รัฐวิกตอเรียได้ประกาศการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่ที่ 317 ราย เมื่อเช้าวันนี้ (16 ก.ค.) ซึ่งเป็นการพบผู้ป่วยใหม่รายวันที่มากที่สุดกว่ารัฐและมณฑลใดในออสเตรเลีย ตั้งแต่การแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าวเริ่มต้น
นายแดเนียล แอนดรูว์ส มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย ยืนยันว่า พบชายวัย 80 ปีเสียชีวิตเมื่อคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาในรัฐวิกตอเรียเพิ่มขึ้นเป็น 29 ราย
จากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พบในวันนี้ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียกล่าวว่า ผู้ติดเชื้อ 28 ราย มีความเชื่อมโยงกับการแพร่ระบาดที่เจ้าหน้าที่ทราบอยู่แล้ว ส่วนอีก 289 ราย ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ มีผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 109 ราย และอีก 29 รายยังอยู่ในแผนกผู้ป่วยวิกฤต
“ฤดูหนาวปีนี้ไม่ธรรมดา และสัปดาห์นี้ก็ไม่ปกติ หากเราคิดว่าวิกฤตไวรัสจบลงแล้วเพราะเราอยากให้มันเป็นแบบนั้น สิ่งที่เราทำทั้งหมดก็คือการแพร่กระจายไวรัส เราจะเห็นผู้คนจำนวนมากต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และมันเป็นเรื่องเศร้าที่จะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเพราะไวรัสนี้” นายแอนดรูว์ส มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียกล่าว
ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้ เกิดจากการตรวจหาเชื้อ 28,607 ครั้ง โดยมุขมนตรีรัฐวิกตอเรียได้กล่าวขอบคุณประชาชนที่มาตรวจหาเชื้อทุกคน
“มันเป็นการมีส่วนร่วมที่ยิ่งใหญ่และมีพลังในการต่อสู้กับไวรัสชนิดนี้ คุณไม่สามารถควบคุมไวรัสได้หากคุณไม่รู้ว่าพวกมันมาจากไหน” นายแอนดรูว์สกล่าว
มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียกล่าวว่า ยังไม่มีแผนใด ๆ ในการประกาศให้รัฐวิกตอเรียเข้าสู่มาตรการจำกัดระดับ 4 แต่ก็ยังคงมีความเป็นไปได้ที่จะประกาศใช้
“ตอนนี้ ผมทราบว่า มีการพูดคุยและการตีพิมพ์เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการประกาศใช้มาตรการจำกัดระดับ4 โดยในวันนี้เราจะยังไม่มีการประกาศใด ๆ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะไม่ประกาศอะไรในวันพรุ่งนี้ เราเตรียมพร้อมกับทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น” นายแอนดรูว์สกล่าวศาสตราจารย์เบรตต์ ซัตทัน ประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า รัฐวิกตอเรียยังไม่ถึงจุดสูงสุดของสถานการณ์การแพร่ระบาดในครั้งนี้
Victoria Chief Health Officer Brett Sutton. Source: AAP
“มันเป็นตัวเลขการติดเชื้อที่สูง มันจำเป็นจะต้องลดลงมา ผมคาดว่าตัวเลขดังกล่าวอาจลดลงมาภายในสัปดาห์นี้ แต่อย่างที่ผมได้กล่าวไว้ มันไม่มีอะไรประกันได้เลย มันขึ้นอยู่ความสามารถของเราทุกคนในการลดจำนวนผู้ติดเชื้อลง” ศาสตราจารย์ซัตทันกล่าว
การแพร่ระบาดในสถานดูแลผู้สูงอายุ
ศาสตราจารย์ซัตทัน กล่าวว่า การแพร่ระบาด 160 จุด ได้รับการจับตาเฝ้าระวังในพื้นที่รหัสไปรษณีย์หลายสิบแห่ง นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มก่อนการติดเชื้อจำนวนหนึ่งที่เกิดขึ้นในสถานดูแลผู้สูงอายุ
