ประเด็นสำคัญในบทความ
- รัฐบาลออสเตรเลียได้ประกาศว่า จำนวนการรับผู้อพยพย้ายถิ่นประจำปีจะเพิ่มขึ้นอีก 35,000 คน
- การประกาศครั้งนี้ส่งผลอย่างไร นับตั้งแต่ต่อนักเรียนต่างชาติและลูกจ้างชั่วคราว ไปจนถึงผู้สมัครขอวีซ่าที่ยังคงไม่ได้รับคำตอบ
รัฐบาลออสเตรเลียได้ประกาศว่า จำนวนการรับผู้อพยพย้ายถิ่นประจำปีจะเพิ่มขึ้นอีก 35,000 คน และลงทุน 36 ล้านดอลลาร์เพื่อจัดการกับใบสมัครขอวีซ่าที่คั่งค้างอยู่ในระบบ
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นในวันที่ 2 ของการประชุมสุดยอดด้านงานและทักษะ (Jobs and Skills Summit) ของรัฐบาล ซึ่งประเด็นที่โดดเด่นในการประชุมคือปัญหาการขาดแคลนแรงงานของออสเตรเลียและศักยภาพในการช่วยเติมเต็มตำแหน่งงานที่ขาดแคลนคนทำงาน ของลูกจ้างผู้ย้ายถิ่น ที่ส่วนใหญ่เดินทางกลับประเทศของตน หรือหลีกเลี่ยงที่จะมายังออสเตรเลีย เนื่องจากการระบาดใหญ่ของโควิด
นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบานีซี กล่าวว่า การที่ออสเตรเลียพึ่งพาแรงงานที่ถือวีซ่าชั่วคราว ทำให้กำลังแรงงานของประเทศ "เปราะบาง" และมี "ความเห็นพ้องโดยทั่วไป" ว่าควรส่งเสริมเส้นทางการย้ายถิ่นฐานถาวรสำหรับลูกจ้าง
นางแคลร์ โอนีล รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย กล่าวสะท้อนความคิดเห็นเหล่านั้นดังกล่าวในประกาศอย่างเป็นทางการ โดยให้คำมั่นว่าจะเพิ่มเพดานสูงสุดการรับผู้ย้ายถิ่นฐานจากเดิม 160,00 คน เป็น 195,000 คน
นางโอนีล กล่าวว่า พรรคแรงงานให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนจากการมุ่งเน้นไปที่ผู้ย้ายถิ่นฐานระยะสั้น "ไปสู่การได้อยู่อาศัยถาวร การได้สัญชาติ และการร่วมสร้างชาติ"
ใครจะได้ประโยชน์จากการประกาศนี้?
จุดมุ่งเน้นคือการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนของกำลังแรงงานให้มีลูกจ้างผู้ย้ายถิ่นฐานถาวรมากขึ้น แทนที่จะเป็นผู้ย้ายถิ่นฐานชั่วคราว ซึ่งหมายความว่ารัฐบาลจะกำหนดให้มีเส้นทางให้ลูกจ้างที่ถือวีซ่าชั่วคราวสามารถพำนักอยู่ได้นานขึ้น หรือเปลี่ยนไปเป็นวีซ่าถาวรได้
นักศึกษาต่างชาติจะได้รับประโยชน์ โดยผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในออสเตรเลียจะได้รับอนุญาตให้ทำงานในออสเตรเลียได้นานขึ้น
นายเจสัน แคลร์ รัฐมนตรีศึกษาธิการ กล่าวว่า นักเรียนที่เรียนในอุตสาหกรรมที่กำลังขาดแคลนผู้มีทักษะด้านนี้ จะสามารถอยู่ในออสเตรเลียได้นานขึ้นอีกสองปี
ผู้ถือวีซ่าทำงานชั่วคราวจะได้รับการผ่อนปรนข้อจำกัด ทำให้พวกเขาทำงานในออสเตรเลียได้นานขึ้น
ผู้ที่กำลังรอการพิจารณาวีซ่า หรือมีบุคคลในครอบครัวกำลังรอการพิจารณาวีซ่า จะได้ประโยชน์จากการประกาศครั้งนี้ด้วย โดยนายแอนดรูว์ ไจล์ส รัฐมนตรีด้านการย้ายถิ่นฐาน ให้คำมั่นจะให้งบประมาณ 36 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยจัดหาทรัพยากรมากขึ้นสำหรับการพิจารณาวีซ่า
นายไจล์สกล่าวว่าขณะนี้มีใบสมัครขอวีซ่า 900,000 ใบที่คั่งค้างอยู่ แต่รัฐบาลกำลังเร่งมือสะสางใบสมัครขอวีซ่าเหล่านี้
เขากล่าวว่าตั้งแต่พรรคแรงงานชนะการเลือกตั้งสหพันธรัฐ รัฐบาลพรรคแรงงานได้ลดเวลาในการดำเนินการพิจารณาวีซ่า
“โดยเฉลี่ยจำนวนวันในการพิจารณาวีซ่าสำหรับผู้ที่จะเดินทางมาออสเตรเลียด้วยวีซ่าแรงงานทักษะชั่วคราวนั้นลดลงจาก 53 วันในเดือนพฤษภาคม เป็น 42 วันในเดือนกรกฎาคม” นายไจล์ส กล่าวเมื่อวันศุกร์ (2 ก.ย.)
