ซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่นแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของเมืองเวอริมานู (Wirrimanu) ชุมชนชาวอะบอริจินในพื้นที่ห่างไกลบริเวณชายขอบภูมิภาคทะเลทราย เกรท แซนดี (Great Sandy Desert) ในภูมิภาคคิมเบอร์ลีย์ (Kimberley region) รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย
ที่นี่เป็นร้านแห่งเดียวในพื้นที่เกือบ 300 กิโลเมตร แต่ละวันเปิดให้บริการเป็นเวลาจำกัด จำหน่ายทั้งอาหารสดและแห้ง รวมถึงเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์พื้นฐาน และเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด มีม่านพลาสติกที่ประตูหน้าเพื่อกันฝุ่นและแมลงวันไม่ให้เข้าไปในร้าน ขณะที่ประชาชนเข้าไปเลือกซื้อสินค้าและใช้ตู้เอทีเอ็ม
แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจของที่นี่ก็คือ ราคาสินค้าบนชั้นวางของ
เมื่อ เอสบีเอส นิวส์ เดินทางไปที่ร้านค้าชุมชนเวอริมานู (Wirrimanu Community Store) พบว่า เวจิไวท์ขวดขนาด 300 กรัมวางขายที่ราคาขวดละ $13.25 ดอลลาร์ ขนมปังขาวแบบแถวธรรมดาวางขายที่ราคาแถวละ $4.99 ดอลลาร์ และน้ำส้มขวดขนาด 2 ลิตรราคาขวดละ $7.20 ดอลลาร์
พาสต้าซานรีโมขนาด 500 กรัม 1 ถุงราคา $4.40 ดอลลาร์ ส่วนขนมบิสกิตอาร์นอตต์แพ็ก 250 กรัม วางขายอยู่ที่ราคา $5.85 ดอลลาร์หน่วยงานของชนพื้นเมืองออสเตรเลียแห่งชาติ (The National Indigenous Australians Agency) ได้ประมาณว่า ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อสิ่งของในซูเปอร์มาร์เก็ตมากกว่าผู้บริโภคในเมืองใหญ่ถึงร้อยละ 39 และช่องว่างนี้อาจเพิ่มมากขึ้น
คุณโรนัลด์ มอสกิโต (Ronald Mosquito) ประชาชนในเมืองเวอริมานู (Wirrimanu) กล่าวว่า ชุมชนมีทางเลือกน้อยนอกจากต้องจ่ายแพง Source: SBS
โรนัลด์ มอสคีโต (Ronald Mosquito) ประชาชนในเมืองเวอริมานู กล่าวกับ เอสบีเอส นิวส์ ขณะกำลังเลือกซื้อของบนชั้นวางว่า ชุมชนมีทางเลือกน้อยจึงต้องจ่ายเงินไปตามราคา
“ถ้าผู้คนสิ้นหวังและหิวโหย พวกเขาจะซื้ออะไรก็ตามที่ต้องซื้อ” คุณมอสคีโต กล่าว
คุณโรนัลด์มีภาวะเบาหวาน เขาบอกว่าเขากำลังปรับปรุงการรับประทานอาหาร แต่การมีอยู่ของอาหารสดที่ราคาเอื้อมถึงนั้นเป็นปัญหาใหญ่
“ผมเป็นเบาหวาน ผมพยายามดูแลตัวเอง มันเป็นกรรมพันธุ์ในครอบครัว เบาหวานเป็นปัญหาใหญ่ คุณต้องดูแลสุขภาพของคุณ”
ความไม่มั่นคงทางอาหาร
ทั่วออสเตรเลีย มีชนพื้นเมืองออสเตรเลียประมาณ 150,000 คน ในพื้นที่ห่างไกลมากกว่า 1,200 แห่ง รวมถึงชุมชนที่อยู่ห่างไกลมากซึ่งอาศัยอยู่กับความมั่นคงทางอาหารเพียงน้อยนิด ต้องพึ่งพาร้านค้าในชุมชน ภายใต้เส้นทางการจัดหาสินค้าที่ไม่มั่นคง และการหยุดชะงักตามฤดูกาลความโดดเดี่ยวอย่างแท้จริงของชุมชนห่างไกลหมายความว่า การนำอาหารจากคลังสินค้าในศูนย์กลางที่มีประชากรจำนวนมากเป็นงานโลจิสติกที่มีความยากลำบาก
