จากการไต่ส่วนโดยคณะกรรมาธิการในพระองค์ ในกลุุ่ม 4 ธนาคารใหญ่ของออสเตรเลีย ทำให้กฎระเบียบสำหรับการปล่อยกู้จากธนาคารนั้นรัดกุมขึ้น การจำนองบ้านหรือขอสินเชื่อก็ยากขึ้น แต่ไม่นานมานี้ มีเครื่องมือใหม่สำหรับธนาคารในการประเมินวงเงินสินเชื่อที่เรียกว่า รายงานเครดิตแบบองค์รวม (Comprehensive Credit Reporting)
ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา กลุ่ม 4 ธนาคารใหญ่ในออสเตรเลียได้เริ่มใช้งานระบบดังกล่าว โดยข้อมูลในรายงานนี้มาจากผู้ให้เครดิตรายต่างๆ ที่นำส่งกับสำนักงานเครดิตบูโร ซึ่งจะมีรายละเอียดอย่างเช่น การจัดการสินเชื่อของแต่ละบุคคล โดยจะมีข้อมูลทั้งใน “ด้านบวก” และ “ด้านลบ”
“หากพูดง่ายๆ ระบบรายงานเครดิตใหม่นี้จะเก็บพฤติกรรมทางการเงินของคุณทั้งหมด ไม่ใช่เพียงแค่วันที่คุณมีสินเชื่อ แต่รวมถึงรายละเอียดว่าสินเชื่อนั้นเกี่ยวกับอะไร และเมื่อไหร่ที่จะถึงวันปิดหนี้สินเชื่อนั้นจนหมด” นายเกรแฮม คูก (Graham Cooke) ผู้จัดการด้านข้อมูลเชิงลึก จากเว็บไซต์เปรียบเทียบบริการทางการเงิน finder.com อธิบาย
ในอดีต ธนาคารจะนำส่งเพียงข้อมูล “ด้านลบ” กับเครดิตบูโร อย่างเช่น การพลาดชำระหนี้ แต่ในตอนนี้ ธนาคารจะนำส่งข้อมูล “ด้านบวก” ด้วย เช่น เมื่อคุณชำระหนี้ต่างๆ อย่างตรงเวลา
การรายงานเครดิตแบบองค์รวมนั้น คาดว่าจะเป็นการสะท้อนพฤติกรรมรายบุคคลในการจัดการด้านสินเชื่อที่เป็นจริงกว่า รวมถึงเปิดโอกาสให้สามารถเปรียบเทียบข้อมูลระหว่างแง่บวกและแง่ลบได้
ขณะที่ นางจูเลีย เดวิส (Julia Davis) เจ้าหน้าที่ด้านโยบายและการสื่อสาร จากศูนย์สิทธิทางกฎหมายด้านการเงิน (Financial Legal Rights Centre) ได้แสดงความกังวลว่า ระบบรายงานเครดิตใหม่นี้อาจมุ่งเป้าไปยังผู้ขอสินเชื่อบางกลุ่มอย่างไม่เป็นธรรม
“เราเพิ่งทราบว่า ข้อมูลความยากลำบากทางการเงินจะรวมอยู่ในคะแนนเครดิตรายบุคคลด้วย และมันจะถูกใช้โดยผู้ปล่อยสินเชื่อเพื่อการตัดสินใจด้านอัตราดอกเบี้ย และเพื่อดูว่าพวกเขาควรจะปล่อยสินเชื่อให้บุคคลเหล่านั้นหรือไม่” นางเดวิสกล่าว
ปัจจุบัน มีการบันทึกข้อมูลสินเชื่อที่อยู่อาศัยในรายงานเครดิตนี้ คิดเป็น 80% หรือราว 4 ล้านราย และข้อมูลบัตรเครดิต คิดเป็น 60% หรือราว 15 ล้านราย
หากคุณมีบัตรเครดิต 6 ใบ ซึ่งแต่ละใบมีวงเงินสูงสุดที่ $6,000 ดอลลาร์ ผู้ปล่อยกู้สินเชื่อจะเห็นข้อมูลนี้ในรายงานเครดิตของคุณด้วย และคำนวณความเสี่ยง หรือปัจจัยที่มีผลต่อความรับผิดชอบทางการเงินเป็นมูลค่า $36,000 ดอลลาร์ แม้คุณจะมีหนี้เพียง $2,000 ดอลลาร์ก็ตาม
เว็บไซต์ Finder.com ได้ทำการศึกษาประวัติเครดิตของบุคคล 14,000 ราย และพบว่า จำนวนบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลที่พึงมีนั้นอยู่ที่ระหว่าง 1-2 ต่อบุคคล นอกจากนี้ยังพบว่า คะแนนเครดิตของผู้ที่ไม่เคยมีสินเชื่อบุคคลหรือบัตรเครดิตมาก่อนต่ำกว่าผู้ที่เคยมีบัตรเครดิตอย่างน้อย 1 ใบถึง 16%
อย่างไรก็ตาม การศึกษาดังกล่าวยังพบอีกว่า ผู้ที่เคยมีบัตรเครดิตมากกว่า 3 ใบ มักจะได้รับคะแนนเครดิตที่ต่ำกว่า และพบว่า การขอกู้เงินจากธนาคารนั้นยากกว่าบุคคลอื่นๆ
นอกจากนี้ นายคูกยังกล่าวอีกว่า มีหลายคนที่ติดกับดักบัตรเครดิต ซึ่งเชิญชวนให้พวกเขาใช้จ่ายผ่านบัตรเพื่อแลกกับคะแนนรางวัล
“มีบางกรณีที่ผู้คนพยายามสะสมคะแนนรางวัลบัตรเครดิตให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วบินไปเที่ยวรอบโลก ทุกอย่างจะดูดีและไม่มีปัญหาหากคุณสามารถชำระเงินคืนในอัตราดอกเบี้ยที่สูงได้” นายคูกกล่าว
หากท่านสนใจที่จะตรวจสอบประวัติเครดิต ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ท่านตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ของ
Source: SBS News
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
บริการส่งเงินที่ไม่ได้จดทะเบียนเสี่ยงทั้งคนส่งและคนรับส่ง