ฝนที่ตกหนักเป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมในหลายบริเวณที่ซิดนีย์ ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำเอ่อสูงและประชาชนในพื้นที้น้ำท่วมหลายพันคนต้องอพยพ
ขณะนี้ สภาวะอุทกภัยฉุกเฉินครอบคลุมตั้งแต่ เซ็นทรัล โคสต์ (Central Coast) ถึง อิลลาวาร์รา (Illawarra) รัฐสั่งอพยพแล้ว 97 ครั้งและออกคำเตือน 60 ครั้ง กระทบประชาชนในพื้นที่ทั้งหมด 45,000 คน เพิ่มจาก 32,000 คนเมื่อวันจันทร์ที่ 4 กรกฏาคมที่ผ่านมา
คำสั่งครอบคลุมพื้นที่โดยรอบลุ่มแม่น้ำฮอว์คสบิวรี (Hawkesbury), แม่น้ำเนเพียน (Nepean), แม่น้ำจอร์จเจส (Georges), และแม่น้ำวอรอโนรา (Woronora) ซี่งน้ำกำลังสูงขึ้น
นอกจากนี้ยังมีน้ำท่วมหนักอย่างต่อเนื่องในบริเวณ วินด์เซอร์ (Windsor), แซกวิลล์ (Sackville), ริชมอนด์ (Richmond), นอร์ท ริชมอนด์ (North Richmond), และตั้งแต่ไวส์แมนส์ เฟอร์รี (Wisemans Ferry) ไปถึงแถบตะวันตกเฉียงเหนือของซิดนีย์
กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนว่าอาจมีน้ำท่วมฉับพลัน ลมแรง และอาจเกิดลมกรรโชกในบริเวณฮันเทอร์ (Hunter) และชายฝั่งของซิดนีย์
คาดว่าจะมีฝนตกทั้งสัปดาห์ และจะขยายบริเวณไปถึงบางส่วนในแถบตอนเหนือของรัฐ ซึ่งเคยประสบเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่เป็นประวัติการณ์ในเดือนกุมภาพันธุ์ มีนาคม และเมษายน
คุณแอชลีย์ ซัลลิแวน (Ashley Sullivan) โฆษกจากหน่วยกู้ภัยฉุกเฉินของรัฐ (State Emergency Services - SES) กล่าวว่าสถานการณ์ยังคงมีความผันผวน และมีการโทรขอความช่วยเหลือกับ SES จำนวน 475 สายภายในชั่วข้ามคืน
หน่วยกู้ภัยฉุกเฉินได้ช่วยผู้ประสบภัยแล้วกว่า 100 ครั้ง ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ติดอยู่ในรถที่ขับขณะน้ำท่วม หรือผู้ที่ไม่สามารถออกมาได้ทันขณะที่น้ำในแม่น้ำและลำคลองท่วมสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
“แน่นอนว่า ด้วยฝนที่ยังคงตกอย่างต่อเนื่อง ความอันตรายยังคงอยู่ในวันนี้และวันพรุ่งนี้” คุณซัลลิแวนกล่าวกับเอบีซี ทีวี (ABC TV) วันนี้
“แม้ว่าฝนจะหยุดตก แต่ภัยน้ำท่วมยังอยู่” คุณซัลลิแวนกล่าว
ในอีก 48 ชั่วโมงหน้า ทางการเพ่งเล็งบริเวณฮันเทอร์ วัลเล่ย์ (Hunter Valley) เป็นพิเศษ หลังระดับน้ำเริ่มสูงขึ้น
‘ยังไม่พ้นขีดอันตราย’
คุณสเตฟ คุก (Steph Cooke) รัฐมนตรีฝ่ายจัดการเหตุฉุกเฉินกล่าวว่ามีประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงขณะนี้อยู่ที่ศูนย์อพยพ และอีก 150 คนอยู่ที่ศูนย์พักฉุกเฉิน
คุณสเตฟขอให้ประชาชนในซิดนีย์อยู่ที่บ้าน “เว้นแต่ว่าคุณต้องออกจากบ้านจริงๆ” เนื่องจากคาดจะมีลมแรง
