การเติบโตของราคาบ้านในออสเตรเลียอาจลดต่ำลงหลังมีบ้านเกินกว่าความต้องการ ในรายงานภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ออกมาเมื่อเร็วๆ นี้
รายงานภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ปี 2018-2021 โดย BIS Oxford Economics ระบุว่า นโยบายกู้ยืมที่รัดกุมขึ้น และการเข้มงวดกับบรรดานักลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้การเติบโตของราคาบ้านหดตัวลงทั่วประเทศ บ้านที่สร้างแล้วเสร็จมีมากเกินความต้องการ โดยตลาดบ้านในออสเตรเลียจะมีบ้านถูกสร้างแล้วเสร็จ 200,000 หลังต่อปีติดต่อกันเป็นปีที่ 4 ในปลายปีงบประมาณ 2018/19
แอนจี ซิโกมานิส (Angie Zigomanis) ผู้จัดการอาวุโสของ BIS Oxford Economics ระบุว่า อุปทานก็ก็เติบโตขึ้นเช่นกัน หลังการเติบโตของประชากรสูงเกิน 400,000 คนในปีงบประมาณ 2017/18 ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่ยอดการย้ายถิ่นฐานจากต่างประเทศสูงสุดในปีงบประมาณ 2008/09 แต่ถึงกระนั้น ก็ยังไม่สามารถตอบสนองอุปทานบ้านที่มีอยู่ในตลาดได้
จากผลดังกล่าว ทำให้เกิดความไม่สมดุลย์ของอุปสงค์และอุปทาน ซึ่งทำให้ราคาบ้านในปี 2018/19 อ่อนตัวลง โดยอุปสงค์นักลงทุนและจำนวนบ้านที่จะถูกสร้างจะพบกับอุปทานที่ลดลงในปีงบประมาณ 2019/20
รายงานฉบับดังกล่าวยังได้กล่าวถึงการกีดกันนักลงทุนเพื่อชะลอสภาพตลาดทั่วประเทศยกเว้นในรัฐโฮบาร์ต ในปีงบประมาณ 2017/18 ซึ่งคาดว่าราคาจะหดตัวต่อไปอีกจนถึงแีงบประมาณ 2018/19
“รัฐนิวเซาท์เวลส์ และวิกตอเรีย จะได้รับผลกระทบหนักสุด” นายซิโกมานิสระบุ
ทั้งนี้ รายงานฉบับดังกล่าวระบุอีกว่า ได้มีการคาดการณ์ว่าราคาบ้านจะกลับมาเติบโตอีกครั้งทั่วประเทศในปีงบประมาณ 2020/21 จากจำนวนบ้านสอดคล้องกับความต้องการ และเศรษฐกิจที่แข็งแรงขึ้น
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ
รัฐบาลผ่านกฎหมายลดภาษีสำเร็จจากเสียงของวัน เนชัน