เขากล่าวว่า ขณะนี้มีการติดเชื้อ 31 ราย ที่มีความเชื่อมโยงกับสถานดูแลผู้สูงอายุเมนาร็อก ไลฟ์ (Menarock Life) ในเมืองเอซเซินเดิน (Essendon) ซึ่งผู้รับบริการในสถานดูแลดังกล่าวได้รับการส่งตัวไปยังบริการดูแลฉุกเฉินแล้ว ส่วนผู้ติดเชื้ออีก 5 ราย พบความเชื่อมโยงกับสถานดูแลผู้สูงอายุเซนต์ เบซิล (St. Basil’s Home) ในเมืองฟอว์กเนอร์ (Fawkner) ส่วนอีก 23 ราย พบความเชื่อมโยงกับสถานดูแลผู้สูงอายุเกลนเดล (Glendale Aged Care) ในเมืองเวอริบี (Werribee) และอีก 21 ราย พบความเชื่อมโยงกับสถานดูแลผู้สูงอายุเอสเทีย เฮลท์ (Estia Health Aged Card) หลายแห่ง
ประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า จะยังไม่มีแผนในการย้ายผู้รับบริการในสถานดูแลออกจากพื้นที่ในขณะนี้ โดยได้ขอความร่วมมือให้พนักงานภายในสถานดูแลกักตัวทันที เมื่อพบว่ามีอาการของเชื้อไวรัสโคโรนา
“เราต้องมุ่งเน้นที่จะทำให้พนักงานในสถานดูแลที่มีผลตรวจหาเป็นบวก กักกันตนเองได้ทันทีที่อาการของโรคนั้นเริ่มต้น” ศาสตราจารย์ซัตทันกล่าว
สำหรับกลุ่มก้อนการติดเชื้อที่โรงเรียนมัธยมอัล-ทักควา (Al-Taqwa College) ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 157 ราย ขณะที่กลุ่มก่อนการติดเชื้อที่มาจากโรงฆ่าสัตว์เจบีเอส ออสเตรเลีย (JBS Australia) ในเมืองบรุกลิน (Brooklyn) มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 29 รายแล้ว
ศาสตราจารย์ซัตทัน กล่าวว่า การติดเชื้อระลอกล่าสุดนี้ ไม่เพียงแต่จะกระทบกับผู้สูงอายุเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่รวมถึงกลุ่มอายุตั้งแต่วัย 30 - 60 ปีด้วย
“หากเราพบจำนวนผู้ติดเชื้อในระดับสูงในกลุ่มอายุดังกล่าว เราก็จะพบอัตราการเสียชีวิตที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน” ศาสตราจารย์ซัตทันกล่าว
ระงับการผ่าตัดแบบไม่เร่งด่วนชั่วคราว
การทำศัลยกรรมแบบไม่เร่งด่วน (Elective Surgery) บางชนิดในนครเมลเบิร์นจะถูกระงับชั่วคราว ขณะที่หน่วยงานด้านสาธารณสุขกำลังรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้น
โดยการทำศัลยกรรมเพื่อรักษาอาการตามความเร่งด่วนในหมวดที่ 3 จะถูกระงับไปก่อน เพื่อให้แน่ใจว่ามีจำนวนเตียงและบุคลากรเพียงพอเพื่อรับมือกับผู้ติดเชื้อ นอกจากนี้ จะมีการลดการทำศัยลกรรมแบบไม่เร่งด่วนลง เหลือเพียงไม่เกินร้อยละ 50 ในโรงพยาบาลของรัฐ และไม่เกินร้อยละ 75 ในโรงพยาบาลเอกชน
ส่วนการทำศัลยกรรมในกลุ่มความเร่งด่วนหมวดที่ 1 และ 2 ยังสามารถทำได้ตามปกติทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน
ตั้งแต่ไวรัสโคโรนาเริ่มการแพร่ระบาดในออสเตรเลีย มีการเพิ่มจำนวนและปรับปรุงความจุในการรับผู้ป่วยเข้ารักษาในแผนกวิกฤตและแผนกฉุกเฉินมากกว่า 1,000 เตียง นอกจากนี้ยังได้มีการสั่งซื้อเครื่องมือแพทย์เพิ่มเติมอีกด้วย
โดยในคลังเครื่องมือแพทย์รัฐวิกตอเรีย มีถุงมือจำนวนกว่า 86 ล้านคู่ หน้ากากอนามัยจำนวน 34 ล้านชิ้น หน้ากาก N95 จำนวน 1.4 ล้านชิ้น กระจังป้องกันใบหน้ามากกว่า 2.2 ล้านชิ้น ซึ่งมีความพร้อมในการแจกจ่ายไปยังผู้ให้บริการด้านสุขภาพทั่วรัฐวิกตอเรีย
ขณะที่หน่วยงานบริการด้านสุขภาพในรัฐวิกตอเรียมีเครื่องช่วยหายใจมากกว่า 1,200 เครื่อง และมีอีกหลายร้อยเครื่องอยู่ในคลังเครื่องมือแพทย์ ที่สามารถนำมาใช้ได้หากจำเป็น นอกจากนี้ ยังมีการสั่งซื้อเพิ่มอีกมากกว่าพันเครื่อง พร้อมกับเครื่องควบคุมการให้สารละลายทางหลอดเลือด และเครื่องตรวจวัดสัญญาณชีพผู้ป่วย
ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ
หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
รัฐบาลเผยโครงการ JobTrainer ช่วยฝึกทักษะงานช่วงโควิด