ประเด็นสำคัญ
- ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดจะมีอาการนานกว่าภาวะ 'baby blues' และอาการจะรุนแรงกว่า
- ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดเกิดกับ 1 ใน 5 ของคุณแม่มือใหม่และ 1 ใน 10 ของคุณพ่อมือใหม่
- วิธีการรักษาได้แก่การบำบัดทางจิต การใช้ยาแก้ซึมเศร้า รวมถึงสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการฟื้นฟูสภาพจิตใจ
กด ▶ ฟังพอดคาสต์ด้านบน
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนมักทำให้มีอารมณ์ปรวนแปร เช่น หงุดหงิด วิตกกังวล ร้องไห้ง่าย และนอนไม่หลับ อาการเหล่านี้อาจหายไปโดยไม่ต้องรับการรักษา
แต่หากอาการไม่หายไปหรือกระทบกับการดำเนินชีวิตของคุณและลูก คุณอาจกำลังประสบกับภาวะซึมเศร้าหลังคลอด (postnatal depression)
คุณจูลี บอร์นนิงฮอฟ (Julie Borninkhof) นักจิตวิทยาและผู้บริหารของ หรือองค์กรเรื่องความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าหลังคลอดบุตรแห่งออสเตรเลีย (Perinatal Anxiety & Depression Australia) กล่าวว่าภาวะซึมเศร้าหลังคลอดบุตรสามารถเกิดขึ้นได้ระหว่างตั้งครรภ์หรือหลังคลอด
โดยผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายกับผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า
“หลายคนรู้สึกถึงอารมณ์ที่ปั่นป่วน ไม่สามารถเข้าใจข้อมูลต่างๆ ได้ พวกเขามักรู้สึกเหมือนต้องการปิดกั้นตัวเองจากโลกภายนอกและกลับไปนอน การนอนอาจไม่ราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นนอนหลับนานเกินไปหรือนอนไม่พอ ไม่สามารถรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำได้เหมือนปกติ"
อาการต่าง ๆ ที่คุณมักเจอในผู้ป่วยที่มีภาวะซึมเศร้าคุณบอร์นนิงฮอฟกล่าว
ฟังพอดคาสต์ที่เกี่ยวข้อง
คุณแม่คนไทยเปิดใจคุยเรื่องภาวะซึมเศร้าหลังคลอดบุตร
SBS Thai
25/03/202220:17
ผู้ที่เคยเป็นโรคซึมเศร้ามาก่อนมักมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอด และยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นด้วย
“ผู้ที่มีครอบครัวที่มีประวัติเป็นโรคซึมเศร้ามีความเสี่ยงสูง และผู้ที่ประสบกับความบอบช้ำทางจิตใจอย่างรุนแรง (trauma) ก็มีแนวโน้มที่จะมีภาวะซึมเศร้าหรือวิตกกังวลหลังคลอดบุตร สำหรับหลายคน ภาวะวิตกกังวลและซึมเศร้าไม่ได้เป็นช่วงเวลาที่แยกออกไปจากช่วงนี้ ดังนั้นหลายคนอาจเผชิญกับภาวะวิตกกังวลและซึมเศร้าไปพร้อมๆ กัน”
คุณซาราห์ บารี (Sarah Bari) เล่าถึงการตั้งครรภ์ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและการเตรียมพร้อม
แต่เมื่อลูกชายของเธอเกิด เธอกลับมีความรู้สึกกลัวเข้ามาแทนและความรู้สึกนั้นอยู่กับเธอนานหลายสัปดาห์ นานเกินกว่าช่วง bably blues
ฉันร้องไห้โดยไม่มีเหตุผล 60 – 70% ของวัน
"ฉันกลัวที่จะทำอะไรให้ลูกชายของฉัน เช่น เรื่องธรรมดาอย่างการให้นมลูก อยู่กับลูก แม้แต่การเล่นกับลูกหรือการดูเขาเติบโต ฉันกลัวมากๆ กลัวแทบจะตลอดเวลา ฉันเข้าใจดีว่าการมีอาการนานขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องปกติ”
ผู้ที่เคยเป็นโรคซึมเศร้ามาก่อนมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอดมากกว่า Credit: SDI Productions/Getty Images
คุณซาราห์เกิดที่บังกลาเทศและอาศัยอยู่ที่ออสเตรเลียเป็นเวลา 20 ปี พ่อของเธอที่อยู่บังกลาเทศไปให้เธอขอความช่วยเหลือ โดยทั้งพ่อและแม่ของเธอเข้าใจถึงภาวะนี้เป็นอย่างดี แต่คุณซาราห์เชื่อว่าภาวะซึมเศร้าหลังคลอดบุตรยังคงนับเป็นเรื่องที่ถูกมองว่าไม่ดีในออสเตรเลีย ไม่ใช่เรื่องต้องห้ามเฉพาะกลุ่มบางเชื้อชาติหรือวัฒนธรรมเท่านั้น
“100% เป็นเรื่องที่ถูกมองไม่ดีทางวัฒนธรรม แต่ฉันไม่คิดว่ามันเป็นประเด็นสำหรับคนบังกลาเทศเท่านั้น ฉันได้พูดคุยเรื่องภาวะซึมเศร้าหลังคลอดของฉันกับคนออสเตรเลีย และเรื่องนี้ยังคงเป็นเรื่องต้องห้าม หลายคนไม่รู้ว่าจะโต้ตอบอย่างไร มันน่าสนใจมากจริงๆ ฉันทำงานกับบริษัทใหญ่ และฉันพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานเรื่องนี้ 1 ใน 4 ของเพื่อนร่วมงานของฉันไม่รู้จะสนทนาเรื่องนี้อย่างไร ฉันคิดว่าเรื่องนี้มีผลเป็นวงกว้างกว่าแค่ในแต่ละวัฒนธรรม”
