ผู้โดยสารเรือสำราญที่มีรายงานการระบาดของโควิด-19 ซึ่งขณะนี้จอดเทียบท่าอยู่ที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ ต้องมีผลตรวจแอนติเจนเป็นลบ ถึงจะสามารถขึ้นฝั่งได้ กระทรวงสาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์กล่าว
เรือสำราญคอรัล พรินซ์เซส (Coral Princess) ขณะนี้เทียบท่าอยู่ที่เมืองอีเดน (Eden) ทางชายฝั่งตอนใต้ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ เมื่อเวลาบ่ายของวันอังคารที่ 12 กรกฎาคม เรือนี้เป็นเรือรุ่นน้องของ ในช่วงเริ่มต้นของการระบาดของโควิด-19
มีรายงานผู้ติดเชื้อบนเรือที่ได้รับการยืนยันแล้ว 118 ราย ส่วนใหญ่เป็นลูกเรือ (114 ราย) และเรือจะเทียบท่าที่ตัวเมืองซิดนีย์ในวันพุธที่ 13 กรกฎาคม เป็นเวลา 1 วันก่อนจะเดินทางกลับบริสเบน
เรือคอรัล พรินซ์เซสเป็นเรือสำราญลำแรกที่จอดเทียบท่าเรือสำราญนานาชาติที่บริสเบนเมื่อเดือนที่ผ่านมา และมีผู้ติดเชื้อ 24 รายขึ้นฝั่งที่บริสเบนเมื่อต้นสัปดาห์นี้
สาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์กล่าวว่า ขณะนี้กำลังประสานงานกับเรือคอรัล พรินซ์เซสเพื่อจับตาสุขภาพของลูกเรือและผู้โดยสาร
“ด้วยตัวเลขผู้โดยสารที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่เดินทางมากับเรือคอรัล พรินซ์เซส ยังมีจำนวนน้อย เป็นไปได้ว่าพวกเขาติดเชื้อมาก่อนที่จะลงเรือ และมีผลตรวจเป็นบวกในภายหลัง” โฆษกของสาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์แถลง
ขณะนี้สาธารณสุขจัดลำดับความเสี่ยงของเรือเป็นสี “เหลือง” นับเป็นระดับความเสี่ยงอันดับที่ 2 จากทั้งหมด 4 ระดับ ซึ่งหมายถึงพนักงานและบุคลากรได้รับผลกระทบ สาธารณสุขกล่าว
ลูกเรือจะไม่สามารถขึ้นฝั่งได้ และผู้โดยสารสามารถขึ้นฝั่งได้ต่อเมื่อมีผลตรวจแอนติเจนเป็นลบเสียก่อน
โฆษกกล่าว
ด้านโฆษกของเรือสำราญกล่าวว่า พบเคสติดเชื้อในหมู่ลูกเรือจากการตรวจเฝ้าระวังตามปกติ เป็นมาตรการที่สอดคล้องกับระเบียบใหม่ในการเดินเรือสำราญ ที่ตั้งขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม กำหนดให้ลูกเรือทุกคนได้รับวัคซีน
การตรวจคัดกรองล่าสุดพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก
“ลูกเรือที่ติดเชื้อมีอาการน้อยหรือไม่มีอาการเลย” โฆษกของเรือสำราญกล่าว
นายโดมินิก เพอร์โรเทตต์ (Dominic Perrottet) มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้รับแจ้งเรื่องเรือสำราญคอรัล พรินซ์เซส และสถานการณ์ยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
นายสตีเวน ไมล์ส (Steven Miles) รองมุขมนตรีรัฐควีนส์แลนด์กล่าวว่า การระบาดอาจทำให้หลายคนระงับการล่องเรือสำราญ และรัฐบาลในแต่ละรัฐได้รับแจ้งว่าสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ครั้งนี้มีการจัดการอย่างไร
“การรับมือขณะนี้ค่อนข้างแตกต่างจากที่เคยมีมา ในแต่ละระดับของการระบาด” นายไมล์สกล่าวกับผู้สื่อข่าวเรือคอรัล พรินซ์เซสเดินทางเข้ารัฐนิวเซาท์เวลส์ หลังมีการทบทวนระเบียบเรื่องระยะเวลาของการติดเชื้อซ้ำ โดยกำหนดให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต้องตรวจเชื้อซ้ำ หากพบว่ามีอาการหลังออกจากการกักตัว 28 วัน
ภาพมุมสูงของพอร์ท แจ็กสัน (Port Jackson) รัฐนิวเซาท์เวลส์ Source: Pexels/Mudassir Ali
ซึ่งลดจากระยะเวลาที่กำหนดก่อนหน้านี้ 12 สัปดาห์ ตามคำแนะนำของคณะกรรมการเพื่อการคุ้มครองสุขภาพของออสเตรเลีย (Australian Health Protection Principle Committee) หลังมีการระบาดของสายพันธุ์ย่อยโอมิครอน (Omicron) ที่กำลังระบาดในรัฐนิวเซาท์เวลส์ขณะนี้
มันสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันที่สร้างขึ้นจากการติดเชื้อก่อนหน้านี้ และสามารถติดเชื้อได้แม้ได้รับวัคซีน ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ หลังจากการติดเชื้อครั้งก่อน
นางเคอร์รี แชนต์ (Kerry Chant) หัวหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐนิวเซาท์เวลส์กล่าว
ผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไปสามารถฉีดวัคซีนกระตุ้นเพิ่มเติม ก่อนการติดเชื้อจะถึงจุดสูงสุดตามที่คาดการณ์ไว้ในฤดูหนาวนี้
แพทย์หญิงแชนต์แนะให้ผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อสูงปรึกษาแพทย์ในการรับยาต้านไวรัส (Antiviral) วึ่งสามารถลดความรุนแรงของอาการได้
“ยาต้านไวรัสทำงานได้ดีที่สุดเมื่อเริ่มรับประทานในช่วงเริ่มต้นของการติดเชื้อโควิด-19 ดังนั้นสิ่งสำคัญคือหากคุณมีความเสี่ยงสูง คุณควรวางแผนล่วงหน้า” แพทย์หญิงแชนต์กล่าว
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่