เคราะห์ซ้ำซัดนักศึกษาต่างชาติที่กำลังวางแผนจะมาศึกษาต่อในต่างประเทศ และมหาวิทยาลัยในออสเตรเลียที่พึ่งพารายได้จากนักศึกษา
รัฐบาลสหพันธรัฐชะลอการเปิดพรมแดนออสเตรเลียแก่แรงงานต่างชาติที่มีทักษะและนักศึกษาต่างชาติอีกครั้ง เป็นเวลาอีกสองสัปดาห์
การตัดสินใจครั้งนี้เป็นการเตรียมรับมือกับการแจ้งเตือนขององค์การอนามัยโลก (World Health Organisation) ต่อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน (Omicron)
ข้อมูลจากกรมสามัญศึกษา ทักษะและการจ้างงานเมื่อต้นปีเผยว่า มหาวิทยาลัยทั่วออสเตรเลียประสบกับปัญหาการลงทะเบียนที่ลดลงอย่างหนักและการเริ่มเรียนหลักสูตรใหม่ในปี 2021
นางแคทริโอนา แจ็กสัน (Catriona Jackson) ผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัยออสเตรเลีย กล่าวว่าเป็นเรื่องที่น่ากังวล
“ตัวเลขทำให้ฉันกังวลจริงๆ คือการเริ่มเรียนที่ลดลงถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่นักเรียนที่อยู่ในระบบ แต่เป็นนักเรียนที่กำลังจะเริ่มต้น ที่จะเริ่มเรียนในปีแรก เห็นได้ชัดว่า เป็นผลของการปิดพรมแดน และนักเรียนต้องเลื่อนการศึกษาออกไปอีกปีหนึ่ง”
ออสเตรเลียเคยเป็นจุดหมายปลายทางของการศึกษาที่รั้งอันดับสามของโลก ก่อนวิกฤตโควิด ด้วยภาคการศึกษาที่รายได้สูงดึง $37.6 พันล้านดอลล่าร์
หลังจากพรมแดนปิดเกือบสองปี รายได้ของภาคส่วนนี้ลดลงเหลือ $26.7 พันล้านดอลล่าร์
คุณดิวิชา กุปตา (Devij Gupta) เป็นนักศึกษาสาขาวิชาพาณิชยศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น ออสเตรเลีย (University of Western Australia) ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว
ถึงแม้ว่าเขาจะมีส่วนสนับสนุนเศรษฐกิจของออสเตรเลีย แต่เขาไม่เคยได้ก้าวเหยียบพื้นดินออสเตรเลียเลยตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัย
ผมไม่สามารถที่จะไปอยู่ในออสเตรเลียได้ แม้จะเรียนจบมาหนึ่งปีแล้ว มันช่างปวดใจ ผมรู้สึกเหมือนถูกทิ้ง และผมรู้สึกว่ารัฐบาลควรทำอะไรมากกว่านี้เพื่อให้พวกเรากลับมา เราพร้อมที่จะปฏิบัติตามกฎและข้อกำหนดทั้งหมด ข้อกำหนดเรื่องสุขภาพทั้งหมด แต่พวกเขาก็ยังไม่ต้องการให้เรากลับไป มันน่าเศร้า
คุณกุปตาพูดคุยกับเอสบีเอสจากบ้านของเขาในมุมไบ (Mumbai) ประเทศอินเดีย (India) เขามีกำหนดที่จะมาถึงออสเตรเลียเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อตอนที่รัฐบาลสหพันธรัฐประกาศว่าจะเลื่อนการเปิดประเทศต่อนักศึกษาต่างชาติ
“ผมควรจะไปถึงออสเตรเลียแล้ว ถึงเมืองเมลเบิร์น ในวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา ผมเตรียมที่จะเดินทางไปลงเมลเบิร์น แต่เที่ยวบินก็ล่าช้าอีกครั้ง ผมจ่ายเงินค่าตั๋วเครื่องบินแบบเที่ยวเดียวไปเมลเบิร์นแล้ว $2,500 ดอลล่าร์ นั่นไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายอย่างอื่นนอกจากค่าเที่ยวบิน และผมกังวลว่าผมจะต้องจ่ายเงินอีกก้อนใหญ่สำหรับค่ากักตัวในโรงแรม และจากที่ผมเห็น ผมกังวลว่าพรมแดนจะเปิดล่าช้าอีกครั้ง” ในขณะที่เขาตั้งใจแน่วแน่แล้วจะจะมาศึกษาต่อในออสเตรเลีย หลังจากเรียนจบหลักสูตรออนไลน์ คุณกุปตากล่าวว่านักศึกษาต่างชาติหลายคนกำลังคิดทบทวนแผนการศึกษาต่อในประเทศออสเตรเลีย เป็นเหตุจากความท่าทีเข้มงวดและการเปิดพรมแดนที่ไม่แน่นอน
เครื่องบินจอดที่รันเวย์ในสนามบิน Source: Pexels/Ekky Wicaksono
คุณบาดรี อาร์ยัล (Badri Aryal) ผู้อำนวยการของเอ็กซ์เพิร์ด เอ็ดดูเคชั่น (Expert Education) บริษัทในซิดนีย์ที่เชี่ยวชาญในการดึงดูดนักศึกษาต่างชาติมาที่ออสเตรเลีย
เขากล่าวว่านักศึกษาหลายคนยอมแพ้กับออสเตรเลียแล้ว
“เราทำงานกับหลายประเทศทั่วโลก แต่เมื่อผมมองไปที่ประเทศอินเดีย ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ที่ควรจะมาที่ออสเตรเลีย พวกเขากำลังไปที่อังกฤษ แคนาดา หรือสหรัฐอเมริกา เราทำงานในภาคส่วนนี้มาระยะหนึ่งแล้ว และในสองปีให้หลัง เราประสบกับปัญหาหนัก”