แพทย์หญิงแจคกี้ บาร์นฟิล์ด (Jakqui Barnfield) ผู้บริหารฝ่ายให้บริการที่ บริการให้ความช่วยเหลือซึ่งให้คำปรึกษาแก่ผู้ชายทาง ด้วย ระบุว่าหนึ่งในความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับภาวะซึมเศร้าหลังคลอดคือคิดว่ามีผลกับผู้หญิงเท่านั้น
ภาวะซึมเศร้าสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน
"จริงๆ แล้วสามีของฉันก็ประสบภาวะซึมเศร้าหลังคลอดด้วย สำหรับฉันที่ทำงานด้านสุขภาพจิต ฉันรู้ว่ามันเกิดขึ้นกับเขาก่อนที่เขาจะรู้ตัว มันเป็นประสบการณ์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละคน ไม่ว่าคุณจะเป็นพ่อหรือแม่ ภาวะซึมเศร้ากระทบได้ทุกคน”
ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดเป็นเรื่องที่ยากที่จะพูดถึง ในทุกกลุ่มเชื้อชาติและวัฒนธรรม Credit: FatCamera/Getty Images
“ฉันคิดว่าสิ่งสำคัญคือการเปลี่ยนแปลงที่สร้างผลกระทบกับตัวคุณ หลายอย่างเกี่ยวกับความคาดหวังของตนเองและความคาดหวังจากผู้อื่น สิ่งต่างๆ ที่อยู่บนโซเชียลมีเดีย คุณเห็นภาพที่ดีเท่านั้น คุณไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นเบื้องหลังภาพ หากคุณกำลังเปรียบเทียบตัวเองกับสิ่งที่ดูเหมือนเป็นครอบครัวในอุดมคติหรือความเป็นพ่อในอุดมคติ นั่นจะเพิ่มความกดดันให้คุณต้องพยายามทำให้เป็นแบบนั้น”
การสื่อสารเป็นเรื่องสำคัญมาก ไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายที่กำลังเผชิญภาวะซึมเศร้าก็ตาม รวมถึงการให้คำแนะนำสำหรับผู้ชายในการให้ความสนับสนุนคู่ครองของเขา
“ฉันคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือพยายามสื่อสารกันไว้ สอบถามว่าเธอเป็นอย่างไร เมื่อคุณทำแบบนั้น มันจะช่วยให้คุณสามารถอธิบายความรู้สึกของคุณได้เช่นกัน และแม้ว่าคุณไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร บอกให้เธอรู้ว่าคุณก็สับสนหรือกลัวว่าคุณจะทำอะไรผิดพลาดไป"
หาทางออกร่วมกัน นั่นเป็นกุญแจสำคัญแพทย์หญิงบาร์นฟิล์ดกล่าว
"ภาวะซึมเศร้ากระทบได้ทุกคน" Source: Moment RF / Vera Vita/Getty Images
คุณซาราห์กล่าวจากประสบการณ์ตรงของเธอว่า สิ่งสำคัญสำหรับคุณแม่มือใหม่คือการรู้ว่ามีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
สำหรับคุณซาราห์ กระบวนการรักษาของเธอได้แก่การให้ยาต้านอาการซึมเศร้า เขียนบันทึกกระบวนการรักษาของเธอ และการรักษาทำให้อารมณ์ของเธอดีขึ้นในที่สุด
“มันเหมือนสวิตช์ไฟ ในวันที่ 12 หรือ 13 ของการรักษา ฉันตื่นขึ้นมาและรู้สึกว่า ฉันต้องทำอาหาร ฉันต้องทำสิ่งนี้ให้ลูก และฉันก็รู้สึกว่า โอเค ฉันรู้สึกดีขึ้นแล้ว ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ฉันก็รู้สึกดีขึ้น ดีขึ้นเรื่อยๆ มันไม่ใช่กระบวนการฟื้นตัวแบบช้าๆ ฉันกลายเป็นแม่คนเต็มตัวตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา”
คุณซาราห์แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ดูแลสุขภาพจิตของคุณทุกวัน
ซึ่งคุณบอร์นนิงฮอฟจาก PANDA เห็นด้วย เธอกล่าวว่าผู้ใช้บริการสามารถโทรไปที่สายด่วนที่พร้อมรับฟังที่มีสภาวะซึมเศร้าหลังคลอดบุตร
การเตรียมแผนการณ์ดูแลสุขภาพจิตเมื่อคุณกำลังจะคลอดบุตรนับเป็นแผนที่ควรทำพอๆ กับการเตรียมคลอด
"ไม่ว่าคุณจะเป็นพ่อแม่มือใหม่หรือเคยมีบุตรมาก่อน และเรายังสนับสนุนให้ผู้ที่มีสภาวะเปราะบางทางอารมณ์หรือมีภาวะด้านสุขภาพจิตให้เน้นถึงสิ่งที่เคยช่วยพวกเขาได้ในอดีต ให้ยึดจุดนั้นไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวเพื่อความมั่นคงในเวลานี้”
silhouette asian new parents couple are having conflict and argument nearby windows at home while woman holding their baby Credit: PonyWang/Getty Images
บริการให้ข้อมูลและให้ความช่วยเหลือเรื่องสุขภาพจิต 24 ชั่วโมง Beyond Blue 1300 224 636 หรือ
บริการให้ความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตสำหรับชุมชนที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม Embrace Mental Health
ติดต่อบริการล่ามโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (TIS) โทร 131 450
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ทำไมการฝากครรภ์ที่ออสเตรเลียจึงมีความสำคัญ
เรื่องน่าสนใจ
จะใช้บริการทางแพทย์ราคาย่อมเยาได้อย่างไรในออสเตรเลีย