การแถลงร่างงบประมาณแผ่นดินโดยรัฐบาลสหพันธรัฐ เมื่อคืนวานนี้ (6 ต.ค.) ได้เปิดเผยให้เห็นแผนการบริหารใช้จ่ายงบประมาณครั้งใหญ่ของรัฐบาล ในการนำพาประเทศออกจากวิกฤตเศรษฐกิจจากไวรัสโคโรนา
ต่อไปนี้คือข้อมูลโดยสรุป ว่าใครจะได้ประโยชน์ หรือเสียประโยชน์ ในร่างงบประมาณแผ่นดินที่มีความสำคัญที่สุดโดยรัฐบาลสหพันธรัฐ นับตั้งแต่ยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
Australian Treasurer Josh Frydenberg listens during a press conference inside the Budget lockup. Source: AAP
ผู้ได้ประโยชน์ในร่างงบประมาณแผ่นดิน 2020
ประชาชนผู้เสียภาษี: รัฐบาลออสเตรเลียต้องการเลื่อนนโยบายลดภาษีเงินได้ให้เร็วขึ้น โดยจะมีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ และจะให้สิทธิพิเศษด้านภาษีชดเชย (tax offset หรือเงินภาษีที่ลดลงให้โดยตรง เมื่อคำนวณจากรายได้ที่ต้องเสียภาษี) แบบให้ครั้งเดียว สำหรับผู้มีรายได้ต่ำและผู้มีรายได้ปานกลาง ในปีงบประมาณ 2020-2021
นายจอช ฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีคลังของออสเตรเลีย กล่าวว่า ผู้มีรายได้ต่ำและผู้มีรายได้ปานกลาง จะได้รับการลดภาษีเป็นจำนวนเงินสูงสุด $2,745 ดอลลาร์สำหรับคนโสด หรือสูงสุด $5,490 ดอลลาร์สำหรับครอบครัวซึ่งมีรายได้สองทาง ในปีงบประมาณ 2020-2021 เมื่อเทียบกับปี 2017-2018
ผู้ซื้อบ้านหลังแรก: โครงการสินเชื่อเงินดาวน์บ้านหลังแรก (First Home Loan Deposit Scheme) จะได้รับการขยายขอบเขต เพื่อให้ครอบคลุมถึงชาวออสเตรเลียอีก 10,000 คน ซึ่งกำลังซื้อบ้านที่มีคุณสมบัติในการรับสินเชื่อในโครงการนี้ หรือบ้านที่เพิ่งสร้างใหม่
โดยผู้ขอสินเชื่อในโครงการดังกล่าวจะสามารถซื้อบ้านหลังแรกได้ ด้วยเงินดาวน์เพียงร้อยละ 5 เท่านั้น ซึ่งโครงการดังกล่าวจะมีผลไปจนถึงวันที่ 30 มิ.ย.ปีหน้า
ภาคส่วนการผลิต: เงินสนับสนุนมูลค่า $1,300 ล้านดอลลาร์ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ด้านการผลิตของรัฐบาลสหพันธรัฐ จะมีการนำไปลงทุนในโครงการสำคัญ 6 ภาคส่วน คือ ภาคส่วนผลิตอาหารและเครื่องดื่ม เหมืองแร่ ผลิตภัณฑ์ยารักษาโรค การรีไซเคิลและพลังงานสะอาด อุตสาหกรรมอวกาศ และกลาโหม
ผู้รับเงินบำนาญ: หลังจากได้รับเงินเป็นจำนวน $750 ดอลลาร์ เมื่อเดือนเมษายน และเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ผู้รับเงินบำนาญจะได้รับเงินก้อนอีก $250 ดอลลาร์ ในเดือนธันวาคม และเดือนมีนาคมปีหน้า
คนหนุ่มสาวที่กำลังหางาน: เครดิตสำหรับการจ้างงานแก่ธุรกิจต่าง ๆ จากโครงการใหม่ด้านการจ้างงาน จ๊อบเมกเกอร์ (JobMaker) จะเป็นการกระตุ้นให้บรรดาธุรกิจต่าง ๆ จ้างงานคนหนุ่มสาวในออสเตรเลียที่รับเงินสงเคราะห์รายได้ จ๊อบซีกเกอร์ (JobSeeker) ที่มีอายุระหว่าง 16-35 ปี
โดยเครดิตดังกล่าวจะจ่ายให้ในอัตรา $200 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ สำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 30 ปี และจ่ายให้ $100 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ สำหรับผู้ที่อายุระหว่าง 30-35 ปี โดยบรรดาลูกจ้างใหม่จะต้องทำงานอย่างน้อยสัปดาห์ละ 20 ชั่วโมง
ผู้หญิง: งบประมาณ $240 ล้านดอลลาร์ จะช่วยกระตุ้นการมีส่วนร่วมของผู้หญิงในตลาดแรงงาน และความเป็นอิสระทางการเงิน หลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
ส่วนหนึ่งของงบประมาณข้างต้นมากกว่า $25 ล้านดอลลาร์ จะนำไปใช้ในการส่งเสริมการฝึกอบรมอาชีพจากผู้ชำนาญงานขณะปฏิบัติงานจริง ในวงการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์
