24 ก.ย.รัฐวิกตอเรียได้บันทึกยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 12 ราย ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และมีผู้เสียชีวิตอีก 2 รายในสถานดูแลผู้สูงอายุ ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อเฉลี่ย 14 วันในพื้นที่มหานครเมลเบิร์นนี้ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องเหลือ 26.7 ราย ซึ่งอยู่ต่ำกว่าแนวโน้มที่รัฐบาลรัฐวิกตอเรียกำหนดไว้ที่ระหว่าง 30 – 50 รายต่อสองสัปดาห์ ในการเข้าสู่การเริ่มผ่อนคลายมาตรการจำกัดการแพร่ระบาด ในวันที่ 28 ก.ย.นี้
อย่างไรก็ตาม ผู้ติดเชื้อ 8 รายจากทั้งหมดที่พบในวันนี้ (24 ก.ย.) มาจากการแพร่ระบาดที่เจ้าหน้าที่ทราบดี
นายแดเนียล แอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า รัฐวิกตอเรียนั้น “กำลังอยู่ในร่องในรอย” ในการเข้าสู่ระยะที่ 2 ของแผนแม่บทคลายมาตรการจำกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
แต่อย่างไรก็ตาม นายแอนดรูส์ไม่ได้เน้นในส่วนของการเปิดเผยรายละเอียดของการผ่อนคลายมาตรการที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์นี้ (27 ก.ย.) แต่ได้กล่าวเป็นนัยว่า อาจมีการยกเลิกมาตรการจำกัดเร็วกว่าเวลาที่วางแผนไว้
“วันอาทิตย์นี้จะยังไม่ใช่วันที่จะมีการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ ซึ่งแผนแม่บทไม่ได้กำหนดไว้เช่นนั้น มันจะยังไม่ใช่วันที่เราจำเป็นจะเปิดทุกอย่าง” นายแอนดรูส์กล่าว
“มันจะเป็นขั้นตอนที่ดำเนินไปอย่างมั่นคงและปลอดภัย และในลักษณะของการค่อยเป็นค่อยไป การคืบหน้าไปทีละน้อยนั้นคือสิ่งที่เราทำได้ในตอนนี้ เนื่องจากจำนวนตัวเลขต่าง ๆ กำลังลดลงอย่างช้า ๆ และต่อเนื่อง”
ภายใต้แผนแม่บทใหม่ที่รัฐบาลรัฐวิกตอเรียได้ประกาศออกไปเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมานั้น การผ่อนคลายมาตรการจำกัดที่จะมีขึ้นในวันที่ 28 ก.ย.นี้ ได้รวมถึงการรวมกลุ่มในที่สาธารณะ ที่จะอนุญาตให้ทำได้ไม่เกิน 5 คน จากครัวเรือน 2 หลัง นอกจากนี้ยังอาจมีการจัดพิธีกรรมทางศาสนาได้ โดยมีผู้นำพิธีและผู้เข้าร่วมไม่เกิน 5 คน
มุขมนตรีปกป้อง รมต.สาธารณสุข VIC หลังถูกกดดันให้ลาออก
Empty market selves in Townsville Source: Ismail Alkan
นายแอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย ได้กล่าวตอบโต้ กรณีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของ นางเจนนี มิคาโคส รัฐมนตรีสาธารณสุขรัฐวิกตอเรีย หลังสหภาพเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขได้เรียกร้องให้เธอลาออกจากตำแหน่ง โดยได้กล่าวหาว่า “ขาดความเหมาะสมอย่างเหลือเชื่อ”
จดหมายจากสหภาพฯ ถึงนายแอนดรูส์ ได้มีการเปิดเผยสู่สาธารณชน ก่อนที่นางมิคาโคสจะปรากฏตัวในการไต่สวนหาความจริง กรณีโครงการโรงแรมกักกันโรค ซึ่งนำไปสู่การแพร่ระบาดระลอกสองที่เลวร้ายของไวรัสโคโรนา
“เป็นเรื่องน่าเสียใจ ที่ความสัมพันธ์ของทางสหภาพฯและรัฐบาลรัฐวิกตอเรียนั้น จบสิ้นลงแล้วอย่างเป็นทางการ เนื่องจากการขาดความเหมาะสมอย่างเหลือเชื่อ ของรัฐมนตรีสาธารณสุขคนปัจจุบันในคณะรัฐบาลของท่าน” นางไดอานาแอสมา เลขาธิการสหภาพเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระบุ
“เพื่อประโยชน์ของชาวรัฐวิกตอเรียทุกคน รวมถึงเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ดิฉินขอให้คุณยืนกรานในการลาออกของนางมิคาโคส และจะต้องมีผลในทันที”