คุณบี (นามสมมุติ) ผู้ถือวีซ่านักเรียนชาวไทย กล่าวว่า
ถ้ากังวลก็น่าจะเพิ่มมาตรการ อย่างเช่นว่า ให้เข้ามา แต่อาจจะกักตัว มันก็น่าจะโอเคกว่าจะมาเลื่อนแบบนี้ เพราะเลื่อนแบบนี้มันส่งผลกระทบเยอะมาก ทั้งเที่ยวบิน ทั้งที่พัก ในใจคิดว่าเข็ดแล้ว เข็ดแล้วกับประเทศนี้ ไม่อยากจะไปแล้วเงี้ยะครับ
คุณศาคาวัฒน์ อาลี (Sakhawat Alee) เป็นหนึ่งในนักศึกษาต่างชาติที่ตัดสินใจเลือกเรียนที่อื่น
เขาเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยแมควอรี่ (Macquarie University) ที่ซิดนีย์ ในเดือนมีนาคม 2020 เขาเดินทางกลับบ้านของเขาที่เมืองคุชราต (Gujarat) ประเทศปากีสถาน จากเหตุความฉุกเฉินในครอบครัว
ในระหว่างทางกลับไปซิดนีย์ คุณอาลีซึ่งอยู่ที่สนามบินนานาชาติในปากีสถานเพื่อรอขึ้นเครื่อง และเขาได้ยินว่าออสเตรเลียกำลังปิดพรมแดนต่อผู้ที่ไม่ใช่พลเมืองและผู้พำนักถาวร
นี่เป็นคำพูดของคุณศาคาวัฒน์ แต่ไม่ใช่เสียงของเขา
"ผมพลาดเวลานั้นไปแค่ 9 ชั่วโมง เที่ยวบินของผมควรจะต้องลงจอดในเวลาเช้าของวันที่ 21 มีนาคม หนึ่งปีหลังจากนั้น ผมเฝ้ารอให้ออสเตรเลียเปิดพรมแดนให้นักศึกษาต่างชาติอีกครั้ง ผมต้องเลื่อนเรียนไปสองครั้งแล้ว"ในเดือนมีนาคม 2021 นายอาลียอมแพ้และตัดสินใจไปศึกษาต่อที่สหราชอาณาจักรแทน ในตอนนี้เขาเป็นนักศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยแบรดฟอร์ด (Bradford University)
เด็กนักศึกษาที่มหาวิทยาลัย Source: Pexels/Zen Chung
“มีนักศึกษาต่างชาติอีก 5 คนที่ผมอาศัยอยู่ด้วยในแบรดฟอร์ด เราผ่านประสบการณ์คล้ายกัน จริงๆ แล้วผมรู้จักนักศึกษาอีก 25 คนที่กำลังเรียนอยู่ที่ออสเตรเลีย ซึ่งไม่สามารถเดินทางกลับได้เนื่องจากการปิดพรมแดน พวกเขาเลยไปเรียนต่อที่ประเทศอื่น”
คุณแคทริโอนา แจ็กสัน กล่าวว่า ประเทศอื่น เช่น สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา แคนาดา กำลังได้เปรียบจากนโยบายปิดพรมแดนที่เข้มงวดของออสเตรเลีย
“ฉันคิดว่ารัฐบางตระหนักดีถึงความจริงเรื่อง การศึกษาระหว่างประเทศนั้นมีการแข่งขันสูง และประเทศคู่แข่งอย่างสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา กำลังฉวยโอกาสจากช่วงเวลานี้ พรมแดนระหว่างประเทศของพวกเขาไม่ได้ปิด เราทราบว่าตัวเลขนักศึกษาต่างชาติในสหราชอาณาจักรพุ่งสูงขึ้น เราไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นตัวเลขจากคนที่วางแผนจะมาออสเตรเลียหรือไม่ แต่เราตระหนักและตื่นตัวในเรื่องนี้ เรากำลังทำทุกอย่างที่เราทำได้ เพื่อให้มั่นใจว่ารัฐบาลรับทราบและตื่นตัวกับเรื่องนี้ และมันเป็นเรื่องที่ออสเตรเลียควรแก้ไข”
คุณบาดรี อาร์ยัลกล่าวว่า ออสเตรเลียสามารถรับมือกับเรื่องนี้ได้โดยไม่ต้องปิดพรมแดนอย่างรวดเร็ว
ไวรัสสายพันธุ์ใหม่จะมีมาอีกเป็นครั้งคราวตามที่เราคาดไว้ แต่การปิดพรมแดนไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา ดังนั้น เราควรมีแนวทางเชิงรุกในเรื่องนี้ ในเรื่องของการวางแผนรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ แน่นอน มีเกิดการชะงักในหลายสิ่งในตอนนี้
คุณแจ็กสันกล่าวอีกว่า
“แน่นอนว่า มีข้อโต้แย้งในเรื่องที่ว่าการเดินทางมาที่ออสเตรเลียยากกว่า ออสเตรเลียเลือกที่จะใช้วิธีปิดพรมแดนเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด และนั่นเป็นวิธีที่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ ในฐานะมหาวิทยาลัย เราต้องสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ นักศึกษาต่างชาติหลายคนที่จะมาจากต่างประเทศมาเรียนเพื่อเป็นนักวิทยาศาสตร์ แพทย์ และมาศึกษาเพื่อเป็นผู้ที่จะเชื่อในหลักฐานและข้อเท็จจริง ดังนั้นเราจะยืนหยัดกับหลักฐานที่สนับสนุนวิธีนี้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งและเรามั่นใจว่า จะมีความล่าช้าเพียง 2 อาทิตย์ เราขอให้คุณอดทนรออีกนิด”
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่