“เรายังไม่พ้นขีดอันตราย” คุณสเตฟกล่าวกับเอบีซี ทีวี
โดยเกิดเหตุไฟฟ้าดับประมาณ 10,800 หลังคาเรือนในชั่วข้ามคืน เนื่องจากน้ำท่วมสูงและลมแรง
เอ็นเดเวอร์ เอนเนอร์จี (Endeavour Energy) ตัดสินใจตัดไฟบ้านเรือนและธุรกิจในภูมิภาคฮอว์คสบิวรี บริเวณระหว่างวิลเบอร์ฟอรซ (Wilberforce) และไวส์แมนส์ เฟอร์รี (Wisemans Ferry) เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 4 กรกฏาคม ซึ่งอาจต้องใช้เวลาหลายวันกว่าน้ำจะลดลงและสามารถเปิดถนนได้อีกครั้ง ก่อนที่จะสามารถกลับไปใช้ไฟฟ้าได้
เกิดลมกรรโชกแรงทำให้ต้องตัดไฟเพิ่มอีก 5,000 แห่งในภูมิภาค อัพเพอร์ บลูเออร์ เมาท์เท่นส์ (Upper Bluer Mountains) บริเวณลูรา (Leura) และแบล็กฮีท (Blackheath) ในภูมิภาคโชว์เฮเวน (Shoalhaven) บริเวณแจมเบอรู (Jamberoo) และอัพเพอร์ แคงการู วัลเล่ย์ (Upper Kangaroo Valley)
หน่วยกู้ภัยฉุกเฉินได้ปฏิบัติการช่วยเหลือจากเกือบ 5,000 คำร้อง ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
ประกาศเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย
คุณโจนาธาน ฮาว (Jonathan How) นักอุตุนิยมวิทยาอาวุโสของกรมอุตุนิยมวิทยากล่าวว่าจะมีฝนตกหนักถึง 200 มิลลิเมตร ในพื้นที่บางส่วนทางตอนใต้ของซิดนีย์ในเวลาข้ามคืน
“เราเห็นปริมาณน้ำฝนทั้งหมดที่น่าเหลือเชื่อ บางแห่งไม่เพียงแค่ทำลายสถิติรายวันของเดือนกรกฎาคม แต่ยังทำลายสถิติรายวันของปีอีกด้วย โดยเฉพาะเขตแคมเบลทาวน์ (Campbelltown) ซึ่งถูกบันทึกให้เป็นวันที่มีฝนตกชุกที่สุดของเดือนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา” คุณโจนาธานกล่าวกับเอบีซี ทีวี
คาดฝนจะเริ่มบางบางลงตั้งแต่เวลาบ่ายของวันอังคารที่ 5 กรกฎาคม แต่ความกลัวการเกิดน้ำท่วมฉับพลันยังคงอยู่
ขณะเดียวกันมีประกาศเงินช่วยเหลือภัยพิบัติร่วมกันระหว่าง 23 เขตเทศบาลในซิดนีย์และบางส่วนจากรัฐนิวเซาท์เวลส์
คาดบางพื้นที่จะมีน้ำท่วมสูงในระดับเทียบเท่าหรือเกินกว่าระดับที่เคยเกิดเมื่อเดือนมีนาคม 2021
นายเมอร์เรย์ วัตต์ (Murray Watt) รัฐมนตรีฝ่ายจัดการเหตุฉุกเฉินของรัฐบาลกลางกล่าวว่ารัฐบาลกลางและรัฐบาลรัฐนิวเซาท์เวลส์ทำงานร่วมกันเพื่อให้บริเวณที่ประสบอุทกภัยได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินและความช่วยเหลือด้านอื่นๆ โดยเร็วที่สุด
“เราเห็นบางชุมชนที่ประสบอุทกภัยต้องเจอกับน้ำท่วมเป็นครั้งที่ 3 และ 4 ในรอบ 18 เดือน ซึ่งทำให้ผู้อยู่อาศัยต้องลำบากมาก” คุณเมอร์เรย์กล่าว
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่