บีเอ.5 เชื้อสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอนกำลังระบาดในออสเตรเลีย นี่คือสิ่งที่คุณต้องรู้

บีเอ.5 (BA.5) เป็นสายพันธุ์ย่อยของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนที่กำลังจะกลายเป็นเชื้อตัวหลักที่แพร่ระบาดในออสเตรเลีย ซึ่งส่วนใหญ่เนื่องจากเชื้อนี้ติดต่อกันได้ง่ายอย่างมาก ผู้เชี่ยวชาญกล่าว

隨著疫情數字上升、因新冠而死亡的人數亦已突破一萬大關,州及領地領袖,目前正考慮應否重新引入強制戴口罩規定。

隨著疫情數字上升、因新冠而死亡的人數亦已突破一萬大關,州及領地領袖,目前正考慮應否重新引入強制戴口罩規定。 Source: SBS News

ออสเตรเลียยังคงรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่หลายพันรายในแต่ละวัน และผู้เชี่ยวชาญต่างกล่าวว่าจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นดูเหมือนว่าจะมาจากเชื้อสายพันธุ์ย่อยบีเอ.5 (BA.5)

ขณะที่มีการผ่อนคลายข้อจำกัดต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น การผ่อนคลายข้อกำหนดด้านการสวมหน้ากากอนามัย แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ยังคงห่างไกลจากการสิ้นสุดลง และเรียกร้องให้รัฐบาลและประชาชนยังคงระมัดระวังต่อไป

แล้วเชื้อสายพันธุ์ย่อยบีเอ.5 (BA.5) อะไรกันแน่? เราควรต้องกังวลหรือไม่? และเราจะปกป้องตนเองจากเชื้อนี้อย่างไร?

บีเอ.5 (BA.5) คืออะไร?

บีเอ.5 เป็นสายพันธุ์ย่อยของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ซึ่งมีการแจ้งเกี่ยวกับเชื้อนี้ไปยังองค์การอนามัยโลก (WHO) เป็นครั้งแรกจากแอฟริกาใต้เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2021 และถูกประกาศให้เป็นเชื้อสายพันธุ์ที่น่ากังวลในวันที่ 26 พฤศจิกายน

ศาสตราจารย์ เอเดรียน เอสเทอร์แมน หัวหน้าแผนกชีวสถิติและระบาดวิทยาของมหาวิทยาลัยเซาท์ออสเตรเลีย บอกกับ เอสบีเอส นิวส์ ว่า สายพันธุ์ย่อยทั้งหมดนั้นเหมือนกับเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนดั้งเดิม แต่มีความแตกต่างเล็กน้อย

"บีเอ.4 (BA.4) และ บีเอ.5 (BA.5) มีการกลายพันธุ์ที่คล้ายกันมากที่โปรตีนหนามของเชื้อ นั่นคือส่วนที่ยึดติดกับตัวจับบนผิวเซลล์ (receptor) ในร่างกายมนุษย์" ศ. เอสเทอร์แมน กล่าว

"โดยพื้นฐานแล้วเชื้อสายพันธุ์ย่อยเหล่านั้น ... ทั้งหมดพบในออสเตรเลียแล้วในขณะนี้ และเชื้อเหล่านี้จะแข่งขันกันเอง”

"ในขณะนี้ เอบี.2 (BA.2) เป็นเชื้อที่พบในผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ในออสเตรเลีย บีเอ.5 กำลังเริ่มแซงหน้า"

เชื้อนี้ติดต่อกันได้ง่ายเพียงใด?

ศ.เอสเทอร์แมน กล่าวว่า บีเอ.5 กำลังกลายเป็นเชื้อตัวหลักที่แพร่ระบาดในออสเตรเลีย ซึ่งส่วนใหญ่เนื่องจากเชื้อนี้ติดต่อกันได้ง่ายอย่างมาก

"มันติดต่อกันได้ง่ายกว่าเชื้อบีเอ.2 ถึง 25 เปอร์เซ็นต์ โดยหลักๆ แล้วมาจากการที่มันสามารถหลบเลี่ยงระบบภูมิคุ้มกันของเราได้" ศ.เอสเทอร์แมน กล่าว

"กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ หากคุณได้รับการฉีดวัคซีน หรือหากคุณเพิ่งหายจากการติดเชื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นเชื้อบีเอ.1 หรือ บีเอ.2 คุณจะติดเชื้อได้ง่ายขึ้นมาก"

ด้วยเหตุนี้ ศ.เอสเทอร์แมนจึงคาดว่าจะเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อในออสเตรเลียเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

เชื้อนี้แตกต่างจากเชื้อสายพันธุ์ย่อยอื่นๆ อย่างไร?