นายแอนดรูส์ ได้ตอบคำถามในกรณีของการขาดคุณสมบัติของนางมิคาโคส โดยระบุว่า เขามีความมั่นใจในรัฐมนตรีทุกคน ไม่เช่นนั้น ทั้งหมดก็คงจะไม่ได้เข้าร่วมทำงานในคณะรัฐบาลชุดนี้
“หากมีปัญหาใด ๆ ที่กลุ่มชุมชนมีความกังวล โดยเฉพาะคนทำงานด้านสุขภาพ ต้องการที่จะชี้แจง เรายินดีที่จะรวมทำงานเพื่อแก้ปัญหาเหล่านั้น” นายแอนดรูส์กล่าว
ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ (25 ก.ย.) มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียมีกำหนดการในการแสดงหลักฐานต่าง ๆ ในการไต่สวนหาความจริง กรณีโรงแรมกักกันโรค
ขณะที่สภาการพยาบาลและผดุงครรภ์ของออสเตรเลียนั้น ได้ออกมาสนับสนุนนางมิคาโคส รัฐมนตรีสาธารณสุข โดยระบุว่าเธอเป็นรัฐมนตรีที่ทำงานอย่างขันแข็งมาตลอดประวัติการทำงานของเธอ
ประกาศงบสนับสนุนด้านอาหารเพิ่ม
รัฐบาลรัฐวิกตอเรีย ได้ประกาศงบประมาณจำนวน $11.3 ล้านดอลลาร์ ในการสนับสนุนบริการบรรเทาทุกข์ด้านอาหาร (food relief) ทั่วพื้นที่รัฐวิกตอเรีย เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ตกอยู่ในความเสี่ยง
โดยงบประมาณจำนวน $5 ล้านดอลลาร์นั้น จะเป็นการให้เปล่าไปยังองค์กรทำงานเพื่อชุมชนในท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเหลือในการจัดทำแผนความปลอดภัย COVIDSafe
ส่วนโครงการบรรเทาทุกข์ด้านอาหาร สำหรับชาวรัฐวิกตอเรียที่ต้องกักตัวเฝ้าระวังภาคบังคับเป็นเวลา 14 วัน ได้รับการขยายออกไป ขณะที่เงินสนับสนุนเพิ่มเติมอีก $3.5 ล้านดอลลาร์นั้น ได้รับการจัดสรรไว้ในการสร้างความมั่นคงในธนาคารอาหาร (food bank) ในภูมิภาค
“เงินส่วนมากในงบประมาณที่ได้มีการประกาศในครั้งนี้ จะนำไปปรับปรุงบริการต่าง ๆ ที่กลุ่มคนทำงานอันน่าอัศจรรย์นี้ได้ทำในทุก ๆ วัน เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น” นายแอนดรูส์กล่าว
NSW พบติดเชื้อในชุมชน 1 ราย คนแห่ไป SA หลังพรมแดนเปิด
New South Wales has not recorded a locally-transmitted coronavirus case for two consecutive days. Source: AAP
ส่วนที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ท้องถิ่น 1 ราย ขณะที่กำลังจะมีการผ่อนคลายมาตรการในการจัดพิธีสมรส แต่ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้บันทึกการติดเชื้อในโรงแรมกักกันโรคเพิ่มอีก 1 ราย โดยตัวเลขล่าสุดนี้จะปรากฎอยู่ในจำนวนผู้ติดเชื้อของวันพรุงนี้ (25 ก.ย.) ซึ่งทั้งสองรายเป็นการได้รับเชื้อในท้องถิ่นรัฐนิวเซาท์เวลส์
นางเคอร์รี แชนท์ (Kerry Chant) หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์กล่าวว่า กรณีการติดเชื้อในท้องถิ่นนั้นที่พบในวันนี้นั้น เป็นชายอายุประมาณ 50 ปี ซึ่งเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลแคมป์เบลล์ทาวน์ (Campbelltown Hospital) ทางตะวันตกของนครซิดนีย์ ซึ่งขณะนี้ชายคนดังกล่าวยังคงอยู่ในแผนกผู้ป่วยวิกฤต
ทั้งนี้ ชายคนดังกล่าวยังคงอยู่ในที่พักซึ่งได้รับการสนับสนุน ซึ่งมีบุคคลอีก 2 รายซึ่งได้รับการตรวจหาเชื้อแล้ว ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการสืบหาแหล่งที่มาของโรค
นางกลาดิส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาในวันนี้นั้น เป็นสิ่งที่ย้ำเตือนว่า “เราไม่อาจชะล่าใจได้”
“นี่เป็นโรคที่ร้ายกาจ และแพร่เชื้อได้ง่ายมาก แล้วไม่ว่าเราจะทำได้ดีแค่ไหน เราก็จะต้องพร้อมรับและป้องกันอยู่เสมอ” นางเบเรจิกเลียนกล่าวในวันนี้ (24 ก.ย.)
