รีแคปโดยละเอียด: ทีมซ็อคเกอร์รูส์ฝันสลายพ่ายเปรูตกรอบฟุตบอลโลก

NEWS: ความพยายามของออสเตรเลีย และตำแหน่งโค้ชของนายเบิร์ต วอนมาร์เวกสิ้นสุดลงหลังเปรูเอาชนะทีมซ็อคเกอร์รูส์ 2-0 ที่นครโซชี

Image via SBS News

Source: SBS News

อองเดร คาร์ริลโล เตะลูกยาวสุดเจ๋ง ประเดิมประตูแรกของเปรูในรอบ 36 ปีของการแข่งขันฟุตบอลโลก หลังจากนั้น กัปตันทีม เปาโล เกร์เรโร ก็ทำประตูที่สองให้กับประเทศดังกล่าวจากแถบเทือกเขาแอนดีส ทำให้ออสเตรเลียพ่ายแพ้ 2-0 ณ นครโซชีเมื่อคืนนี้ (26 มิ.ย.) และก็ต้องออกจากการแข่งขันที่รัสเซียไปอย่างโศกเศร้า

เกร์เรโร ชงลูกให้กับคาร์ริลโลทำประตูได้อย่างมหัศจรรย์ในนาทีที่ 18 จากบริเวณขอบของเขตโทษด้วยการเตะส่งลูกครอสที่สวยงาม และในนาทีที่ห้าของครึ่งหลัง เขาก็ทำประตูได้อีกครั้งจากลูกเด้ง ทำให้กองทัพแฟนๆ เปรูในสนามฟิชท์นั้นโห่ร้องอย่างสุดกลั้น



ถึงแม้ว่าจะตกรอบไปแล้วก็ตาม ทีมดังกล่าวจากอเมริกาใต้นั้นก็กลับบ้านอย่างสวยงาม โดยคว้าชัยชนะในการแข่งขันฟุตบอลโลกได้สำเร็จเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่พ่ายแพ้อิหร่าน 4-1 ในรอบสุดท้ายเมื่อปี ค.ศ. 1978 ที่ประเทศอาร์เจนตินา

“ผมสามารถยืนยันอีกครั้งว่าเราคาดหวังไว้สูงกว่าที่เกิดขึ้น แต่ถ้าหากเราดูการเล่นของเรา ผมคิดว่าเปรูนั้นออกจากฟุตบอลโลกไปอย่างน่าภาคภูมิใจ” โค้ชเปรู ริคาร์โด กาเรคา ชาวอาร์เจนตินากล่าวกับกลุ่มผู้สื่อข่าว

“นั่นเป็นความรู้สึกที่ผมจะจดจำไปจากในครั้งนี้”

หลังจากที่ไม่เข้ารอบในการแข่งขันระดับโลกนี้เป็นเวลา 36 ปี เปรูก็ปิดฉากลงด้วยตำแหน่งที่สามในกลุ่ม C โดยมีคะแนนสามคะแนน ในขณะที่ทีมซ็อคเกอร์รูส์นั้นก็กลับบ้านด้วยคะแนนเพียงหนึ่งคะแนน พร้อมไปกับความเสียอกเสียใจ

ฝรั่งเศสเป็นผู้นำกลุ่มด้วยเจ็ดคะแนน ส่วนเดนมาร์กนั้นเป็นที่สองด้วยห้าคะแนน หลังจากที่ทั้งคู่เล่นเกมที่น่าเบื่อและเสมอกันไป 0-0 ที่นครมอสโคว์

ด้านออสเตรเลียนั้นจำเป็นต้องเอาชนะเปรูและต้องให้ฝรั่งเศสเอาชนะเดนมาร์คด้วย ดังนั้น ผลการแข่งขันจึงถือว่าตามตำราไม่พลิกโผ

แต่ทีมของนายเบิร์ต วอนมาร์เวกนั้นก็น่าจะรู้สึกได้ถึงความน่าคับแค้นที่ซ้ำซาก เมื่อผู้เล่นเข้าตีได้หลายครั้ง แต่ก็ไม่เฉียบคมเพียงพอที่จะทำประตูได้

นายวอนมาร์เวก ผู้กุมบังเหียนทีมเนเธอร์แลนด์จนเข้ารอบสุดท้ายได้ในศึกฟุตบอลโลกปี 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ ก็ร้องเรียนว่าประตูของนายคาร์ริลโลนั้นควรเป็นโมฆะ เนื่องจากเป็นลูกล้ำหน้า และจะอำลาตำแหน่งโค้ชชั่วคราวของเขาไปด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเป

“ประตูที่สองนั้นถือว่าโชคดีมาก พวกเรานั้นไม่มีโชคช่วยเลยในการแข่งขันทั้งสามนัด” นายวอนมาร์เวก ผู้นำทีมซ็อคเกอร์รูส์ไปพบกับความพ่ายแพ้ 2-1 กับทีมฝรั่งเศส และเสมอ 1-1 กับเดนมาร์ก กล่าวกับกลุ่มผู้สื่อข่าว

