เมื่อคืนวานนี้ (14 พ.ย.) เวลาประมาณเที่ยงคืน ตามเวลาท้องถิ่น เจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตรายที่ 4 จากเหตุไฟป่า หลังพบร่างผู้เสียชีวิตเพศชาย ในพื้นที่ตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเคมป์ซีย์ (Kempsey) ในบริเวณพื้นที่ทางเหนือตอนกลางของรัฐนิวเซาท์เวลส์
เบื้องต้น ยังต้องมีการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล แต่เชื่อว่าผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 58 ปี อาศัยอยู่ไม่ไกลจากจุดที่เจ้าหน้าที่พบ โดยมีรายงานว่าไม่มีผู้พบเห็นชายคนนี้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา (8 พ.ย.)
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิต 3 ราย คือ นางจูลีย์ เฟล็ทเชอร์ (Julie Fletcher) อายุ 63 ปี เสียชีวิตในบ้านพักที่เมืองจอนส์ ริเวอร์ (Johns River) นางวิเวียน แชปเพลน (Vivian Chaplain) และนายจอร์จ โนล (Grorge Nole) ในเมืองวิทาลีบา (Wytaliba)
แม้สภาพอากาศในรัฐนิวเซาท์เวลส์จะดีขึ้นในวันนี้ แต่ไฟป่ายังคงลุกไหม้อย่างไม่ลดละ ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงซึ่งขณะนี้เริ่มอ่อนแรงกำลังต่อสู้กับไฟป่าที่มีความอันตรายในพื้นที่ห่างไกลทางตอนเหนือของรัฐ มีไฟป่าเกิดขึ้นประมาณ 60 จุดทั่วทั้งรัฐในเช้าวันนี้ (14 พ.ย.) โดยมีไฟที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ 27 จุด และอีก 8 จุดที่เจ้าหน้าที่คอยเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมล่าสุด ได้มีการถอนประกาศห้ามจุดไฟทั่วทั้งรัฐ (total fire ban) ที่มีการประกาศไว้มาตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว แต่นายรอบ โรเจอร์ส (Rob Rogers) รักษาการผู้บังคับการบริการดับเพลิงในพื้นที่ห่างไกลของรัฐนิวเซาท์เวลส์ (Rural Fire Service NSW) กล่าวว่า เหตุการณ์ไฟป่าหายนะที่ผ่านพ้นไปเมื่อวานนี้ (13 พ.ย.) ไม่ได้ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถต่อสู้กับไฟป่าได้อย่างง่ายดายเลยแม้แต่น้อย
Firefighters in Operation Source: Hornsby Rural Fire Brigade Facebook
“เมื่อวานนี้เป็นวันที่สถานการณ์ดีขึ้น มีไฟป่าจุดเดียวที่มีการประกาศภาวะฉุกเฉิน แต่ถึงแม้สถานการณ์จะดูท่าเบาลงเมื่อวานนี้ แต่เราก็เห็นไฟที่ลุกไหม้อย่างรุนแรงอยู่เป็นจำนวนมากจากสภาพพื้นที่ซึ่งมีความแห้งแล้งมาก” นายโรเจอร์สกล่าวกับเซเว่น เน็ตเวิร์ก
“สภาพอากาศจะอบอุ่นขึ้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (15 พ.ย.) ไปจนถึงช่วงสุดสัปดาห์ ปและเริ่มร้อนขึ้นตั้งแต่ช่วงสัปดาห์หน้าพร้อมกับกระแสลมแรง เราต้องปฏิบัติหน้าที่กันอีกยาว”
สถานการณ์ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย
มีคำเตือนไฟป่าสำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เมืองเจอรัลด์ตัน (Geraldton) โดยได้ขอให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่ หรือเตรียมความพร้อมในการป้องกันบ้านจากไฟป่า
ทั้งนี้ หน่วยงานดับเพลิงและบริการฉุกเฉิน (Department of Fire and Emergency Service) ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่ไฟป่าซึ่งเป็นอันตรายต่อประชาชนและบ้านเรือนจะลุกลามเข้ามาในพื้นที่ รวมถึงสภาพอากาศที่กำลังเปลี่ยนแปลง
มีการประกาศระดับการเตือนภัย “เฝ้าระวังและเตรียมพร้อม (Watch and Act)” ในพื้นที่ทางตอนเหนือของเมืองเกล็นฟิลด์ (Glenfield) และพื้นที่ดรัมมอนด์ โคฟ (Drummond Cove) ในเมืองเจอรัลด์ตัน
ขณะที่ประชาชนซึ่งอยู่อาศัยในพื้นที่ใกล้กับถนน Glenfield Beach Drive, Hillview Drive, Reef Boulevard และ Chapman Road ในเมือง Glenfield และ Drummond Cove ได้รับการประกาศให้ออกจากพื้นที่หรือเตรียมพร้อมเพื่อปกป้องบ้านเรือน
โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ไฟป่าได้ถูกกวาดล้อมบริเวณแต่ยังไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งอาจสร้างอันตรายได้ทุกเวลา
คาดไฟป่าในควีนส์แลนด์อาจเลวร้าย
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยใช้โอกาสช่วงสภาพอากาศเป็นใจสร้างแนวต้านไฟป่า เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเลวร้ายลง
มีไฟป่ากว่า 70 จุดที่ยังคงลุกไหม้อยู่ทั่วรัฐ ขณะที่เจ้าหน้าที่ต่างทำงานอย่างไม่ลดละเพื่อควบคุมความรุนแรงของไฟป่าที่อาจทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ โดยกระแสลมจากชายฝั่งที่มีความชื้นจะทำให้สภาพอากาศในควีนส์แลนด์ดีขึ้นเป็นระยะหนึ่งในวันนี้ (14 พ.ย.) ก่อนที่จะมีกระแสลมจากทิศตะวันตกที่มีความรุนแรงและความแห้งในวันศุกร์ (15 พ.ย.)
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้เตือนว่า จะมีกระแสลมจากทิศตะวันตกที่นำอากาศแห้งกลับเข้ามาจากพื้นที่ชายฝั่งของรัฐควีนส์แลนด์
“เราคาดว่า อุณหภูมิสูงสุดจะกลับมาอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของเดือนพฤศจิกายน 4-8 องศาเซลเซียส ตั้งแต่วันศุกร์นี้ยาวไปจนถึงช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์” โฆษกหญิงจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลียกล่าว
“เมื่อรวมกับสภาพอากาศที่แห้งแล้ว เราคาดว่าระดับความอันตรายของไฟป่าจะเพิ่มขึ้นอีกครั้งไปจนถึงช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์”
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
ผู้ย้ายถิ่นไม่น้อยทำอะไรไม่ถูกเมื่อหัวใจขาดเลือด