การพบผู้ติดเชื้อล่าสุดนั้น เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลนิวเซาท์เวลส์ ได้ประกาศผ่อนคลายมาตรการจำกัดห้ามหลายข้อในวันนี้ ซึ่งรวมถึงข้อกำหนดเกี่ยวกับลานเต้นรำขนาดใหญ่ในพิธีสมรส
นางเบเรจิกเลียน กล่าวว่า งานเลี้ยงฉลองแต่งงานที่มีผู้คนไม่เกิน 20 คน จะสามารถมีกิจกรรมบนลานเต้นรำได้ในเร็ว ๆ นี้ แต่ก็ได้เตือนให้ระวังว่า พิธีสมรสนั้นเป็นการรวมกลุ่มที่ไวรัสจะสามารถแพร่กระจายเชื้อได้ง่ายที่สุด
“มันยังคงเป็นสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงสูง และเราได้ขอให้ทางผู้ร่วมงาน และผู้จัดงาน ทำให้แน่ใจว่างานเลี้ยงฉลองแต่งงานมีการระบุชัดเจนว่า จะมีผู้คนได้ไม่เกิน 20 คน และจะต้องไม่มีอีกหลาย ๆ กลุ่มที่มี 20 คน” นางเบเรจิกเลียนกล่าว
ขณะที่ นายเจฟ ลี (Geoff Lee) รัฐมนตรีกีฬานิวเซาท์เวลส์ ได้ประกาศในวันนี้ว่า กีฬาโรงเรียนสำหรับเด็ก จะอนุญาตให้มีผู้ชมได้ 2 คน และจะมีการประกาศการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ เพิ่มเติม โดยเริ่มตั้งแต่ภาคเรียนที่ 4 เป็นต้นไป
ส่วนกิจกรรมร้องเพลงประสานเสียงในโรงเรียน จะสามารถกลับมาจัดได้อีกครั้ง โดยมีผู้ร่วมกิจกรรมได้ไม่เกิน 5 คน ตราบใดที่มีการรักษาระยะห่างทางสังคม ขณะที่กิจกรรมวงดนตรีนั้น ไม่มีการจำกัดจำนวนนักเรียน
นอกจากนี้ ยังอนุญาตให้พ่อแม่ผู้ปกครอง สามารถกลับมาช่วยเหลือกิจกรรมในโรงเรียนได้อีกครั้ง เช่น การอ่านหนังสือเป็นกลุ่ม รวมถึงพิธีการต่าง ๆ และการเฉลิมฉลองของนักเรียนปี 6 ที่จะสามารถกลับมาจัดได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม มีผู้คนหลายพันคนในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้จองการเดินทางไปยังรัฐเซาท์ออสเตรเลีย หลังวันนี้รัฐเซาท์ออสเตรเลีย (SA) ประกาศเปิดพรมแดนกับรัฐนิวเซาท์เวลส์เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน
The death was announced by South Australian Premier Steven Marshall. Source: AAP
มาตรการยกเลิกการจำกัดพรมแดนดังกล่าวมีผลมาตั้งแต่เวลา 24:00 น. ของวันที่ 24 ก.ย. หลังจากรัฐนิวเซาท์เวลล์ ไม่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาจากการแพร่ระบาดภายในชุมชนติดต่อกันเป็นเวลา 2 วัน โดยวันนี้ เป็นครั้งแรกที่ชาวรัฐนิวเซาท์เวลส์ จะสามารถเดินทางไปยังรัฐเซาท์ออสเตรเลียได้ โดยไม่ต้องกักโรคเป็นเวลา 14 วัน
นางเบเรจิกเลียนกล่าวว่า เที่ยวบินแรกจากนครซิดนีย์ ไปยังนครแอดิเลดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น เป็นภาพที่น่ายินดียิ่ง
“เราจะไม่ทำให้พวกเขาผิดหวัง เราจะทำทุกอย่างในรัฐนิวเซาท์เวลส์ เพื่อให้สถานการณ์ไวรัสอยู่ในการควบคุม” นางเบเรจิกเลียนกล่าว
แต่อย่างไรก็ตาม นางเบเรจิกเลียนเตือนว่า รัฐนิวเซาท์เวลส์อาจไม่ได้มีผู้ติดเชื้อในชุมชนเป็นศูนย์ได้ทุกวัน
การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลาเดียวกับที่โรงเรียนต่าง ๆ กำลังจะเริ่มวันหยุดปิดภาคเรียนในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ขณะที่สายการบิน Virgin Australia นั้น ได้มีกำหนดที่จะเริ่มทำการบินรายวัน ระหว่างซิดนีย์และแอดิเลด ตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค.นี้เป็นต้นไป
ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ
การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
ชวนธุรกิจไทยลดขยะรักษ์สิ่งแวดล้อมกับโครงการ Bin Trim