“ในทั้งสามเกม พวกเราไม่สามารถทำประตูที่สร้างความแตกต่างได้เลย”

กัปตันทีม มีเล ยาดิแน็ก เตะสูงข้ามประตูไปในนาทีที่ห้า ในขณะที่ปีก นายแมทธิว เล็คกี ก็ไม่สามารถทำประตูระยะประชิดได้ในนาทีที่ 36 เนื่องจากการรีบเข้าคว้าลูก (โดยเปรู)

ถึงแม้จะมีการส่งผู้เล่นนำโชค นายทิม เคฮิล ลงสนามในช่วงแรกของครึ่งหลัง ทีมซ็อคเกอร์รูส์ก็ยังไม่สามารถจะส่องประกายใดๆ ขึ้นได้ โดยศูนย์หน้าวัย 38 ปีคนดังกล่าว ก็ไม่สามารถทำประตูในการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายนี้ของเขา เมื่อเตะลูกยาวเข้ามือผู้รักษาประตูเปรู ณ เวลาหนึ่งชั่วโมงพอดีของการแข่งขัน

ปัญหาในการตั้งรับ

ออสเตรเลียนั้นมีปัญหาเรื้อรังเกี่ยวกับการขาดความเฉียบคมของกองหน้า แต่ทว่าเป็นความผิดพลาดในการตั้งรับต่างหากที่ทำให้พวกเขานั้นพ่ายแพ้อย่างน่าเจ็บช้ำ

เมื่อไม่มีการสกัดกั้นลูกยาวที่ดีพอ นายเกร์เรโรจึงสามารถครองบอลและมีพื้นที่ทางด้านซ้ายของลูก และเมื่อกัปตันทีมเตะชงลูกครอสมาให้ นายเกร์เรโรในตำแหน่งปีกก็เตะทะลวงเข้ามุมซ้ายของตาข่ายไปได้

ประตูดังกล่าวเป็นประตูแรกของเปรูหลังจากที่นายกิเยร์โม ลาโรซา ทำประตูเอาชนะโปแลนด์ไปได้ 5-1 ในรอบสุดท้ายที่ประเทศสเปน



ออสเตรเลียนั้นพยายามที่จะบุกโดยนายทอม รอกิช ซึ่งสามารถทะลวงผ่านฝูงกองหลังได้ในนาทีที่ 27 แต่ก็ถูกสกัดเมื่อเขายิงประตู

นายเกร์เรโร ซึ่งมีข้อกังขาในทัวร์นาเมนท์นี้เนื่องจากถูกพักการแข่งขันจากการใช้สารกระตุ้นในรอบก่อนหน้านี้ ก็ทำประตูที่สองให้เปรูทิ้งห่างในนาทีที่ 50

การเล่นอย่างชาญฉลาดของกองกลาง นายคริสเตียน เคววาส ทำให้ลูกเด้งไปโดนนายยาดิแน็กจนเข้าทางของนายเกร์เรโร ซึ่งก็เตะลูกหมุนซึ่งเด้งไปโดนนายมาร์ค มิลลิแกนเข้าประตูไปได้

ตั้งแต่นั้นเปรูก็อาศัยความโชคดีของพวกเขาจนจบการแข่งขันไปได้ โดยที่ทีมซ็อคเกอร์รูส์นั้นก็มีโอกาสยิงประตูประปรายตลอด แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จและก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
เปรูนั้นได้รับความชื่นชมอย่างมากมายถึงจะแข่งขันพ่ายแพ้ฝรั่งเศสและเดนมาร์ก และก็กลับจากรัสเซียด้วยคะแนนสามคะแนนซึ่งมีค่ามาก และก็หวังว่าพวกเขาคงจะไม่ต้องรออีก 36 ปีกว่าที่จะได้เข้าเล่นในฟุตบอลโลกอีก

“หลายๆ คนนั้นเรียกว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมา แต่ก็เดินทางมาที่นี่จนได้” นายคาร์ริลโลกล่าว “ผมรู้สึกดีใจที่ได้มอบชัยชนะให้กับพวกเขา เราภูมิใจในตัวพวกเขามาก”

การถ่ายทอดสดโดยเอสบีเอส คืนนี้ (เช้าตรู่ของวันพฤหัส 28 มิ.ย.)

เม็กซิโก v สวีเดน 00:00 น. เที่ยงคืน (เวลามาตรฐานตะวันออกออสเตรเลีย, AEST)

เยอรมนี v เกาหลีใต้ 00:00 น. เที่ยงคืน (AEST)

สวิตเซอร์แลนด์ v คอสตาริกา 04:00 น. (AEST)

เซอร์เบีย v บราซิล 04:00 น. (AEST)

Share
Published 27 June 2018 10:18am
Updated 27 June 2018 10:58am
By SBS NEWSROOM
Presented by Tanu Attajarusit
Source: SBS News


Share this with family and friends