"และระยะเวลาโดยเฉลี่ยที่ใช้ในการอนุมัติคำร้องใหม่ของธุรกิจที่เป็นสปอนเซอร์ให้ลูกจ้างลดลงครึ่งหนึ่งจาก 37 วันเป็น 18 วัน"
เขากล่าวว่าเจ้าหน้าที่กำลังทำงาน "ล่วงเวลาอย่างต่อเนื่อง" เพื่อดำเนินการพิจารณาวีซ่าเหล่านั้น และงบประมาณก้อนใหม่นี้จะ "เพิ่มขีดความสามารถจากเจ้าหน้าที่ที่มากขึ้น 500 คนสำหรับ 9 เดือนข้างหน้า"
นี่จะเริ่มส่งผลเมื่อใด?
การประกาศเพิ่มเพดานจำนวนสูงสุดการรับผู้ย้ายถิ่นฐานครั้งนี้ เป็นการแก้ไขข้อกำหนดสำหรับปีงบประมาณ 2022/23 และจะมีผลบังคับใช้ทันที
งบประมาณที่เพิ่มขึ้นสำหรับทรัพยากรที่ใช้ในการพิจารณาวีซ่า จะรวมอยู่ในร่างงบประมาณแผ่นดินที่จะมีการแถลงในเดือนตุลาคม
เอสบีเอส นิวส์ ได้ติดต่อสำนักงานของนายไจล์ส เพื่อขอคำยืนยันว่าการว่าจ้างเจ้าหน้าที่เพิ่มจะสามารถเริ่มได้ทันทีหรือไม่ แต่ยังไม่ได้รับคำตอบในเรื่องนี้
ปัญหาการขาดแคลนทักษะของออสเตรเลีย: โอกาสในการทำงานและวีซ่า
เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลสหพันธรัฐประกาศว่า ผู้จัดการดูแลงานก่อสร้าง พยาบาล และเชฟ ติดอันดับใน 10 อาชีพที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดใน 5 ปีข้างหน้าในออสเตรเลีย
ในปีหน้า ลูกจ้างผู้ย้ายถิ่นกว่า 2 ใน 3 ที่คาดว่าจะเดินทางมาถึงออสเตรเลียจะมาจาก 7 อาชีพที่กำลังเป็นที่ต้องการดังกล่าว
รัฐบาลจะเปลี่ยนจากการจัดสรรโควตาวีซ่าถาวร จากที่เคยแบ่งให้อย่างเท่าเทียมกันระหว่างวีซ่าครอบครัวและวีซ่าลูกจ้างทักษะ มาเป็นการมุ่งเน้นที่ลูกจ้างมากขึ้น
รายชื่ออาชีพกำลังเป็นที่ต้องการ ซึ่งรัฐบาลระบุอยู่ในรายการ Priority Migration Skilled Occupation List ประกอบด้วย 44 อาชีพ ซึ่งในบรรดาอาชีพเหล่านั้นยังรวมถึง :
- ผู้จัดการดูแลงานก่อสร้าง
- ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธา
- แพทย์ทั่วไป
- พยาบาลวิชาชีพ
- ผู้เชี่ยวชาญด้านไอที (IT)
- โปรแกรมเมอร์ด้านซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชัน
- วิศวกรไฟฟ้า
- เชฟ
- ผดุงครรภ์
- สัตวแพทย์
- พนักงานสำรวจ หรือพนักงานรังวัด
'ไม่ใช่แค่จำนวนเท่านั้น'
ศูนย์สำหรับลูกจ้างผู้ย้ายถิ่น (Migrant Workers Centre) กล่าวว่า แม้ทางศูนย์จะยินดีกับแผนของรัฐบาลที่จะเพิ่มจำนวนลูกจ้างผู้ย้ายถิ่นในออสเตรเลีย แต่สภาพการทำงานและสิทธิของพวกเขาก็ต้องเป็นส่วนหนึ่งของการอภิปรายเช่นกัน
นายแมตต์ คันเคล ซีอีโอของศูนย์กล่าวว่า วีซ่าชั่วคราวได้ทำให้ผู้ย้ายถิ่นฐานจำนวนมากตกอยู่ในภาวะของความไม่แน่นอน และในบางกรณีก็ถูกเอารัดเอาเปรียบ
“นานเกินไปแล้ว ระบบการย้ายถิ่นชั่วคราวของออสเตรเลียได้ส่งผลให้ผู้ย้ายถิ่นต้องตกอยู่ในภาวะความไม่แน่นอน ตกอยู่ในวัฏจักรของวีซ่าชั่วคราวที่ไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งได้รับการคุ้มครองอย่างจำกัดในที่ทำงาน” นาย คันเคล กล่าว
เขากล่าวว่าลูกจ้างผู้ย้ายถิ่นควรรู้สึกปลอดภัยที่จะร้องเรียนเกี่ยวกับสภาพการทำงานที่ไม่เป็นธรรม
“คนงานทุกคนต้องรู้สึกมั่นใจที่จะร้องเรียนเรื่องการถูกเอารัดเอาเปรียบจากที่ทำงาน การคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสมีความสำคัญอย่างยิ่งเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ย้ายถิ่นจะไม่ถูกบังคับให้เลือกระหว่างการปกป้องสิทธิในที่ทำงาน กับการที่พวกเขาจะอยู่ในประเทศต่อไปได้หรือไม่" นาย คันเคล กล่าว
“ระบบการรับผู้ย้ายถิ่นของเรามากกว่าแค่การปรับจำนวนการรับ เราต้องตั้งศูนย์และสนับสนุนผู้คนที่มายังประเทศของเรา และให้ความแน่นอนแก่พวกเขาในการสร้างชีวิตและเป็นสมาชิกในชุมชนของเราอย่างเต็มที่”
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
การเปลี่ยนแปลงด้านวีซ่าและทิศทางรัฐบาลออสฯ ปีงบฯ 2022-23