มาถึงแล้ว การเลือกตั้งไทยสุดสัปดาห์นี้จะเป็นครั้งแรกในรอบแปดปี

NEWS: ประเทศไทยจะจัดการเลือกตั้งที่รอคอยกันมายาวนานในวันอาทิตย์นี้ หลังมีรัฐบาลทหารมาเป็นเวลาหลายปี คนไทยภายในประเทศและผู้ซึ่งอยู่ในออสเตรเลียอธิบายว่าทำไมเรื่องนี้จึงสำคัญ

You can read the full version of this story in English on SBS News .

การเลือกตั้งของประเทศไทยในวันที่ 24 มีนาคม จะเป็นการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกในระยะเวลาแปดปี และเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดรัฐประหารเมื่อปีพุทธศํกราช 2557

สำหรับประเทศซึ่งมีประชากร 69 ล้านคน การเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกคน

“มันสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะว่าคนไทย[ไม่]ได้เลือกตั้งมาหลายปีแล้ว มันเป็นเวลา เนิ่นนาน นานมากๆ” คนไทยคนหนึ่งในนครซิดนีย์กล่าว

“ประเทศไทยไม่มีประชาธิปไตยมาเป็นเวลาห้าหรือหกปีแล้ว ตอนนี้ก็เป็นเวลาที่จะได้เกิดขึ้นเสียที ประชาธิปไตยมาแล้ว มันเป็นข่าวดีสำหรับคนไทย” อีกท่านกล่าว

แม้การเลือกตั้งจะได้รับการป่าวประกาศว่าเป็นการกลับมาสู่ประชาธิปไตย มันก็จะอยู่ภายใต้กฎของการเลือกตั้งระบบใหม่ ซึ่งผู้วิพาษ์วิจารณ์กล่าวว่าได้รับการออกแบบไว้เพื่อพยายามให้แน่ใจว่ารัฐบาลทหารนั้นยังคงรักษาอำนาจไว้อย่างทรงพลัง
Prayuth Chan-Ocha
Women hug Thai Prime Minister Prayuth Chan-Ocha. Source: AAP, AP
หลังจากที่ยึดอำนาจ รัฐบาลได้สัญญาที่จะจัดให้มีการเลือกตั้งภายในหนึ่งปีเพื่อมอบประเทศคืนให้กับการปกครองโดยพลเรือน แต่ก็มีการเลื่อนออกอย่างซ้ำๆ จนทำให้พลเอกประยุทธ์ ซึ่งเกษียณอายุออกจากราชการทหารออกมานั้น ปกครองเป็นเวลาเกือบห้าปี

การลงคะแนนเสียงในวันอาทิตย์ จะยุติความไม่แน่นอนทางการเมืองอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี แต่ผู้เชี่ยวชาญก็กล่าวว่า การเปลี่ยนรัฐธรรมนูญนั้นทำให้พลเอกประยุทธ์น่าจะยังคงรักษาอำนาจเอาไว้ได้

ทหารยังคงเป็นกลุ่มที่มีอำนาจ

ในการทำประชามติเมื่อปี 2559 ชาวไทยได้ลงคะแนนเสียงอย่างท่วมท้นเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ ซึ่งร่างขึ้นโดยรัฐบาลทหาร

ดร. เกร็ก เรย์มอนด์ นักวิจัย ณ ศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศแห่งมหาวิทยาลัยเอเอ็นยู (ANU’s Strategic and Defence Studies Centre) กล่าวกับเอสบีเอสนิวส์ว่า “มันไม่ใช่สิ่งที่พวกเราในโลกตะวันตกจะเรียกว่าเป็นประชาธิปไตย มีการจำกัดอำนาจของรัฐบาลใหม่เป็นอย่างมาก”

