ลูกค้าของเอเจนต์ตัวแทนการตรวจคนเข้าเมืองในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย คุณอาร์วิน ไซ ชาง (Arvin Sy Chang) ส่วนใหญ่นั้นจะเป็นผู้ถือวีซ่านักเรียน ที่กำลังหาหนทางเพื่ออยู่อาศัยในประเทศออสเตรเลียอย่างถาวรหลังจบการศึกษา
คุณชางเผยว่า การทำครัวเชิงธุรกิจ (Commercial Cookery) และศิลปะการทำอาหาร (Culinary Arts) เป็นหนทางการศึกษาที่สามารถนำไปสู่การเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรได้
“ในเรื่องของการทำอาหาร มันขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี มันอยู่ที่ว่าผู้ที่จะเรียนนั้นเคยมีประสบการณ์[การทำงานในครัว]หรือไม่” เขาเล่า โดยเสริมว่า “แต่ก็มีทางเลือกมากมายสำหรับพวกเขา”
หากท่านสนใจ
เรียนการทำครัวเชิงธุรกิจ (Commercial Cookery) และศิลปะการทำอาหาร (Culinary Arts) ที่ประเทศออสเตรเลีย
คุณชางแนะนำว่าท่านควรจะคำนึงถึงสิ่งต่างๆ ดังต่อไปนี้1. หากท่านเคยมีประสบการณ์ทำงานในครัว ก็อาจเป็นไปได้ที่จะยื่นขอวีซ่าทักษะได้เลย
หากท่านมีประสบการณ์การทำงานในครัว ท่านอาจมีสิทธิยื่นขอวีซ่าทักษะของออสเตรเลีย (Image source: Pixabay) Source: Pixabay
เขาอธิบายว่า ขั้นตอนที่ดีที่สุดในการขอวีซ่าย้ายถิ่นฐานด้วยทักษะ ในขั้นแรกก็คือไปทำการประเมินกับ ทางโครงการประเมินทักษะจากต่างประเทศ ที่เรียกว่า Offshore Skills Assessment Program (OSAP) ของ
“ตั้งแต่เดือนเมษายน 2018 ในเรื่องของการขาดแคลนทักษะชั่วคราว รัฐบาลได้กำหนดให้กุ๊กต้องเข้ารับการประเมินทักษะ และจะต้องมีประสบการณ์อย่างน้อยสองปี” เขากล่าว
2. ทำความเข้าใจเกี่ยวกับรายชื่ออาชีพที่ถูกตั้งธง (flagged) อาชีพระยะสั้น (short-term) อาชีพระยะปานกลาง (medium-term) และอาชีพในระยะยาว (long-term)
ทำความเข้าใจรายชื่ออาชีพทักษะของออสเตรเลีย (Image source: Pixabay) Source: Pixabay
อาชีพที่ถูกตั้งธงไว้ (flagged occupations) คืออาชีพต่างๆ ที่อาจกำลังจะถูกถอดถอนออกจากรายชื่ออาชีพทักษะ หริอ เป็นอาชีพใน MLTSSL (รายชื่ออาชีพที่มีความต้องการระยะปานกลางถึงระยะยาว) ที่อาจถูกลดทอนลงไปเป็น STSOL (รายชื่ออาชีพที่มีความต้องการเพียงระยะสั้น)
หากอ้างอิงจากคุณชาน มันก็จะดีที่สุดหากท่านเล็งกลุ่มอาชีพต่างๆ ในรายชื่ออาชีพที่มีความต้อการระยะปานกลางหรือระยะยาว แทนที่จะเป็นกลุ่มอาชีพที่มีความต้องการเพียงระยะสั้น โดยกลุ่มอาชีพระยะปานกลางถึงระยะยาวนั้นจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่เรียนหลักสูตรต่างๆ เป็นเวลายาวนานสองปี สามารถขอวีซ่าบัณฑิตชั่วคราว (Temporary Graduate ซับคลาส subclass 485) ได้ ซึ่งวีซ่าดังกล่าวจะอนุญาตให้นักเรียนสามารถหางานทำต่อเป็นระยะเวลา 18 เดือนหลังจบการศึกษา
เนื่องจากอาชีพกุ๊ก (cooks) ถูกปลดลงไปอยู่ในรายชื่ออาชีพที่มีความต้องการเพียงระยะสั้น ขณะนี้จึงไม่สามารถขอวีซ่า 485 ได้อีกต่อไป
แต่ในทางกลับกัน อาชีพเชฟ (chefs) ถูกจัดอยู่ในกลุ่มอาชีพระยะปานกลางถึงระยะยาว
3. ให้เรียนเป็นเชฟ อย่าเรียนเป็นกุ๊ก
หากท่านกำลังหาหนทางเพื่อเป็นผู้อยู่อาศัยถาวร ให้เป็นเชฟแทนที่จะเป็นกุ๊ก (Image source: Pixabay) Source: Pixabay
