ในสัปดาห์สุดท้ายของการประชุมรัฐสภาของปีนี้ รัฐบาลสหพันธรัฐจะเสนอร่างกฎหมาย ที่กำหนดให้นายจ้างต้องเสนอตำแหน่งประจำให้แก่ลูกจ้างแคชวล ที่ทำงานในตำแหน่งนั้นอย่างต่อเนื่องนาน 12 เดือน
ข้อเสนอดังกล่าว จะมีผลบังคับใช้กับลูกจ้างแคชวล ที่มีรูปแบบการทำงานที่แน่นอนเป็นเวลา 6 เดือน และสามารถทำงานในตำแหน่งนั้นแบบฟูลไทม์หรือพาร์ตไทม์ได้ โดยไม่ต้องปรับชั่วโมงการทำงานของตนมากนัก
เอริน เป็นลูกจ้างแคชวลวัย 20 กลางๆ ซึ่งทำงานที่ร้านซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายหนังสือ และสอนการแสดง
เธอทำงานแคชวลหลายงานมาตั้งแต่อายุ 15 ปี เธอบอกกับ เดอะ ฟีด (The Feed) ว่า เธอวิตกเกี่ยวกับร่างกฎหมายใหม่นี้
โดยเฉพาะเธอเป็นห่วงว่า นายจ้างอาจเลิกจ้างลูกจ้างก่อนที่ลูกจ้างผู้นั้นจะทำงานครบ 12 เดือนตามกฎหมายกำหนด เพื่อหลีกเลี่ยงการเสนอตำแหน่งงานประจำให้ลูกจ้างแคชวล
“ฉันวิตกเกี่ยวกับถ้อยคำที่ใช้ในกฎหมาย และการที่จะต้องพยายามทำให้ไม่มีช่องโหว่ ที่จะปล่อยให้เกิดปัญหาเช่นนั้นได้” เอริน กล่าวเธอเล่าต่อไปว่า เป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว ที่เนื่องจากไม่ได้รับชั่วโมงทำงานที่เพียงพอ เธอจึงต้องนำเงินที่เก็บออมไว้ออกมาใช้
casual workers Source: Flickr
ฉันอาจจะว่างทั้งสัปดาห์ แต่ไม่ได้กะทำงานเลยแม้แต่กะเดียว เอริน เล่า
เธอบอกว่า เธอไม่ค่อยชอบทำงานที่ร้านซูเปอร์มาร์เก็ตเท่าใดนัก แต่จำต้องทำ เพราะเธอไม่ได้ชั่วโมงสอนที่เพียงพอจะอยู่ได้ จากงานสอนการแสดง หรือจากงานที่ร้านขายหนังสือ
“มีช่วงหนึ่งที่ฉันก็ต้องทำงาน 4 งานไปช่วงเดียวกัน แค่จะได้มีเงินพอสำหรับอาหารและค่าเช่าบ้าน”
จากข้อมูลของสภาสหภาพแรงงานแห่งออสเตรเลีย หรือ เอซีทียู (ACTU) ระบุว่า มีผู้คนในออสเตรเลียกว่า 2 ล้านคน ที่กำลังได้รับการว่าจ้างงานแบบแคชวล ลูกจ้างแคชวลเกินครึ่งหนึ่งเป็นผู้หญิง และร้อยละ 40 ของลูกจ้างแคชวล อายุระหว่าง 15-24 ปี เว็บไซต์ของเอซีทียู ระบุ
น.ส.แซลลี แมคมานัส เลขาธิการของเอซีทียู กล่าวว่า ร่างกฎหมายนี้ เป็นการพลาดโอกาส และยังทำให้สิทธิ์ของลูกจ้างแคชวลก้าวถอยหลังเธอกล่าวว่า ร่างกฎหมายนี้จะปล่อยให้นายจ้างเรียกลูกจ้างคนใดก็ได้ว่าเป็นลูกจ้างแคชวล ถึงแม้พวกเขาจะถูกว่าจ้างสำหรับตำแหน่งงานประจำและมีให้ทำอย่างต่อเนื่องก็ตาม
A court ruling has found employees contracted as casuals on a permanent basis are entitled to paid leave benefits. Source: AP
“ข้อเสนอดังกล่าวทำให้เกือบเป็นไปไม่ได้เลยที่ลูกจ้างแคชวลจะเปลี่ยนไปเป็นลูกจ้างประจำ และหากนายจ้างไม่มีเหตุผล หรือไม่เสนอตำแหน่งประจำให้พวกเขา ก็มีอะไรเพียงน้อยนิดที่พวกเขาจะทำได้” เธอระบุในคำแถลงในวันจันทร์ (7 ธ.ค.)