รัฐสภาของประเทศไทยจำนวน 750 ที่นั่งนั้น มี 500 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร (สภาล่าง) และ 250 ในวุฒิสภา ภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ ชาวไทยจะมีสิทธิ์ออกเสียงเลือกเฉพาะสภาล่างเท่านั้น
การเลือกตั้งไทยปี 2019: วิดิโออธิบายระบบการเลือกตั้ง

วุฒิสภาทั้งหมดจะไม่ได้มาจากการเลือกตั้งแต่อย่างใด โดยทั้ง 250 ที่นั่งจะถูกแต่งตั้งโดยนายพลทหาร ผู้ใช้อำนาจผ่านคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือ National Council for Peace and Order (NCPO)

ผู้ที่จะสามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้นั้นจะต้องได้รับคะแนนเสียงอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง หรืออย่างน้อย 376 เสียงจากทั้งสองสภาฯ ซึ่งก็หมายความว่า แม้พรรคใดก็ตามได้รับชัยชนะเนื่องจากมีคะแนนนิยม ก็อาจไม่สามารถก่อตั้งรัฐบาลได้

ยังมีประเด็นอื่นๆ อะไรอีกบ้าง?

มีการปราบปรามผู้ที่ขัดขืนทางการเมืองในระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมาระหว่างการปกครองโดยทหาร และบางคนก็ตั้งความหวังไว้ว่า การเลือกตั้งจะเป็นการเข้าสู่ยุคใหม่ที่จะมีเสรีภาพในการพูด

“สำหรับคนไทยจำนวนมาก คุณไม่สามารถที่จะแสดงความคิดเห็นอะไรได้เลย เพราะว่าทหารไทยจะยับยั้งทุกอย่าง” ชาวไทยในประเทศออสเตรเลียคนหนึ่งกล่าว

“คิดว่าทหารนั้นไม่ดี เพราะหากใครก็ตามต้องการจะแสดงความคิดเห็น ก็ไม่สามารถทำได้”
People queue to cast their ballots during early voting in Bangkok
People queue to cast their ballots during early voting in Bangkok on 17 March. Source: AFP, Getty
เศรษฐกิจซึ่งตกต่ำลงหลังจากเกิดรัฐประหารเมื่อปี 2557 ก็เป็นอีกเรื่องที่อยู่ในใจของชาวออสเตรเลียเชื้อสายไทยเป็นจำนวนมาก

“ในปีแรก ประเทศไทยตกอยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย และหลังจากระยะนั้นก็ไม่สามารถที่จะฟื้นตัวได้อย่างมากมาย โดยมีระดับการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศอยู่ที่ 3 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ซึ่งก็ไม่มากเท่าไรสำหรับประเทศกำลังพัฒนา” ดร. เกร็ก เรย์มอนด์ กล่าว

“ฉันเพิ่งจะกลับไปที่ประเทศไทย และเศรษฐกิจก็ไม่ดี มีคนจำนวนมากไม่มีงานทำ” ผู้ออกเสียงเลือกตั้งคนหนึ่งกล่าวกับเอสบีเอสนิวส์

“มูลค่าของเงินนั้นไม่ดีอย่างมากๆ เลย” อีกคนกล่าว

ใครที่คาดว่าจะเป็นผู้ชนะ?

พลเอกประยุทธ์ก็เข้าชิงตำแหน่งผู้นำภายใต้พรรคพลังประชารัฐซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ฝักใฝ่ทหาร และผู้เชี่ยวชาญก็คาดว่าการเปลี่ยนรัฐธรรมนูญได้ทำให้เขานั้นได้เปรียบเป็นอย่างมาก

ดร. เรย์มอนด์ กล่าวว่า สามารถทึกทักได้เลยว่าตำแหน่งวุฒิสมาชิกเกือบทุกตำแหน่ง หรือมิเช่นนั้นก็ทุกตำแหน่ง จะแต่งตั้งขึ้นจากตัวแทนผู้สนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ก็อาจเป็นไปได้ว่าจะแต่งตั้งขึ้นจากพรรคเล็กๆ ซึ่งเป็นพันธมิตรกับทหาร

