สมาคมแพทย์ออสฯ ดันนโยบายสวมหน้ากากเป็นวาระแห่งชาติ

สมาคมแพทย์ออสฯ วอนคณะรัฐบาลแห่งชาติวางนโยบายสวมหน้ากากอนามัยทั่วประเทศ กระชับมาตรการปิดพรมแดนรัดกุมขึ้น ชี้ช่วยสกัดไวรัสได้ผลในช่วงแรกและควรดำเนินการต่อ

People are seen wearing masks in Bourke street in Melbourne, Sunday, 19 July, 2020.

People are seen wearing masks in Bourke street in Melbourne, Sunday, 19 July, 2020. Source: AAP

บรรดาแพทย์ในออสเตรเลีย ได้ขอให้รัฐบาลปรับเปลี่ยนข้อกำหนดการสวมใส่หน้ากากอนามัยให้มีความสม่ำเสมอ และกระชับมาตรการควบคุมชายแดนให้มีความรัดกุมยิ่งขึ้น เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา

นพ.โทนี บาร์โทนี (Tony Bartone) ประธานสมาคมแพทย์แห่งออสเตรเลีย กล่าวว่า ทุก ๆ คน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ซึ่งเกิดการแพร่ระบาดในชุมชน ควรที่จะสวมใส่หน้ากากอนามัย 

“รัฐบาลรัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐวิกตอเรียได้แนะนำเพื่อให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยแล้ว แต่คณะรัฐบาลแห่งชาตินั้นยังต้องการแนวทางในส่วนนี้ที่มีความต่อเนื่อง สำหรับการแพร่ระบาดที่อาจเกิดขึ้นที่ใดก็ตาม” นพ.บาร์โทนีกล่าว

เมื่อไม่นานมานี้ นางกลาดิส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้ยืนยันว่า จะไม่มีการประกาศข้อบังคับให้มีการสวมใส่หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ เช่นเดียวกันในพื้นที่มหานครเมลเบิร์น และพื้นที่ปกครองส่วนท้องถิ่นมิตเชลล์ ไชร์ (Mitchell Shire) ตั้งแต่วันพฤหัสบดีนี้เป็นต้นไป (23 ก.ค.) แต่ได้ขอความร่วมมือให้ประชาชนสวมใส่ ในกรณีไม่สามารถรักษาระยะห่างทางสังคมได้

ด้าน นายสกอตต์​ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาสนับสนุนแนวทางของรัฐบาลในรัฐวิกตอเรีย และรัฐนิวเซาท์เวลส์

“สถานการณ์ในขณะนี้ในซิดนีย์ และภาพรวมในรัฐนิวเซาท์เวลส์นั้นไม่เหมือนสถานการณ์ในเมลเบิร์น มันไม่มีความแตกต่างกันมากนัก” นายมอร์ริสันกล่าวกับวิทยุ 2GB   

โดยนายมอร์ริสันกล่าวว่า เขาได้สวมใส่หน้ากากอนามัยขณะไปพบนัดกับแพทย์เมื่อเร็ว ๆ นี้ เขากล่าวว่าไม่รู้สึกขัดข้องใจกับการถูกพบเห็นว่าสวมใส่หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ

“หากคำแนะนำด้านสุขภาพในที่ใดก็ตามที่ผมอาศัยมีข้อกำหนดให้ผมต้องสวมใส่ แน่นอนว่าผมจะปฏิบัติตาม” นายมอร์ริสันกล่าว 

นพ.บาร์โทนี กล่าวว่า การปิดพรมแดนภายในประเทศและระหว่างประเทศ เป็นความสำเร็จในการชะลอการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในช่วงแรก โดยได้เสนอข้อคิดเห็นให้คณะรัฐบาลแห่งชาติกระชับมาตรการในส่วนนี้ให้มีความรัดกุมมากขึ้น

“คณะรัฐบาลแห่งชาติควรกระชับมาตรการในการควบคุมพรมแดนภายในประเทศทั้งหมด” นพ.บาร์โทนีกล่าว 

“การปิดพรมแดนนั้นได้ผล หากมาตรการปิดพรมแดนที่บังคับใช้อยู่นั้นมีการผ่อนคลาย มันอาจสร้างความเสี่ยงในการทำให้ไวรัสนั้นกลับมา”

โดยรัฐนิวเซาท์เวลส์จะยกระดับมาตรการจำกัดพรมแดนสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากรัฐวิกตอเรีย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ส่วนที่รัฐควีนส์แลนด์ มีการพิจารณาขยายขอบเขตการประกาศพื้นที่เสี่ยง โดยรวมพื้นที่ฮอตสปอตของการแพร่ระบาดในรัฐนิวเซาท์เวลส์ หลังพบหญิง 2 ราย พยายามลักลอบนำชายคนหนึ่งที่ไม่มีใบอนุญาตข้ามพรมแดนมายังรัฐควีนส์แลนด์

เมื่อวานนี้ (21 ก.ค.) รัฐวิกตอเรียได้บันทึกยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่กว่า 374 ราย และมีผู้เสีชชีวิต 3 ราย ขณะที่รัฐนิวเซาท์เวลส์มีผู้ติดเชื้อ 13 ราย หนึ่งในนั้น 1 รายเป็นผู้พักในโรงแรมกักกันโรค


ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ 

การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้ 

คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

Share
Published 22 July 2020 11:53am
Updated 22 July 2020 12:12pm
Presented by Tinrawat Banyat
Source: AAP, SBS


Share this with family and friends