ประเด็นสำคัญ
- ในออสเตรเลียคุณสามารถทิ้งเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ใช้แล้วตามจุดรีไซเคิลและศูนย์รับขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่กำหนดได้ฟรี
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนต้องทิ้งแยกจากแบตเตอรี่ทั่วไป
- คุณสามารถตรวสอบว่ามีบริการหรือจุดรับขยะอิเล็กทรอนิกส์เช่น ทีวี คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆในพื้นที่ของคุณได้ที่ recyclingnearyou.com.au
กด ▶ ฟังพอดคาสต์ด้านบน
ตามรายงานขยะแห่งชาติล่าสุด หรือ National waste report ซึ่งรายงานไปยังกระทรวงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พลังงาน สิ่งแวดล้อม และน้ำ ระบุว่า ในช่วงปี 2020-2021 ออสเตรเลียมีปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ถึง 531,000 ตัน
ของบริษัท Planet Ark รีเบกกา กิลลิง อธิบายว่า
"นั่นหมายถึงในออสเตรเลีย เราผลิตขยะอิเลกทรอนิกส์กว่า 20 กิโลกรัมต่อคน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก ที่อยู่ประมาณเจ็ดกิโลกรัมต่อคน
"ประมาณ ร้อยละ 54% ของขยะ"ขยะอิเล็กทรอนิกส์ถูกส่งไปรีไซเคิล และในจำนวนนี้ ประมาณร้อยละ 35 ถูกนำไปหมุนเวียนใช้”
มีการประมาณการว่า กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของแบตเตอรี่ที่ใช้แล้วถูกทิ้งในบ่อฝังกลบขยะ ซึ่งส่งผลให้มีสารพิษรั่วไหล
แต่เมื่อมีกำจัดอย่างถูกต้อง ร้อยละ 95 ของ แบตเตอรี่สามารถนำไปรีไซเคิลเพื่อเป็นใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ได้
When batteries are compressed and crushed in waste collection trucks and facilities, they can spark fires putting lives and the environment at risk. Credit: PhotoAlto/Milena Boniek/Getty Images
มีสาเหตุหลายประการที่เราไม่มีถังขยะเฉพาะสำหรับขยะดังกล่าว ซึ่งนอกเหนือไปจากความกังวลเรื่องสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังมีเหตุผลด้านความปลอดภัยอีกด้วย แค่เพียงประกายไฟกับแบตเตอรีอันจิ๋วมันอาจจะทำให้เกิดไฟไฟม้บ่อทิ้งขยะได้
มีเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นที่ศูนย์รีไซเคิลหลายครั้งเนื่องจากการทิ้งแบตเตอรีCEO ของบริษัท Planet Ark รีเบกกา กิลลิง
คุณ กิลลิง อธิบายวิธีทิ้งแบตเตอรี่อย่างปลอดภัยว่า
"คุณสามารถทิ้งแบตเตอรี่ ที่จุดทิ้งหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นถังขยะรีไซเคิลแบตเตอรี่ในซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ และเรายังมีจุดทิ้งขยะเพิ่มมากขึ้นตามที่ต่างๆ เราแนะนำให้ผู้คนติดเทปกาวไว้ที่ขั้วแบตเตอรี ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดประกายไฟซึ่งอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้”
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แบตเตอรีทุกประเภท จะสามารถทิ้งในโครงการรีไซเคิล B-cycle ได้ แบตเตอรีบางประเภทเช่น แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ในรถยนต์ หรือ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน จะต้องมีการทิ้งขยะเหล่านี้แยกออกไปต่างหาก แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเป็นแบตเตอรี่ที่มักใช้ในจักรยานไฟฟ้าและสกู๊ตเตอร์
ศาสตราจารย์พิเศษแห่งคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัย RMIT เทียนยี หม่า กล่าวว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนถูกนำมาใช้ในอุปกรณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวันมากกว่าที่เราคาดคิด ศาสตราจารย์พิเศษ หม่า อธิบายว่า
“แบตเตอรี่ประเภทนี้ มีหลายขนาดตั้งแต่อันๆ เล็กไปจนถึงประกอบในเครื่องใชขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพา เช่น สมาร์ทโฟน แล็ปท็อป แท็บเล็ต และกล้องดิจิตอล ไปจนถึง รถยนต์ไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ หรือ อุปกรณ์กักเก็บพลังงาน เช่น การจัดเก็บพลังงานกริดในโซลาร์ฟาร์ม”))
Lithium-ion batteries are also found in power banks and toys and come in different shapes and sizes. If a battery has “Li” or “Lithium” printed on it, you can safely assume it is a lithium-ion battery. Source: Moment RF / Kypros/Getty Images
ดังนั้นจึงต้องมีมาตรการด้านความปลอดภัย ตั้งแต่การจัดเก็บไปจนถึงการจัดการขยะ ศาสตราจารย์พิเศษ หม่า กล่าวว่า
"ควรเก็บแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนไว้ในที่เย็นและแห้ง และเก็บในภาชนะที่ไม่นำไฟฟ้าเพื่อป้องกันการลัดวงจรของแบตเตอรี่"
"หากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเสียหาย ต้องความระมัดระวังมากขึ้น โดยบรรจุไว้ในภาชนะที่ทนไฟแล้วนำไปส่งที่โรงงานรีไซเคิลหรือจุดรับขยะรีไซเคิลที่กำลัดขยะประเภทนี้ทันที หรือคุณสามารถไปทิ้งตามร้านค้าอิเล็กทรอนิกส์หลายแห่ง ที่มีบริการรับรีไซเคิลแบตเตอรี่"
มีจุดรับแบตเตอรีชนิดนี้ ที่ร้านค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่ง เช่น , , , and .
มีโครงการการรับรีไซเคิลอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น ทีวี คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ทั่วออสเตรเลีย
ซึ่งภายใต้โครงการเหล่านี้ ผู้ผลิตและผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจำเป็นต้องสนับสนุนงบประมาณในการรีไซเคิลขยะเหล่านี้ด้วย
Did you know that e-scooters and bikes run with lithium-ion batteries? These, or in fact any battery, should never go in your household waste or recycling bins. Credit: Solskin/Getty Images
โครงการนี้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2011 เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้คนสามารถนำโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์เสริมที่ไม่ใช้แล้วมาทิ้ง ที่ศูนย์ฟื้นฟูทรัพยากรของเทศบาล ซึ่งเทศบาลแทบทุกแห่งมีบริการนี้เพื่อส่งต่อให้โรงงานรีไซเคิลต่อไป
คุณ กิลลิง อธิบายต่อไปว่าสำหรับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ไม่ใช้แล้ว และทิ้งในโครงการนี้จะมีการรับประกันว่าจะมีการลบข้อมูลทั้งหมดออกจากอุปกรณ์ก่อนที่จะถูกส่งไปยังกระบวนการรีไซเคิล
อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกศูนย์จะเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนีั ดังนั้นอาจมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ทางที่ดีที่สุดควรตรวจสอบกับเทศบาลของคุณ
The Australian government runs a recycling program free to consumers for televisions and computers, including printers, computer parts and peripherals Source: Moment RF / Schon/Getty Images
ซีอีโอขององค์การโทรคมนาคมโดยใช้โทรศัพท์มือถือแห่งออสเตรเลีย หรือ Australian Mobile Telecommunications Association หลุยส์ ไฮแลนด์ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่ดำเนินโครงการรีไซเคิลในอุตสาหกรรมดังกล่าว คุณ ไฮแลนด์ อธิบายแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการอัพเกรดโทรศัพท์มือถือและรีไซเคิลเครื่องเก่าของคุณว่า
"เราแนะนำให้ผู้คนถ่ายโอนข้อมูลจากโทรศัพท์เครื่องเก่าและล้างข้อมูลทิ้งก่อนที่จะรีไซเคิล นั่นก็หมายความว่า คุณจะไม่สูญเสียข้อมูลของคุณไป"
"เรามีคำแนะนำบนเว็บไซต์ของเราเกี่ยวกับวิธีลบข้อมูล เพราะว่าเมื่อคุณทิ้งโทรศัพท์ไปแล้ว โทรศัพท์จะถูกทำลายเพื่อการรีไซเคิลและข้อมูลทั้งหมดก็จะถูกทำลายไป"
ภายใต้โครงการดังกล่าว คุณสามารถส่งอุปกรณ์เสริมโทรศัพท์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องไปรีไซเคิล โดยการส่งทางไปรษณีย์โดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย คุณ หลุยส์ ไฮแลนด์ แนะนำว่า
"คุณสามารถส่งโทรศัพท์มือถือทุกยี่ห้อและทุกประเภท รวมถึงที่ชาร์จ อุปกรณ์เสริม โมเด็ม อุปกรณ์สวมใส่ และอุปกรณ์สมาร์ทโฮม มารีไซเคิลโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย"
" ไม่ว่าจะผ่านเว็บไซต์ ซึ่งคุณสามารถใส่รหัสไปรษณีย์ของคุณ – หรือคุณสามารถใส่ถุงไปรษณีย์แบบชำระเงินล่วงหน้าได้ฟรี ไปทิ้งที่ศูนย์รับรีไซเคิล ของเรา ซึ่งมีอยู่กว่า 3,000 แห่งทั่วประเทศ"
โทรศัพท์มือถือที่ยังมีแบตเตอรี่ติดอยู่ภายในอุปกรณ์ สามารถรีไซเคิลผ่านเว็บไซต์ Mobile Muster ได้
หรือถ้าแยกแบตเตอรีออกมา คุณสามารถส่งไปรีไซเคิลผ่านโปรแกรม B-cycle ได้
สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ที่ไม่สามารถใช้งานได้ คุณสามารถหาทางเลือกที่จะนำไปรีไซเคิลได้อย่างเหมาะสมใกล้บ้านคุณ ได้ที่เว็บไซต์ของ Planet Ark ที่
Recycled e-waste can get a new life, for example in road base and construction materials or new batteries, while valuable metals are recovered from dismantled devices. Credit: Mindful Media/Getty Images
จะทำอย่างไรหากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือแบตเตอรี่เกิดไฟไหม้
หากอุปกรณ์หรือแบตเตอรี่เริ่มมีควันหรือประกายไฟ:
- อพยพออกจากพื้นที่และปิดประตู เพื่อชะลอการลุกลามของไฟ ก๊าซ ไอระเหย และควันของแบตเตอรี่ที่ระเหยออกมามีพิษ และไวไฟ และหลีกเลี่ยงการสูดดม
- โทรแจ้งเหตุฉุกเฉิน Triple Zero (000) และรอในสถานที่ที่ปลอดภัยเพื่อให้นักดับเพลิงมาถึง
- หากสัมผัสกับอุปกรณ์อิเล็กโทรไลต์ทีมีการรั่วไหล ควันหรือไอระเหย หรือเปลวไฟ ให้ไปพบแพทย์โดยด่วน
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่