ผู้ที่ขับรถอยู่ข้างรถให้บริการฉุกเฉินจะต้องขับรถไม่เกินอัตราความเร็วที่กำหนดขึ้นใหม่ ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ตั้งแต่ 26 กันยายนนี้เป็นต้นไป
หากผู้ขับรถคนใดฝ่าฝืนกฎใหม่นี้ จะต้องถูกหักแต้ม 3 แต้ม และถูกปรับเป็นเงิน 457 ดอลลาร์ ตามที่ระบุไว้ในข้อมูลเพื่อการประชาสัมพันธ์ล่าสุดของรัฐบาลนิวเซาท์เวลส์
กฎใหม่นี้คืออะไร
กฎจราจรใหม่นี้หมายถึงการขับรถอยู่ข้างๆ รถให้บริการฉุกเฉินต่างๆ ที่เปิดไฟฉุกเฉิน โดยทั่วไปแล้วครอบคลุมถึงรถดับเพลิง รถพยาบาล รถตำรวจ แต่ยังขยายไปถึงรถลากจูงขนาดใหญ่ (tow truck) และรถที่ให้ความช่วยเหลือรถยนต์ที่เสียระหว่างทางด้วย
ขณะที่การขับรถอยู่ข้างรถฉุกเฉินเหล่านี้ ผู้ขับขี่จะต้องลดความเร็วลงให้เหลือไม่เกิน 40 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง สำหรับถนนที่อัตราความเร็วสูงสุดถูกกำหนดไว้ที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือต่ำกว่านั้น
ถนนที่อัตราความเร็วสูงสุดถูกกำหนดไว้ที่ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือมากกว่านั้น จะไม่ต้องลดความเร็วให้เหลือ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ผู้ขับขี่จะต้องลดความเร็วให้อยู่ในอัตราที่ปลอดภัย ที่เหมาะสมกับสถานการณ์
บนถนนเหล่านี้ ผู้ขับขี่รถยนต์จะต้องรักษาระยะห่างระหว่างรถยนต์ของตนกับเจ้าหน้าที่ของรถฉุกเฉิน หรือเจ้าหน้าที่รถให้ความช่วยเหลือรถยนต์ที่จอดเสีย
กฎจราจรใหม่ดังกล่าว มีจุดประสงค์เพื่อ “ปรับปรุงสภาพความปลอดภัยสำหรับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานข้างทาง รวมทั้งผู้ใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย”
นายพอล ทูล รัฐมนตรีด้านถนนส่วนภูมิภาคของนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงนี้นั้นเพื่อให้ผู้ขับขี่รถยนต์ลดความเร็วให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย
“หากคุณกำลังขับรถอยู่บนถนนที่อัตราความเร็วสูงสุดถูกกำหนดไว้ที่ 90 ก.ม.ต่อชั่วโมง หรือสูงกว่า คุณจำเป็นต้องพิจารณาว่าคุณอยู่ใกล้กับรถที่จอดอยู่มากเพียงไร และลดความเร็วลงให้อยู่ในอัตราที่ปลอดภัย และทิ้งระยะห่างกับรถฉุกเฉินให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้” นายทูล อธิบาย
การปรับเปลี่ยนกฎจราจรครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากล็อบบีและอภิปรายกันนานหลายเดือนว่ากฎจราจรใหม่นี้ปลอดภัยเพียงไร โดยหลายคนโต้แย้งว่าการลดความเร็วขณะขับรถด้วยความเร็วสูงอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้มากขึ้น และทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์คันอื่นๆ อาจได้รับอันตรายได้
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
บริการส่งเงินที่ไม่ได้จดทะเบียนเสี่ยงทั้งคนส่งและคนรับส่ง