต่อผู้ถือวีซ่าออสเตรเลีย
“เราได้ทำการตัดสินใจในเรื่องนี้อย่างสมเหตุสมผลและรอบคอบที่สุด บนพื้นฐานของคำแนะนำด้านสุขภาพ และคำแนะนำนั้นก็คือ เราจำเป็นจะต้องระงับขั้นตอนต่อไปของการเปิดพรมแดนระหว่างประเทศอีกครั้ง” นางแอนดรูส์ กล่าวต่อรัฐสภาในวันนี้ (1 ธ.ค.)
นางแอนดรูส์ เสริมว่า รัฐบาลนายมอร์ริสันมีความมุ่งมั่นอย่างยิ่ง ในการทำทุกวิถีทางเพื่อเปิดพรมแดนระหว่างประเทศอีกครั้งโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
“เราจำเป็นต้องทำสิ่งนั้นอย่างปลอดภัยและรอบคอบที่สุด” นางแอนดรูส์ กล่าว
นอกจากการระงับแผนเปิดพรมแดนระหว่างประเทศในช่วงต้นเดือน ธ.ค.นี้ รัฐบาลยังได้ระงับเที่ยวบินต่าง ๆ จากกลุ่ม 8 ประเทศในแอฟริกาใต้ และนำข้อกำหนดในการกักกันโรคกลับมาใช้อีกครั้ง สำหรับผู้เดินทางมาถึงออสเตรเลียจากพื้นที่ดังกล่าว
ผู้เดินทางมาถึงออสเตรเลียจากต่างประเทศจะต้องกักตัวเป็นเวลา 72 ชั่วโมงเมื่อเดินทางมาถึงรัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐวิกตอเรีย และมณฑลนครหลวงออสเตรเลีย ส่วนในรัฐและมณฑลอื่น ๆ ผู้เดินทางมาถึงจากต่างประเทศจะต้องเข้ากักตัวในสถานที่ซึ่งมีการจัดการเป็นเวลา 14 วัน และมีการตั้งโควตาจำกัดจำนวนผู้เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในส่วนของมาตรการจำกัดพรมแดน หรือมาตรการกักกันโรค ในการหารือของคณะรัฐบาลแห่งชาติเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (30 พ.ย.) โดยคาดว่า คณะรัฐบาลแห่งชาติจะมีนัดหารืออีกครั้งในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ เพื่อประเมินสถานการณ์
สายการบินจะต้องรับผิดชอบ
คุณลัฟพรีต สิงห์ (Luvpreet Singh) ผู้ถือวีซ่าชั่วคราวสำหรับผู้สำเร็จการศึกษา และภรรยาของเขา ได้รับข่าวร้ายเรื่องการเลื่อนเปิดประเทศก่อนเวลาเดินทางเพื่อไปขึ้นเครื่องที่กรุงนิวเดลีเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว พวกเขาก็จะเดินทางมาถึงนครซิดนีย์ในช่วงเช้าวันนี้ (1 ธ.ค.)“ตอนนี้ ผมอาจต้องเสียเงินค่าตั๋วเครื่องบินไปหลายพันดอลลาร์ ซึ่งไม่สามารถขอคืนเงินได้ แต่ทำได้เพียงแค่เลื่อนวันเดินทางเท่านั้น เราไม่มีเวลาเพื่อเตรียมแผนอื่นเลย” คุณสิงห์ ในวัย 31 ปี กล่าว
คุณลัฟพรีต สิงห์ (Luvpreet Singh) อาจต้องสูญเงินค่าตั๋วเครื่องบินไปหลายพันดอลลาร์ จากการเลื่อนวันเปิดประเทศของออสเตรเลีย Source: Supplied by Luvpreet Singh
“แต่ด้วยเหตุการณ์ในตอนนี้ ไม่มีอะไรรับประกันได้ มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลอาจจะเลื่อนวันเปิดประเทศออกไปอีก”
คุณสิงห์ ย้ำว่า สายการบินจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการคืนเงินให้ผู้โดยสาร ที่ต้องถูกบังคับให้ยกเลิกตั๋วเดินทางในนาทีสุดท้าย โดยที่ไม่ใช่ความผิดของพวกเขาเลย
ถึง 15 ธ.ค.แล้ว จะเลื่อนวันเปิดประเทศอีกหรือเปล่า
ส่วนกรณีคำถามที่ว่า มาตรการจำกัดพรมแดนจะถูกยืดเวลาออกไปจากวันที่ 15 ธ.ค.นี้หรือไม่ นายเกร็ก ฮันท์ รัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลีย กล่าวว่า การตัดสินใจของรัฐบาลในการระงับแผนเปิดประเทศนั้นได้เกิดขึ้น “จากคำเตือนมากมาย” และการตัดสินใจว่าจะยืดเวลาเปิดประเทศออกไปหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับคำแนะนำทางการแพทย์
“ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากการสันนิษฐานว่า เราจะเปิดประเทศอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.นี้ แต่คำแนะนำทางการแพทย์จะเป็นตัวชี้นำการตัดสินใจของเรา” นายฮันท์ กล่าว
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
ออสฯ เลื่อนเปิดพรมแดนเพราะโอไมครอน