นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ได้กล่าวเปรียบเทียบการตัดสินใจเดินทางไปใช้เวลาวันหยุดกับครอบครัวที่ฮาวายในช่วงที่เกิดเหตุไฟป่ารุนแรงว่า เหมือนกับพ่อแม่ที่ต้องเลือก “ระหว่างทำงานเพิ่มหรือไปรับลูกที่โรงเรียนในบ่ายวันศุกร์”
นายมอร์ริสัน เดินทางมาถึงออสเตรเลียเมื่อเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา (21 ธ.ค.) หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และเหตุ 2 อาสาสมัครดับไฟป่ารัฐนิวเซาท์เวลส์เสียชีวิต กดดันให้ตัดสินใจยกเลิกวันหยุดและเดินทางกลับมายังออสเตรเลีย
ทั้งนี้ นายมอร์ริสัน ได้ปรากฏตัวในสื่อครั้งแรกตั้งแต่เดินทางกลับมายังออสเตรเลียในรายการโทรทัศน์ Sunrise เมื่อเช้าวันนี้ (23 ธ.ค.) โดยระบุว่า เขาได้เลือกที่จะไปใช้เวลาวันหยุดกับครอบครัว ซึ่งได้วางแผนมาล่วงหน้าเมื่อ 7 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ เพื่อที่จะทำหน้าที่พ่อที่ดีของลูกสาวทั้งสองคน
“เราทุกคนต่างต้องการรักษาความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงาน เราต่างพยายามที่จะทำให้มันเหมาะสม และตัดสินใจอย่างดีที่สุดในแต่ละโอกาส” นายมอร์ริสันกล่าว
“มันเหมือนกับว่าตอนนี้คือบ่ายวันศุกร์ คุณตัดสินใจที่จะทำงานต่ออีกหน่อย แต่คุณสัญญากับลูกไปแล้วว่าจะไปรับที่โรงเรียนในตอนบ่าย หรือสัญญาว่าจะทำอะไรสักอย่างแบบเดียวกับที่ผมทำ นั่นคือสิ่งที่คนเป็นพ่อเป็นแม่คนต้องค่อยชั่งน้ำหนักเพื่อจะตัดสินใจ”
นายมอร์ริสันกล่าวอีกว่า ไฟป่าได้รุนแรงขึ้นในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยเขาและ ‘เจนนี (Jenny)’ ภรรยา ได้เตรียมรายชื่อสถานที่ซึ่งได้รับผลกระทบ เพื่อที่จะลงพื้นที่ก่อนที่จะไปใช้เวลาวันหยุดก่อนหน้านี้
การตัดสินใจเดินทางกลับของนายมอร์ริสัน เกิดขึ้นหลังจากผู้ชุมนุมนับร้อยคน มารวมตัวกันที่บริเวณด้านนอกบ้านพักประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในเมืองเคอร์ริบิลลี (Kirribilli) เพื่อเรียกร้องให้ผู้นำของออสเตรเลียกลับมาจากการใช้เวลาวันหยุด และดำเนินการในเรื่องนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ท่ามกลางการประกาศสภาวะฉุกเฉินเป็นครั้งที่ 2 ในรัฐนิวเซาท์เวลส์เมื่อสัปดาห์ก่อน จากเหตุไฟป่าที่รุนแรง
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (18 ธ.ค.) นายไมเคิล แมกคอร์แมก (Michael McCormack) รักษาการนายกรัฐมนตรี ซึ่งดำรงตำแหน่งแทนนายมอร์ริสันขณะใช้เวลาวันหยุดกับครอบครัว ได้กล่าวเพื่อแก้ต่างให้กับเพื่อนร่วมงานของตนว่า “ทุกคนควรได้ไปใช้เวลาวันหยุด ทุกคนควรได้หยุดพัก”
อย่างไรก็ตาม ในวันศุกร์ที่ผ่านมา (20 ธ.ค.) นายมอร์ริสันได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจ “ต่อความขุ่นเคืองใด ๆ ที่เกิดขึ้นต่อชาวออสเตรเลียที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่า จากการไปใช้เวลาในวันหยุดกับครอบครัวในเวลานั้น” และให้คำมั่นว่าจะรีบเดินทางกลับมายังนครซิดนีย์ “โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้”
แถลงการณ์ดังกล่าวได้มีการเผยแพร่ภายในไม่กี่ชั่วโมง หลัง นายเจฟฟรีย์ คีตัน (Geoffrey Keaton) อายุ 32 ปี และนายแอนดรูว์ โอ ดไวเออร์ (Andrew O'Dwyer) อายุ 36 ปี สองอาสาสมัครดับไฟป่าจากหน่วยดับเพลิงในพื้นที่ชนบทรัฐนิวเซาท์เวลส์ (NSW Rural Fire Service) เสียชีวิตจากเหตุต้นไม้ล้มทับรถบรรทุก จนทำให้รถพลิกคว่ำลงข้างทางในหมู่บ้าน Buxton เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (19 ธ.ค.)
นายมอร์ริสัน ได้กล่าวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกหลังจากเดินทางมาถึงออสเตรเลียว่า จะไม่มีการพิจารณาการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ต่อนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศในรัฐบาลของตน
“สิ่งที่เราจะไม่ทำก็คือ การทำอะไรอย่างตระหนกหรือตื่นตูม การปฏิบัติหรือดำเนินการอะไรอย่างตระหนกตกใจจะไม่ช่วยอะไรทั้งสิ้น” นายมอร์ริสันกล่าว
ในฤดูกาลไฟป่าปีนี้ ทั่วทั้งออสเตรเลียมีไฟป่าที่ลุกไหม้เกือบ 200 จุด และมีบ้านเรือนถูกทำลายเสียหายมากกว่า 900 หลังคาเรือน โดยเหตุไฟป่าได้เริ่มต้นเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงอาสา 2 คนเสียชีวิตในไฟป่า