ปรากฏการณ์ทางสภาพอากาศลานีญา (La Niña) จะเป็นมากกว่าสภาพอากาศที่เปียกชื้นในหน้าร้อน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดีนักสำหรับผู้ที่ต้องเผชิญกับโรคหอบหืด ผู้เชี่ยวชาญกำลังเตือนชาวออสเตรเลียซึ่งเผชิญกับภาวะนี้ให้เตรียมรับมือกับฤดูกาลของพายุละอองเกสร อันเป็นผลจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง
ข้อมูลจากสภาโรคหอบหืดแห่งชาติ (National Asthma Council) ระบุว่า ผู้ที่กำลังเผชิญกับโรคหอบหืดจะอยู่ในความเสี่ยงที่สูงขึ้น ระหว่างช่วงต้นเดือนตุลาคมถึงปลายเดือนธันวาคม
พายุฝนฟ้าคะนองที่ก่อให้เกิดอาการหอบหืดทั่วเมลเบิร์นในปี 2016 ทำให้ผู้ป่วยจำนวนมากเข้ารับบริการในแผนกฉุกเฉิน และเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย Source: AAP
“โรคหอบหืดจากพายุฝนฟ้าคะนอง เป็นปรากฏการณ์เฉพาะที่เราพบเห็นในช่วงเวลานี้ของปี และมันเกิดขึ้นเฉพาะเมื่อมีพายุฝนฟ้าคะนอง"
เรามีหญ้าทั้งหมดซึ่งขึ้นอยู่บนที่ราบ เมื่ออากาศเปลี่ยนและมีลมพัด เมล็ดหญ้าเล็ก ๆ ทั้งหมดก็จะลอยขึ้นไปในอากาศศาสตราจารย์ปีเตอร์ วอร์ค กล่าว
"พวกมันจะพบกับอากาศที่อบอุ่นและชื้นในส่วนบนของชั้นบรรยากาศ ซึ่งทำให้เมล็ดหญ้าเหล่านั้นแตกตัว” ศาสตราจารย์วอร์คกล่าว
สำหรับผู้ที่เผชิญกับโรคหอบหืดนั้น วงจรดังกล่าวอาจมีความเสี่ยงที่อันตรายร้ายแรงได้
เมื่อปี 2016 มีผู้เสียชีวิต 10 รายในนครเมลเบิร์น ขณะที่บริการฉุกเฉินมีผู้เข้ารับบริการจนล้นมือ หลังเกิดพายุฝนฟ้าคะนองหอบหืดเป็นวงกว้าง
ศาสตราจารย์วอร์ค กล่าวว่า การที่เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นได้นั้น จะต้องประกอบด้วยปัจจัยต่าง ๆ อย่างสมบูรณ์แบบ
มันต้องมีเกสรดอกไม้จำนวนมากในอากาศ และต้องมีลักษณะของชั้นบรรยากาศที่เหมาะสมด้วย จากนั้นมันก็เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น และแน่นอนว่ามันยังเกิดขึ้นในช่วงเย็นอีกด้วย ซึ่งเป็นเวลาที่ผู้คนออกมาข้างนอกและกำลังกลับบ้านจากที่ทำงานศาสตราจารย์ปีเตอร์ วอร์ค กล่าว
“อันที่จริงมันเป็นสถานการณ์ที่เลวร้าย ซึ่งกระทบชานเมืองตอนเหนือของเมลเบิร์นที่มีประชากรอยู่หนาแน่นหนักที่สุด และเป็นผลให้มีผู้คนนับพันมีอาการหอบหืดอย่างรุนแรง ทั้งที่ต้องไปแผนกฉุกเฉิน หรือที่น่าเศร้าใจก็คือมีผู้เสียชีวิตไป 10 คน”
คุณเจเนวีฟ เวอร์การา (Genevieve Vergara) เจ้าหน้าที่นิติเวช อธิบายถึงอาการหอบหืดที่เธอได้พบเจอ ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอย่างรวดเร็ว
