ระวังเหตุจมน้ำช่วงหน้าร้อนในออสเตรเลีย

NEWS: อากาศที่เริ่มอบอุ่นอาจทำให้หลายคนอยากใช้เวลาพักผ่อนใกล้แหล่งน้ำและทะเล เจ้าหน้าที่กู้ภัยเตือนระวังจมน้ำ หลังสถิติล่าสุดพบคนจมน้ำในออสเตรเลียปีนี้มากกว่า 270 คน

یک تابلو در مورد خطر در مورد موج سواری

Source: SBS

เพียงสองปีหลังจาก อเล็กซ์ ชาง (Alex Chang) มาถึงออสเตรเลียจากประเทศเกาหลีใต้ ในเวลานั้นเขายังว่ายน้ำแทบไม่ได้ ตอนนี้เขาเป็นอาสาสมัครหน่วยกู้ชีพโต้คลื่นที่ชายหาดทามารามา ในนครซิดนีย์

“ผมไม่เคยคิดว่าจะได้เป็นอาสาสมัคร ผมดูรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ หรืออะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับคนดูแลความปลอดภัยบนชายหาด แต่นั่นมันต่างไปจากตัวผมในตอนนี้มาก” นายชาง อายุ 40 ปี กล่าวกับเอสบีเอส นิวส์

“ปกติ ผมเป็นคนทำงานออฟฟิศ อยู่ในเมือง แต่ตอนนี้ผมใช้เวลาอยู่บนชายหาด” 

นายชาง ตั้งใจที่จะช่วยผู้อพยพย้ายถิ่นคนอื่นๆ ให้ปลอดภัย ผ่านโครงการที่จัดโดยชมรม Surf Life Saving ซึ่งเขาอยู่ในสังกัด
40-year-old Alex Chang volunteers at Sydney's Tamarama Beach.
40-year-old Alex Chang volunteers at Sydney's Tamarama Beach. Source: SBS News
เขาบอกว่าเรื่องง่ายๆ อย่างการว่ายน้ำภายในพื้นที่ซึ่งมีการปักธงสีแดงสลับเหลือง อาจเป็นเรื่องที่สับสนสำหรับผู้ที่เพิ่งมาออสเตรเลียใหม่ๆ 

“บางครั้ง มันอาจเป็นเรื่องพื้นฐานมากๆ ในออสเตรเลีย แต่สำหรับผู้ที่มาจากประเทศอื่นนั้นคงไม่ทราบว่าธงเหล่านั้นหมายถึงอะไร” นายชางกล่าว

นายชางกล่าวว่า ครั้งแรกที่เขาเห็นธงเหล่านั้นเป็นครั้งแรก เขาคิดว่ามันเป็นสัญญาณที่บอกว่า การโต้คลื่นในบริเวณนั้นอันตราย
With drownings increasing  - people are being warned not to become complacent.
With drownings increasing - people are being warned not to become complacent. Source: SBS News

การจมน้ำในออสเตรเลียที่เพิ่มขึ้น

ยอดผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำในออสเตรเลียนั้นเป็นที่น่าตกใจ โดยมีผู้สูงอายุและชาวออสเตรเลียที่มีภูมิหลังจากหลากวัฒนธรรมเป็นหนึ่งในนั้น เรื่องดังกล่าวเป็นสัญญาณที่เตือนให้ผู้คนใช้ความระมัดระวังเมื่อต้องอยู่ในน้ำอย่างจริงจัง รวมถึงเข้าร่วมโครงการอบรมที่อาจช่วยชีวิตคุณได้

จากรายงานการจมน้ำของหน่วยกู้ชีพในพระองค์แห่งออสเตรเลีย (Royal Life Saving’s Society’s National Drowning Report) ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (16 ก.ย.) ระบุว่า มีชาวออสเตรเลียประสบเหตุจมน้ำ 276 คน ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้นจากสถิติของเมื่อปีก่อนร้อยละ 10 

มีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำในพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเล 122 คน ซึ่งรวมถึงการเสียชีวิตบนชายหาด ตามโขดหิน หน้าผา และพื้นที่นอกชายฝั่ง อีก 101 คนเสียชีวิตบริเวณแม่น้ำลำธาร และอีก 31 คน เสียชีวิตในสระว่ายน้ำ 

เจ้าหน้าที่กู้ชีพยังบอกว่า พฤติกรรมเสี่ยงอันตรายบริเวณแหล่งน้ำ และการว่ายน้ำไม่แข็งนั้น ยังคงส่งผลกระทบกับยอดผู้ประสบเหตุจมน้ำ