การดูแลสุขภาพจิต: ชาวออสเตรเลียจะสามารถเข้ารับคำปรึกษาด้านสุขภาพจิต โดยได้รับการสนับสนุนจากเมดิแคร์ได้มากขึ้น โดยจะเพิ่มจาก 10 ครั้งต่อปี เป็น 20 ครั้งต่อปี โดยในปีงบประมาณนี้ รัฐบาลจะใช้งบประมาณอีก $148 ล้านดอลลาร์ ในการสนับสนุนบริการด้านสุขภาพจิต นอกจากนี้ ส่วนหนึ่งของงบประมาณดังกล่าว จะมีการนำไปสนับสนุนคลินิกด้านสุขภาพจิตที่ได้รับการยกระดับจำนวน 15 แห่ง เช่นเดียวกับ Beyond Blue, Lifeline, Kids Helpline และ Headspace
มหาวิทยาลัย: มีการจัดสรรงบประมาณด้านการวิจัยเพิ่มเติม $1,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับภาคส่วนมหาวิทยาลัย ในปีงบประมาณ 2020-21 โดยได้เพิ่มเติมจากงบสนับสนุนการวิจัยที่ประกาศไปก่อนหน้านี้เกือบ $300 ล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนนักศึกษาระดับปริญญาตรีใหม่มากกว่า 12,000 ตำแหน่ง
มาลองคำนวณสถานการณ์ด้านภาษีของคุณว่าจะดีกว่าปีก่อนอย่างไรด้วยเครื่องมือคำนวณด้านล่าง:
ผู้เสียประโยชน์ในร่างงบประมาณแผ่นดิน 2020
ผู้อพยพย้ายถิ่นที่มีบุตร: การรับผู้อพยพย้ายถิ่นผ่านช่องทางการมาอยู่ร่วมกันของครอบครัว (family reunion scheme) ได้มีการกำหนดโควตาไว้ที่ 77,300 คน ในปีงบประมาณ 2020-21 แต่ในอัตราโควตาเหล่านั้น แบ่งเป็นโควตาสำหรับผู้ถือวีซ่าคู่ครอง (partner visa) จำนวน 72,300 คน ซึ่งนั่นหมายความว่าจะเหลือโควตาวีซ่า 5,000 คน สำหรับครอบครัวที่มีบุตรหลาน
โดยผู้ที่กำลังจะยื่นขอวีซ่าคู่ครอง รวมถึงผู้ที่เป็นสปอนเซอร์นั้น จะต้องผ่านการทดสอบทักษะภาษาอังกฤษ ก่อนที่จะสามารถย้ายมาอยู่ที่ออสเตรเลียได้
ผู้อพยพที่ไม่มีทักษะ: ในบรรดาผู้ที่มาถึงออสเตรเลียใหม่ เมื่อพรมแดนระหว่างประเทศของออสเตรเลียกลับมาเปิดอีกครั้ง รัฐบาลคาดว่า 2 ใน 3 ของผู้ที่มาถึงออสเตรเลียนั้น จะเป็นผู้ถือวีซ่าผู้อพยพย้ายถิ่นที่มีทักษะ โดยรัฐบาลได้ตั้งเป้าในการเฟ้นหาผู้อพยพย้ายถิ่นที่มีความสามารถมากที่สุด ในการช่วยให้ออสเตรเลียสามารถฟื้นตัวจากวิกฤตเศรษฐกิจจากไวรัสโคโรนา
ผู้อพยพย้ายถิ่นที่ไม่ได้อยู่ในออสเตรเลีย: รัฐบาลยังได้ระบุอีกว่า จะให้ความสำคัญในการประมวลผลวีซ่าสำหรับผู้สมัครที่อยู่ในออสเตรเลียแล้ว โดยเฉพาะผู้ที่ยื่นขอที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ส่วนภูมิภาค และผู้ยื่นขอวีซ่าคู่ครอง (partner visa) ที่สปอนเซอร์อาศัยอยู่นอกเขตเมืองใหญ่เป็นอันดับแรก
ผู้ลี้ภัย: มีการกำหนดโควตาการออกวีซ่าในโครงการด้านมนุษยธรรม (The Humanitarian visa program) 13,750 คน โดย นายปีเตอร์ ดัตทัน รัฐมนตรีมหาดไทย ได้ให้คำมั่นว่าจะดำเนินปฏิบัติการ Operation Sovereign Borders ต่อไป ซึ่งจะขัดขวางไม่ให้ผู้ลี้ภัยมายังออสเตรเลียอย่างผิดกฎหมายทางเรือ จากการตั้งรกรากอยู่ในออสเตรเลียอย่างถาวร โดยจะมีการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมอีก $41.4 ล้านดอลลาร์ไปยังหน่วยประสานงานท้องถิ่น (Regional Cooperation Agreement) ระหว่างออสเตรเลียและอินโดนีเซีย ซึ่งจะเป็นการบังคับใช้นโยบายดังกล่าว
ระบบเศรษฐกิจ: จากภาวะขาดดุลงบประมาณสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง $213,700 ล้านดอลลาร์ หนี้สินสุทธิที่คาดว่าจะถึงจุดสูงสุดที่ $966,000 ล้านดอลลาร์ ในเดือนมิถุนายน 2024 ภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งแรกในรอบ 30 ปี อัตราการเติบโตของประชากรที่ต่ำที่สุดในรอบศตวรรษ และอัตราการว่างงานที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 8 ในเดือนธันวาคมนี้ ทำให้ออสเตรเลียกำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในชั่วอายุคน
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
ร่างงบประมาณสหพันธรัฐเผยการเปลี่ยนแปลงสำคัญด้านวีซ่า