“สิ่งที่คนซึ่งมาจากต่างประเทศหลายๆ คนทำก็คือ เรียนประกาศนียบัตรระดับสามด้านการทำครัวเชิงธุรกิจ (Certificate III in Commercial Cookery) แล้วต่อด้วยประกาศนียบัตรระดับสี่ด้านการทำครัวเชิงธุรกิจ (Certificate IV in Commercial Cookery) เพราะว่านั่นคือข้อกำหนดขั้นต่ำที่สุดของการที่จะเป็นเชฟได้ หลังจากนั้นพวกเขาก็จะเรียนดิโพลมาด้านงานบริการ (Diploma in Hospitality) หรือดิโพลมาอะไรก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับอาชีพของพวกเขา ซึ่งการเรียนเป็นจำนวนสามหลักสูตรนั้น จะทำให้ระยะเวลาของการศึกษานั้นนานเกินสองปี” คุณชางเผย
หลังจากที่เรียนเป็นเวลาสองปีแล้ว นักศีกษาก็จะสามารถยื่นสมัครเข้าโครงการความพร้อมสำหรับตำแหน่งงาน หรือ Job Ready Program (JRP) ของหน่วยงาน TRA ข้างต้น ซึ่งเมื่อผ่านโครงการความพร้อมดังกล่าวแล้ว ผู้ที่สามารถมีแต้มคะแนน 65 แต้มหรือมากกว่า ก็สามารถที่จะยื่นขอวีซ่าได้ตามเกณฑ์การย้ายถิ่นฐานด้วยทักษะทั่วไป (General skilled migration)
จากรายการอาชีพของออสเตรเลีย คุณชางยอมรับว่าการจะได้เป็นผู้อยู่อาศัยถาวรนั้นจะง่ายกว่าหากท่านเป็นเชฟ แทนที่จะเป็นกุ๊ก
4. ทำงานไปด้วยในระหว่างเรียน
การทำงานไปด้วยในขณะเรียนจะเพิ่มโอกาสการว่าจ้างงานหลังจบการศีกษา (Image source: Pixabay) Source: Pixabay
คุณชางแนะนำว่า นักเรียนควรจะใช้ประโยชน์จากจำนวนชั่วโมงซึ่งสามารถทำงานได้ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ให้เต็มที่ การทำงานไปด้วยในขณะที่เรียนนั้นจะทำให้นักเรียนมีประสบการณ์ และช่วยให้พวกเขาเก็บชั่วโมงได้เพียงพอ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อการขอวีซ่าบางประเภท และยังช่วยให้เขาได้สร้างเครือข่ายในวงการไว้อย่างแข็งแกร่ง
“ทั้งในพื้นที่เมืองและส่วนภูมิภาคของออสเตรเลีย มีความต้องการคนทำครัวเป็นอย่างมาก” เขาเล่าต่อ
อย่างไรก็ตาม ก็จำเป็นต้องทราบว่านักเรียนจะต้องเข้าใจในสิทธิของตนเมื่อเริ่มทำงาน
ตามที่คุณชางได้กล่าว“เมื่อคุณรู้สึกว่าคุณกำลังถูกเอารัดเอาเปรียบโดยนายจ้าง ว่าคุณได้รับค่าจ้างน้อยเกินไป หรือคุณกำลังทำงานในสภาพต่างๆ ซึ่งต่ำกว่าการว่าจ้างงานอย่างยุติธรรม ก็ให้ออกมาจากสถานการณ์ตรงนั้น เพราะว่าสุดท้ายแล้วคุณจำเป็นต้องใช้เอกสารรับรองเพื่อขอวีซ่า ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องทำกันอย่างถูกต้องชัดเจนบนโต๊ะ”
5. ข้อตกลงการย้ายถิ่นฐานไปยังพื้นที่เฉพาะ (Designated Area Migration Agreement หรือ DAMA) ของมณฑลนอร์เทิร์นเทร์ริทอร์รี (Northern Territory) และยังอาจมีทางเลือกวีซ่าอื่นๆ สำหรับท่านหลังจบการศึกษา
ท่านอาจมีสิทธิยื่นขอวีซ่าทักษะภายใต้ข้อตกลงการย้ายถิ่นฐานไปยังพื้นที่เฉพาะ Designated Area Migration Agreement หรือ DAMA (Image source: Pixabay) Source: Pixabay