The National Indigenous Australians Agency ประมาณว่า ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อสิ่งของในซูเปอร์มาร์เก็ตมากกว่าผู้บริโภคในเมืองใหญ่ถึง 39% Source: SBS
การขาดแคลนอาหารที่ราคาเอื้อมถึงและดีต่อสุขภาพ ส่งผลกระทบโดยตรงกับอัตราป่วยไข้จากโรคที่ป้องกันได้ เช่น โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคไต โรคหัวใจ มะเร็ง และปัญหาสุขภาพจิต
เช่นเดียวกับอีกหลายคนในเมืองเวอริมานู คุณมอสคิโตมีภาวะเบาหวานและเพิ่งจะกลับไปยังชุมชนหลังรับการรักษาที่โรงพยาบาลในนครเพิร์ท
ขณะที่ร้านค้าในชุมชนบางแห่งถูกเปิดโปงว่าเอารัดเอาเปรียบจากระยะห่างของชุมชนที่อยู่ไกล แต่การโก่งราคากลับไม่ถือว่าเป็นปัญหาที่แพร่หลาย
เช่นเดียวกับร้านค้าในชุมชนอื่น ๆ อีกหลายร้าน ร้านค้าชุมชนเวอริมานู (Wirrimanu Community Store) มีเจ้าของและได้รับการจัดการโดยชุมชน ดังนั้นราคาสินค้าจึงได้รับการรักษาระดับให้ต่ำที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ โดยเฉพาะผักและผลไม้
“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการลดราคาอาหารให้ต่ำลง แทนที่จะมองว่าเป็นกิจการเชิงพาณิชย์ เรามองมันเป็นเหมือนบริการ บริการสุขภาพ” วอร์เรน เบรแท็ก (Warren Bretag) จาก Wirrimanu Aboriginal Corporation กล่าว
แต่ค่าขนส่ง การขาดกำลังซื้อแบบขายส่ง และค่าดำเนินการที่สูง หมายความว่าประชาชนในพื้นที่ห่างไกลจะต้องจ่ายราคาพิเศษเพื่อที่จะซื้อของกินของใช้ในชีวิตประจำวัน
ที่เมืองเวอริมานู รถบรรทุกจะจัดส่งอาหารแห้งมาจากนครดาร์วิน ส่วนผักและผลไม้ได้รับการจัดส่งมาจากนครเพิร์ทผ่านเมืองฮอลส์ ครีก (Halls Creek) ผ่านทางหลวงทานามี ไฮเวย์ (Tanami Highway)
ราคาสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นที่สูงขยายวงไปถึงสถานีบริการน้ำมันในชุมชน ซึ่งราคาน้ำมันเบนซินอยู่ที่ลิตรละ $2.80 ดอลลาร์“เราพยายามซื้ออาหารในราคาต่ำที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ มันจะดีมากถ้าค่าจัดส่งไม่แพงมากนัก แต่มันแพงเพราะเราเป็นชุมชนที่อยู่ห่างไกลมาก ๆ” คุณเบรแท็ก กล่าว
Wirrimanu Community Store มีเจ้าของและได้รับการจัดการโดยชุมชน ราคาสินค้าจึงได้รับการรักษาระดับให้ต่ำที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ โดยเฉพาะราคาผักและผลไม้ Source: SBS
“ผมคิดว่าเราต้องพิจารณาชุมชนที่ห่างไกล และจัดสรรความช่วยเหลือให้กับชุมชนที่อยู่ห่างไกลจริง ๆ เพื่อที่ผู้คนจะได้มีเงินมากขึ้นในการซื้ออาหาร”
ผลกระทบต่อสุขภาพ