ศ.เอสเทอร์แมนกล่าวว่า หนึ่งในลักษณะที่แตกต่างอย่างโดดเด่นของเชื้อสายพันธุ์ย่อย บีเอ.5 คือผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ

"มีงานวิจัยล่าสุดจากประเทศญี่ปุ่นซึ่งพบว่า เชื้อสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอนในรุ่นก่อนๆ นี้ ส่วนใหญ่มักส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจส่วนบน และนั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่เชื้อเหล่านั้นดูเหมือนจะรุนแรงน้อยกว่า (เชื้อสายพันธุ์เดลตา)" ศ.เอสเทอร์แมน กล่าว

"โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บีเอ.5 มีแนวโน้มที่จะลงไปที่ปอดของคุณเช่นเดียวกับที่เดลตาทำ ดังนั้นจึงมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดการเจ็บป่วยที่รุนแรงมากขึ้น”

"สำหรับผมแล้ว นั่นอาจน่ากังวลมากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อเสียอีก"

เราควรกังวลเกี่ยวกับเชื้อนี้หรือไม่?

ศาสตราจารย์ แคเทอรีน เบนเนตต์ หัวหน้าคณะระบาดวิทยาของมหาวิทยาลัยดีคิน กล่าวว่า ความเสี่ยงของการติดเชื้อซ้ำอาจสูงขึ้นเมื่อมีเชื้อสายพันธุ์ย่อยตัวใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

"ภูมิคุ้มกันของเรานั้นไม่ได้ดีขนาดที่ปกป้องเราจากสายพันธุ์ย่อยตัวหนึ่งไปจนถึงสายพันธุ์ย่อยอีกตัวหนึ่งที่กลายพันธุ์จากเชื้อโอมิครอนเหมือนกันได้ ดังนั้นจึงหมายความว่าเรามีความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง (ที่จะติดเชื้อ)" ศ.เบนเนตต์ กล่าว

“มันเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เรากำลังเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งนั่นเป็นความท้าทายที่เพิ่มขึ้น”

ศาสตราจารย์เอสเทอร์แมนยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับการที่มีเชื้อบีเอ.5 ระบาดในช่วงเดียวกันกับฤดูกาลระบาดของไข้หวัดใหญ่และ รวมถึงการผ่อนคลายข้อจำกัดด้านโควิด-19

“เรากำลังเผชิญกับฤดูกาลที่ไข้หวัดใหญ่ระบาดหนัก … ระบบสุขภาพของเรากำลังพบความยากลำบากอยู่ในขณะนี้” ศ.เอสเทอร์แมน กล่าว

"จากการไหลบ่าเข้ามาของผู้ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่และจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากเชื้อ บีเอ.5 ผมคิดว่าในสองหรือสามเดือนข้างหน้าเราจะเข้าสู่ช่วงที่รัฐบาลของรัฐและมณฑลส่วนใหญ่จะต้องพิจารณาออกมาตรการด้านสาธารณสุขบางอย่าง"

เราจะปกป้องตนเองได้อย่างไร?

ศาสตราจารย์เบนเนตต์แนะนำว่า เราควร "ตระหนัก แต่ไม่ถึงกับวิตกกังวล" และปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัยต่อไป เช่น การสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะต่างๆ

“การรู้ถึงสิ่งที่เราทุกคนสามารถทำได้และการฉีดวัคซีนอย่างครบถ้วนตามคำแนะนำปัจจุบันเป็นสิ่งสำคัญ เช่นเดียวกับการระมัดระวังเป็นพิเศษตลอดช่วงฤดูหนาว” ศ.เบนเนตต์ กล่าว

“โชคร้ายที่มันยังไม่สิ้นสุดลง เรายังมีคนติดเชื้อเป็นพันๆ คนทุกวัน” ศ.เอสเตอร์แมน กล่าว

“ผมคิดว่าการที่รัฐบาลจะยกเลิกมาตรการด้านสาธารณสุขทั้งหมด ซึ่งดูเหมือนว่าทั้งรัฐบาลรัฐและมณฑลต่างๆ และรัฐบาลสหพันธรัฐกำลังทำนั้น ผมคิดว่าเป็นความอัปยศอย่างเลวร้าย”

ขณะประกาศการเปลี่ยนแปลงกฎการกักตัวสำหรับผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อในเดือนเมษายน นาย โดมินิก เพอร์โรต์เทต์ มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า: "ในขณะที่การระบาดใหญ่ของโควิดได้เปลี่ยนแปลงไป การรับมือของเราก็เช่นกัน และนี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่เราสามารถทำการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นได้อย่างปลอดภัยและทำโดยไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้ว"

นาย มาร์ติน โฟลีย์ รัฐมนตรีสาธารณสุขของรัฐวิกตอเรีย เมื่อประกาศเปลี่ยนแปลงกฎโควิด-19 เมื่อเร็วๆ นี้ โดยกล่าวว่า: “การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยสำหรับมาตรการด้านสาธารณสุขของเราจะยังคงปกป้องชาวรัฐวิกตอเรียให้ปลอดภัย ในขณะที่เรายกเลิกข้อบังคับต่างๆ ได้อย่างปลอดภัย และสนับสนุนธุรกิจและประชาชนให้เริ่มบริหารจัดการความเสี่ยงต่อเชื้อโควิด-19 ของตนเอง”


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 



Share
Published 27 June 2022 11:30am
Presented by Parisuth Sodsai
Source: SBS News

Share this with family and friends