“ผมคิดว่า คุณก็คงจะวางเงินเดิมพันได้ว่าพลเอกประยุทธ์จะจัดตั้งรัฐบาลในสมัยต่อไป สิ่งกีดขวางสำหรับเขานั้นมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากมีเหล่าวุฒิสมาชิกที่ทุกๆ คนก็คาดว่าจะลงคะแนนเสียงให้กับเขา” ดร. เรย์มอนด์ กล่าว

“หากท่านนับว่า 250 ที่นั่งในวุฒิภาเป็นกลุ่มของทหารและพร้อมที่จะเลือกนายรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา เขาก็ต้องการเสียงอีกแค่ 126 ที่นั่ง จากทั้งหมด 500 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อจะได้ถึงจำนวน 376”

แต่เขาก็กล่าวว่า ในการทำโพลหยั่งเสียง พรรคพลังประชารัฐนั้นไม่ได้รับความนิยมเท่าใดนัก จึงเป็นไปได้ที่พวกเขาก็อาจไม่สามารถที่จะยึดที่นั่งในสภาฯ ได้มากเพียงพอเพื่อจัดตั้งรัฐบาล

“มันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะมีพรรคใดพรรคหนึ่งที่จะได้เสียงข้างมากในรัฐสภา และพรรคของรัฐบาลเอง พรรคของพลเอกประยุทธ์เอง ในขณะนี้ก็ไม่น่าจะได้เสียงถึง 126 เสียงจากพรรคของตนเองล้วนๆ เท่านั้น”

และหากเป็นเช่นนั้น ดร. เรย์มอนด์ก็กล่าวว่า พวกเขาก็จำเป็นจะต้องมีพรรคร่วม

แล้วพรรคอื่นๆ มีพรรคอะไรบ้าง?

แม้ว่าจะมีอิทธิพลของทหารอย่างกว้างขวางในการเลือกตั้งครั้งนี้ ผู้มีสิทธิออกเสียงก็ได้รับอำนาจกลับคืนมาอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากที่อยู่ภายใต้รัฐบาลซึ่งไม่ได้มาจากการเลือกตั้งมาเป็นเวลาห้าปี

“ครั้งนี้เป็นการกลับคืน[สู่ประชาธิปไตย]ที่สำคัญ” ดร. เรย์มอนด์ กล่าว

การเลือกตั้งครั้งนี้ดูเหมือนจะกลายเป็นการต่อสู้กันระหว่างสามกลุ่ม ซึ่งในนั้นได้แก่พรรคต่างๆ ที่หนุนหลังโดยทหาร ผู้สนับสนุนให้พลเอกประยุทธ์หวนคืนสู่อำนาจ

พรรคพลังประชารัฐนั้นเป็นพรรคที่โดดเด่นที่สุด แต่ก็มีพรรคเล็กๆ เช่นพรรคประชาชนปฏิรูปและพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่ก็จัดว่าอยู่ในกลุ่มนี้
Thailand election posters
A woman rides past campaign posters in the city of Nakhon Ratchasima, Thailand. Source: AAP, AP
นอกจากนั้นยังมีพรรคอื่นๆ ซึ่งเป็นขั้วของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ผู้ตัดสินใจไปใช้ชีวิตอยู่นอกประเทศที่นครดูไบ โดยยังคงมีฐานเสียงที่บ้านอย่างกว้างขวาง

ทักษิณถูกล้มล้างด้วยการทำรัฐประหารในปี 2006 ในขณะที่น้องสาวของเขา อดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ถูกล้มล้างในปี 2014

พรรคการเมืองซึ่งเชื่อมโยงกับชินวัตรได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทุกๆ ครั้งตั้งแต่ปี 2544

พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่สำคัญที่สุด แต่พรรคเล็กๆ รวมทั้งพรรคเพื่อธรรม พรรคเพื่อชาติ และพรรคไทยรักษาชาติซึ่งถูกยุบพรรคไปแล้วเมื่อเร็วๆ นี้ โดยต้องออกจากการลงแข่งขันหลังจากเสนอชื่อพระเชษฐภคินีของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ธิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ รองศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่กรุงเทพมหานครกล่าวว่า การยุบพรรคไทยรักษาชาติ หรือ TRCP ไม่ได้ทำให้สมการในการลงคะแนนเสียงของผู้มีสิทธิเลือกตั้งนั้นเปลี่ยนแปลงไปมากเท่าใดนัก

“แม้พรรคเพื่อไทยน่าจะได้ที่นั่งเพิ่มขึ้นหลังจากการยุบพรรคไทยรักษาชาติ ผู้ที่ได้ผลประโยชน์หลักนั้นน่าจะเป็นกลุ่มต่อต้านทหารอื่นๆ คะแนนเสียงที่จะลงให้กับพรรคไทยรักษาชาตินั้น ไม่น่าจะไปลงที่พรรคซึ่งฝักใฝ่ทหารหรือฝักใฝ่ประยุทธ์”

นอกจากนั้นยังมีพรรคที่เปลี่ยนไปมา เช่นพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองอันเก่าแก่ที่สุดของไทย ผู้อาจเป็นกุญแจต่อผลลัพธ์สุดท้ายของการเลือกตั้งก็เป็นได้

“ในขณะนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะมีจำนวนเสียงที่มากพอประมาณ เป็นไปได้ว่าอาจมากกว่า 100 เสียง เพราะฉะนั้นพวกเขาก็จำเป็นที่จะต้องเจรจา”

แต่ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเต็มใจร่วมกับพรรคฝักใฝ่ทหารหรือไม่ก็ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด

หากว่าไม่ ก็อาจทำให้เป็นเรื่องยากในการที่พลเอกประยุทธ์จะสามาถกุมตำแหน่งผู้นำเอาไว้ต่อไปได้

ความรู้สึกที่ปนเป

ชาวไทยซึ่งอยู่อาศัยในประเทศออสเตรเลียจำนวนหนึ่งไม่เห็นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ชอบธรรม

“ราวกับว่าเขาต้องการจะให้ทุกคนในโลกรู้ว่าพวกเขากำลังทำการเลือกตั้งกันอยู่ในตอนนี้” คนหนึ่งกล่าว

“คนไทยรู้อยู่ ว่าลึกๆ แล้วนั้น ถึงแม้ว่าคุณสามารถลงคะแนนเสียงได้ในตอนนี้ [แต่] คิดว่าก็จะมีคนที่มาหยุดยั้งมันอีกครั้ง ดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา”
Thai people Sydney
Thai people in Sydney have mixed feelings about the upcoming election. Source: SBS News
แต่ที่ด้านนอกของสถานกงสุลใหญ่ไทย ณ นครซิดนีย์ ซึ่งหลายๆ คนได้ไปทำการลงคะแนนเสียง ก็มีสตรีอายุน้อยกลุ่มหนึ่งซึ่งแสดงความหวังในแง่ดี

“ดิฉันคิดว่าหนึ่งคะแนนเสียงก็สามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตของประเทศไทยได้ ดิฉันหวังว่าอย่างนั้น จึงเป็นเหตุผลที่ดิฉันมาที่นี่ ดิฉันต้องการให้ทุกๆ อย่างนั้นดีขึ้น”

คุณแอบบี โอไบรอัน จะรายงานการเลือกตั้งไทยในสุดสัปดาห์นี้ทาง
ติดตามฟังรายการ เอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี เวลา 22.00 น.

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

Share
Published 21 March 2019 10:56am
Updated 21 March 2019 6:21pm
By Abbie O'Brien
Presented by SBS Thai
Source: SBS


Share this with family and friends