จากที่คุณชางกล่าว ทางเลือกที่เป็นไปได้ทางหนึ่งสำหรับกุ๊กและเชฟก็คือ ข้อตกลงการย้ายถิ่นฐานไปยังพื้นที่เฉพาะ (Designated Area Migration Agreement หรือ DAMA) ของมณฑลนอร์เทิร์นเทร์ริทอร์รี (Northern Territory) ซึ่งทางเลือกดังกล่าวจะเป็นการให้ทางมณฑลนั้นเปิดรับทักษะบางอาชีพที่ได้รับการพิจารณาว่าเป็นอาชีพกึ่งทักษะ (semi-skilled) แต่ไม่ได้ขึ้นชื่ออยู่บนรายชื่ออาชีพทักษะของเครือรัฐ (Commonwealth’s skilled occupation list) ซึ่งนอร์เทิร์นเทร์ริทอร์รีก็มอบข้อลดหย่อนพิเศษต่างๆ ให้กับอาชีพเหล่านี้ อาทิ ไม่จำเป็นต้องผ่านเกณฑ์ภาษาอังกฤษ หรือเกณฑ์รายได้ขั้นต่ำ เมื่อท่านขอวีซ่าประเภทที่นายจ้างเป็นสปอนเซอร์ (employer-sponsored visas) สิ่งที่สำคัญที่สุดเมื่อจะยื่นสมัครวีซ่าประเภทนี้ก็คือการมีระดับทักษะขั้นต่ำด้วยการทำงานตามเกณฑ์ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เป็นเวลาหนึ่งหรือสองปี (ขึ้นอยู่กับอาชีพ)
คุณชางชี้ว่า ขณะนี้ขอตกลง DAMA ก็มีสำหรับพื้นที่อูรานา (Urana) ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ และวอร์นามบูล (Warrnambool) ในรัฐวิกตอเรียด้วยแล้วเช่นกัน
วีซ่าอีกทางเลือกที่เป็นไปได้สำหรับนักเรียนทำครัวหลัวจบการศึกษาก็คือ วีซ่าทักษะอิสระ (Skilled Independent Visa ซับคลาส 189)
“สถานการณ์ในอุดมคติก็คือ เรียนจบประกาศนียบัตรขั้น III และ IV และดิโพลมา ซึ่งหมายความว่าคุณก็จะมีคุณสมบัติเพิ่มขึ้นจากการมาศึกษาที่ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งก็จะมีแต้มเพิ่มให้กับคุณในการย้ายถิ่นฐานด้วยทักษะทั่วไป และหากคุณศึกษาในพื้นที่ส่วนภูมิภาคหรือเช่นในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย คุณก็จะได้แต้มคะแนนเพิ่มอีกห้าแต้ม คุณจำเป็นจะต้องมีแต้มคะแนนอย่างน้อย 65 แต้มหากจะมีสิทธิทำการย้ายถิ่นฐานทั่วไปด้วยทักษะ ซึ่งแต้มต่างๆ เหล่านี้ก็จะคอยช่วยให้มากขึ้นเรื่อยๆ” เขาเล่า
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อตกลงการย้ายถิ่นฐานไปยังพื้นที่เฉพาะ (DAMA) ได้ที่นี่
หนทางสู่การเป็นผู้อยู่อาศัยถาวร: 117 อาชีพสำหรับผู้ย้ายถิ่นมีทักษะซึ่งยินดีไปอยู่ที่ NT
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการย้ายถิ่นฐานไปยังพื้นที่เฉพาะ หรือ DAMA ไปที่
6. ทำความเข้าใจว่าในแต่ละขั้นตอนนั้นท่านกำลังทำอะไรอยู่
ทำความเข้าใจทุกขั้นตอนที่ท่านจำเป็นต้องทำในสายงานอาชีพการทำอาหาร เพื่อให้ได้เป็นผู้อยู่อาศัยถาวร (Image source: Pixabay) Source: Pixabay
“พยายามทำความเข้าใจ ไม่ใช่แค่เกี่ยวกับขั้นตอนแรกๆ แต่ในขั้นตอนต่างๆ ทั้งหมด พยายามไปพูดคุยกับเอเจนต์ตัวแทนในเรื่องกลยุทธต่างๆ” เขาอธิบาย โดยเสริมว่า “เพราะว่าจะทำให้คุณนั้นทำตามแผนการได้ และก็ทราบว่าในท้ายที่สุดแล้วคาดว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
หมายเหตุ: บทความนี้เป็นการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น หากคุณต้องการคำแนะนำเฉพาะสำหรับกรณีของคุณ ขอให้ตรวจสอบข้อมูลกับ หรือติดต่อทนายความด้านกฎหมายตรวจคนเข้าเมือง หรือติดต่อตัวแทนดำเนินการด้านวีซ่า ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนในออสเตรเลีย
ติดตามฟังรายการ เอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี เวลา 22.00 น.
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
หากมีลูกที่ออสเตรเลีย 10 ปีขอเป็นพีอาร์อยู่ต่อได้