นางสเตซีย์ พิดเจียนส์ (Stacey Pidgeon) จากหน่วยกู้ชีพในพระองค์แห่งออสเตรเลีย กล่าวว่า ในขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตลดลงในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงมีกลุ่มเสี่ยงที่ยังทำให้ตัวเลขในครั้งนี้เพิ่มขึ้น

“ปีนี้เราพบเห็นตัวเลขเหตุจมน้ำที่เพิ่มขึ้นในหมู่ผู้มีภูมิหลังจากหลากวัฒนธรรม ทั้งในบริเวณแหล่งน้ำในประเทศ และบริเวณชายฝั่ง นอกจากนี้เรายังเห็นผู้สูงอายุจำนวนมากประสบเหตุจมน้ำในรอบสิบปีที่ผ่านมานี้เช่นกัน นั่นหมายถึงจำนวนผู้ประสบเหตุจมน้ำเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่” นางพิดเจียนกล่าว

ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้ตัวเลขผู้ประสบเหตุจมน้ำเพิ่มขึ้นในรอบ 10 ปี อย่างเช่น อุณหภูมิช่วงฤดูร้อนเมื่อปีก่อนที่สูงขึ้น มีส่วนทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำในฤดูร้อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี 

นอกจากนี้ จำนวนเหตุสลดที่มีผู้จมน้ำเสียชีวิตหลายคนยังเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึงร้อยละ 39 

นายเชน ดอว (Shane Daw) ผู้จัดการด้านความปลอดภัยของหน่วยกู้ชีพในพระองค์แห่งออสเตรเลีย ได้เตือนให้ผู้คนเรียนรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ก่อนที่จะลงไปในน้ำ

“สิ่งที่เราอยากเห็นก็คือ ผู้คน ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่แห่งใด ต่างเข้าใจว่าตรงไหนที่สามารถว่ายน้ำได้ เข้าใจว่าอะไรคือความเสี่ยง เข้าใจขีดจำกัดของตัวเอง และเข้าใจถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากในออสเตรเลียมีชายหาดถึงกว่า 12,000 แห่ง ไม่ว่าใครๆ ก็สามารถไปยังพื้นที่ซึ่งห่างไกล ไม่มีเจ้าหน้าที่คอยลาดตระเวน ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่ทุกคนจะต้องเข้าใจว่า เจ้าหน้าที่กู้ชีพ ตำรวจน้ำ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะไม่สามารถอยู่กับคุณได้ทุกที่ในออสเตรเลีย” นายดอวกล่าว

ผู้อพยพย้ายถิ่นประสบเหตุจมน้ำเกือบ 1 ใน 4

ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ผู้ที่ประสบเหตุจมน้ำร้อยละ 27 เกิดในต่างประเทศ โดยในรายงานฉบับนี้ได้ระบุว่า ผู้ที่เกิดในประเทศอย่างไต้หวัน ซูดาน เกาหลีใต้ เนปาล และไอร์แลนด์นั้นเป็นสมาชิกในชุมชนออสเตรเลียที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น

นายริชิ อาชารยา (Rishi Acharya) จากสมาคมชาวเนปาลในออสเตรเลีย กล่าวว่า ควรมีโครงการด้านความปลอดภัยทางน้ำที่มุ่งเน้นไปที่ผู้มีภูมิหลังจากหลากวัฒนธรรม เพื่อป้องกันการเกิดเหตุสลดในอนาคต
Rishi Acharya from the Nepalese Australian Association.
Rishi Acharya from the Nepalese Australian Association. Source: SBS News
“ในตอนนี้ โครงการเหล่านี้อยู่ในรูปแบบภาษาอังกฤษ ดังนั้นเนื้อหาในบางส่วนอาจยังไม่เหมาะสม หรืออาจไม่สามารถเข้าใจได้” นายอาชารยากล่าวกับเอสบีเอส นิวส์ 

“มันคงเป็นเรื่องที่ดี หากโครงการเหล่านี้พัฒนาและมุ่งเน้นให้ความรู้ผู้ที่มีภูมิหลังหลากวัฒนธรรมในชุมชนของเรา”

Source: SBS News

รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่

You can check out the full version of this story in English on SBS News .



Share
Published 19 September 2019 11:58am
Updated 12 August 2022 3:29pm
By Amelia Dunn, Helen Isbister
Presented by Tinrawat Banyat
Source: SBS News


Share this with family and friends