ช่วงต้นปี 2020 ความมั่นคงทางอาหารและความสามารถในการจับจ่ายในชุมชนชาวอะบอริจินในพื้นที่ห่างไหลกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่ง เมื่อมีรายงานว่าราคาผักกาดแก้ววางขายด้วยราคาหัวละ $7.89 ดอลลาร์ และกาแฟสำเร็จรูปวางขายขวดละ $55 ดอลลาร์
เพื่อตอบรับกับข่าวดังกล่าว เคน ไวแอตต์ (Ken Wyatt) รัฐมนตรีสหพันธรัฐด้านชนพื้นถิ่นออสเตรเลียได้เริ่มต้นการไต่สวนในสภาในประเด็นความมั่นคงทางอาหารและความสามารถในการจับจ่ายของชนพื้นถิ่นในพื้นที่ห่างไกลครั้งที่ 3 นับตั้งแต่ปี 2009 ที่ผ่านมาโดยการไต่สวนดังกล่าวไม่แนะนำให้รัฐอุดหนุนค่าขนส่ง โดยระบุว่าไม่มีหลักประกันว่าบริษัทขนส่งจะส่งต่อผลประโยชน์จากการอุดหนุนค่าขนส่งไปยังชุมชน
คนทำงานสนับสนุนด้านสุขภาพระบุว่า รัฐบาลสหพันธรัฐชุดต่อไปจำเป็นต้องลงทุน เพื่อให้แน่ใจประชาชนในพื้นที่ห่างไกลเข้าถึงอาหารที่มีคุณค่าได้ Source: SBS
แต่รัฐบาลสหพันธรัฐได้ปฏิเสธคำแนะนำสำคัญของการไต่สวนที่แนะนำว่า รัฐบาลควรสั่งการให้องค์กรด้านการแข่งขันทางการค้าและผู้บริโภคของออสเตรเลีย (ACCC) เพื่อจัดทำการวิจัยตลาดในส่วนของราคาอาหารและของชำในร้านค้าของชุมชนห่างไกล
“คณะกรรมาธิการฯ เชื่อว่า ACCC ในฐานะหน่วยงานเฝ้าระวังเพื่อผู้บริโภคจะมีทรัพยากร และสามารถดึงผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้แบบองค์รวมและเป็นอิสระ” รายงานระบุ
ในแถลงการณ์มายัง เอสบีเอส นิวส์ นายไวแอตต์ กล่าวว่า รัฐบาลเคยได้จัดสรรงบประมาณด้านโครงสร้างพื้นฐาน $8 ล้านดอลลาร์ ในร่างงบประมาณแผ่นดินล่าสุด เพื่อปรับปรุงเรื่องความมั่นคงทางอาหารในชุมชนชาวอะบอริจิน 43 แห่งทั่วออสเตรเลีย
ขณะที่โฆษกพรรคแรงงานกล่าวว่า รัฐบาลพรรคแรงงานของ แอนโทนี อัลบานิซี จะทำงานร่วมกับชุมชนเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนอาหาร ขณะที่พรรคการเมืองส่วนมากสัญญาว่าจะปรับปรุงถนนทางหลวงทานามิ (Tanami Highway) ในภูมิภาคคิมเบอร์ลีย์ รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย\
สำหรับคนทำงานสนับสนุนด้านสุขภาพชาวอะบอริจินกล่าวว่า รัฐบาลใหม่จะต้องดำเนินการและป้องกันปัญหาสุขภาพเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนห่างไกล
“เราลงเอยด้วยการสร้างโรงพยาบาลมากมายเพื่อการรักษาอาการเฉียบพลัน เพราะเราลงเอยด้วยการมีผู้เข้ารักษาอาการเฉียบพลันมากขึ้น เพราะเราไม่เคยจัดหาสิ่งที่จำเป็นในทุก ๆ วันที่ทุกคนต้องการได้” วิกกิ โอ ดอนเนลล์ (Vicki O’Donnell) ประธานบริหารของ Aboriginal Health Council of WA กล่าว
“ท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะได้รัฐบาลชุดไหนเข้ามา ก็มีโครงการไม่มากนักเช่นเดียวกับตอนนี้ในการสร้างความแตกต่างให้กับชีวิตของชาวอะบอริจิน”
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
ธุรกิจขนาดเล็กวอนรัฐบาลใหม่ให้ความช่วยเหลือ