“อาการหอบหืดของฉันถูกกระตุ้นได้จากอากาศที่เปลี่ยนอย่างกะทันหันด้วย ถ้าอากาศรู้สึกหนักขึ้น มันก็จะกระตุ้นให้ฉันเป็นหอบหืดได้เหมือนกัน ซึ่งมันก็จะเริ่มจากการจาม หรือว่ารู้สึกเสียวแปลบหรือคันบริเวณจมูกหรือในลำคอ และจากนั้นมันก็จะแย่ลง หรือกลายเป็นอาการอื่น ตาของฉันจะมีน้ำตาไหล และก็จะเริ่มมีอาการหายใจไม่สะดวกด้วย”
โควิด-19 เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อาการของผู้ป่วยหอบหืดแย่ลง Source: Getty / Getty Images/Xesai
คุณเวอร์การาประสบภาวะโรคหอบหืดตั้งแต่ได้รับการวินิจฉัยครั้งแรกตอนอายุ 9 ขวบในฟิลิปปินส์ แต่เธอเล่าว่าภาวะลองโควิดได้ทำให้โรคหอบหืดของเธอมีอาการรุนแรงกว่าแต่ก่อน
"เมื่อก่อนมันเป็นอาการที่พอจะจัดการได้ แต่หลังจากโควิดแล้วมันก็ค่อนข้างลำบาก จัดการยากขึ้น มันรุนแรงขึ้นเพราะโควิด มันลำบากขึ้น ทั้งหายใจลำบาก รู้สึกหนักหน้าอก และก็หายใจมีเสียงหวีด และตอนนั้นฉันก็เสียงหายด้วย" คุณเวอร์การาเล่า
ออสเตรเลียคือหนึ่งในประเทศที่มีอัตราผู้ป่วยโรคหอบหืดสูงที่สุดของโลก โดยมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบที่อัตรา 1 ใน 10
ศาสตราจารย์วอร์คกล่าวว่า แม้ภาวะหอบหืดจากพายุฝนฟ้าคะนองเป็นเรื่องเร้าอารมณ์อย่างมาก เขาย้ำว่ามันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้มีภาวะหอบหืดทุกคนที่จะรู้ว่าควรทำอะไรเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
"การป้องกันที่ดีที่สุดต่อโรคหอบหืดที่เกิดจากพายุฝนฟ้าคะนอง หรือในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนซึ่งอาการแพ้ยังเด่นชัด คือการควบคุมภาวะหอบหืดที่ดีในแต่ละวันของคุณตั้งแต่แรก"
"สำหรับแทบทุกคนที่มีภาวะหอบหืดและมีอายุ 6 ปีขึ้นไป หากจำเป็นที่จะต้องใช้ยาบรรเทามากกว่า 1-2 ครั้งต่อเดือน พวกเขาควรที่จะได้รับยายับยั้งแบบสูดดมเป็นประจำ ซึ่งจะดีที่สุดหากเป็นยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (corticosteroid) แบบสูดดมในขนาดต่ำ นั่นจะลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะหอบหืดขั้นรุนแรงอย่างฉับพลันได้อย่างมีนัยยะสำคัญ” ศาสตราจารย์วอร์คกล่าว
สำหรับคุณเวอร์การานั้น เธอตื่นตัวอย่างมากหลังทราบข่าวเกี่ยวกับฤดูกาลพายุเกสรที่รุนแรง และเธอมีสิ่งที่อยากจะฝากสำหรับผู้ที่มีภาวะหอบหืดคนอื่น ๆ ขณะที่ออสเตรเลียกำลังจะเข้าสู่ฤดูกาลพายุฝนฟ้าคะนองในเร็ว ๆ นี้
หากพวกเขาทำได้ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับมัน หลีกเลี่ยงสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ และติดต่อกับแพทย์เสมอ รวมถึงแพทย์จีพี นั่นจะเป็นประโยชน์มากคุณเจเนวีฟ เวอร์การา
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ชาวเอเชียในออสเตรเลียเสี่ยงเกิดหอบหืดเฉียบพลันมากกว่าใคร