“แม้เราจะรู้ดีว่าลูกจ้างแคชวลมากมาย ที่ได้ค่าจ้างไม่มากไปกว่าลูกจ้างประจำ แต่ร่างกฎหมายนี้จึงยังมีผลย้อนหลัง โดยขจัดสิทธิ์ที่พวกเขาอาจจะสามารถลางานโดยได้รับค่าจ้างออกไปด้วย”
รศ. คริส ไรต์ จากคณะธุรกิจ ของมหาวิทยาลัยซิดนีย์ ได้แสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับร่างกฎหมายนี้เช่นกัน
เขากล่าวว่า ขณะที่ร่างกฎหมายนี้จะให้ประโยชน์ “มากมาย” แก่ธุรกิจต่างๆ แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้นสำหรับลูกจ้างแคชวล
ร่างกฎหมายนี้ มีจุดประสงค์เพื่อช่วยให้นายจ้างสามารถประหยัดเงินรวมกัน 39,000 ล้านดอลลาร์จากการเรียกร้องสิทธิ์ของลูกจ้างแคชวล โดยร่างกฎหมายนี้ระบุว่า หากศาลตัดสินว่าลูกจ้างแคชวลควรได้รับสิทธิประโยชน์สำหรับการทำงานในตำแหน่งประจำ ค่าจ้างที่เพิ่มให้พิเศษสำหรับการทำงานแคชวล หรือที่เรียกว่า แคชวล โหลดดิง (casual loading) ที่จ่ายให้ลูกจ้างแคชวลไปแล้ว จะถูกนับรวมไปในความรับผิดชอบส่วนนี้ของนายจ้าง
ร่างกฎหมายนี้มีขึ้น หลังศาลสหพันธรัฐ ได้มีคำตัดสินว่า ลูกจ้างแคชวลผู้หนึ่ง ที่ทำงานในตำแหน่งงานประจำ อาจมีสิทธิ์ได้รับสิทธิประโยชน์เหล่านี้จากนายจ้าง โดยที่นายจ้างต้องจ่ายให้เพิ่มเติมจากเงิน แคชวล โหลดดิง (casual loading) ที่จ่ายให้มากกว่าค่าจ้างปกติ 25 เปอร์เซ็นต์ด้วย“ผมคิดว่าถ้าจะมีผลเสียเกิดขึ้น ก็น่าจะเป็นว่า ร่างกฎหมายนี้จะทำให้ความไม่มั่นคงในการจ้างงานเลวร้ายลงสำหรับลูกจ้างบางคน แทนที่จะเป็นการแก้ปัญหาที่ยืดเยื้อมานานในระบบ” รศ.ไรต์ กล่าว
Oltre la metà della forza lavoro nel campo della ristorazione ha un contratto casual. Source: Getty Images/James Braund
“ปัญหาต่างๆ ในอุตสาหกรรมของเรา เกี่ยวข้องกับการที่การปกป้องลูกจ้างนั้นไม่แข็งแกร่งพอ”
อย่างไรก็ตาม นายคริสเตียน พอร์เทอร์ อัยการสูงสุดแห่งสหพันธรัฐ (Attorney-General) กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะไม่ทำให้ลูกจ้างแคชวลเสียประโยชน์ โดยระบุว่า การวิพากษ์วิจารณ์ร่างกฎหมายนี้ เป็น “ความเข้าใจผิด”“เราต้องการสร้างระบบที่ยุติธรรม ซึ่งทุกคนรู้ว่า ผู้คนกำลังได้รับการว่าจ้างอย่างไร สิทธิ์ที่จะขอเปลี่ยนไปเป็นลูกจ้างประจำของพวกเขาเป็นอย่างไร และพวกเขาควรได้รับค่าจ้างอย่างไร” นายพอร์เทอร์ บอกกับผู้สื่อข่าวในวันจันทร์
Attorney-General Christian Porter. Source: AAP
เขากล่าวต่อไปว่า เขามั่นใจว่าจะมีการปรึกษาหารือเกี่ยวกับร่างกฎหมายนี้กับภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมากกว่านี้ ก่อนที่ร่างจะได้รับการอนุมัติ
“มีบางสิ่งในร่างกฎหมายนี้ที่สหภาพแรงงานจะไม่ชื่นชอบ มีบางสิ่งในร่างกฎหมายที่กลุ่มธุรกิจจะไม่ชื่นชอบเช่นกัน”
“และไม่ต้องสงสัยเลยว่า ขณะนี้ เราก้าวเข้าสู่ระยะที่สองของการปรึกษาหารือ ร่างกฎหมายนี้จะได้รับการเสนอสู่รัฐสภา มันจะถูกส่งไปยังคณะกรรมาธิการ ซึ่งเราจะยังคงเปิดตาเปิดหูของเราเพื่อรับฟังคำชี้แนะ” นายพอร์เทอร์ กล่าว
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
Settlement Guide: การเป็นอาสาสมัครดับเพลิงในออสเตรเลีย