ผู้เชี่ยวชาญด้านการอพยพย้ายถิ่นฐานและนักเศรษฐศาสตร์ ต่างสนับสนุนเสียงเรียกร้องให้มีการอภิปรายเกี่ยวกับจำนวนการรับผู้อพยพย้ายถิ่นฐานของออสเตรเลีย เมื่อมีการยกเลิกการห้ามเดินทางเนื่องจากการระบาดของไวรัสโคโรนาแล้ว แต่เตือนว่าไม่ควรมองข้ามคุณประโยชน์ที่ผู้อพยพย้ายถิ่นสร้างแก่ออสเตรเลีย
นางคริสตินา คีนีลลี โฆษกด้านมหาดไทยของพรรคแรงงาน ได้แนะนำว่าจำนวนผู้ถือวีซ่าชั่วคราวที่เคยเพิ่มมากขึ้น ควรถูกลดจำนวนลง
ในบทความแสดงความเห็นที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ Sun-Herald เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (3 พ.ค.) นางคีนีลลี เรียกร้องให้ชาวออสเตรเลียได้มีโอกาสก่อนใครสำหรับตำแหน่งงานต่างๆ ทั้งหมด หลังพ้นช่วงระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโคโรนาไปแล้ว
“จากผลของโควิด-19 ในเร็วๆ นี้ ออสเตรเลียจะมีโอกาสทำในสิ่งที่เราไม่เคยทำมาก่อน คือเริ่มต้นโครงการรับผู้อพยพย้ายถิ่นของเราใหม่” นางคีนีลลี กล่าว
“เมื่อเราเริ่มต้นใหม่ เราจะต้องเข้าใจว่าการรับผู้อพยพย้ายถิ่นเป็นนโยบายทางเศรษฐกิจที่มีความสำคัญ ที่สามารถช่วยเหลือ หรือสามารถทำร้ายลูกจ้างชาวออสเตรเลียได้ ระหว่างการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและภายหลังจากนั้น”
รองศาสตราจารย์ อันนา บูเชอร์ จากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ เห็นด้วยว่า นี่เป็นโอกาสหนึ่งที่จะตรวจสอบโครงการรับผู้อพยพย้ายถิ่นของออสเตรเลีย เธอกล่าวว่า สำคัญที่จะต้องตระหนักว่าผู้อพยพย้ายถิ่นฐาน มีบทบาทสำคัญในการฟื้นตัว
“ฉันคิดว่า นี่เป็นช่วงเวลาที่เรากำลังจินตนาการถึงออสเตรเลียในรูปแบบใหม่” รศ.บูเชอร์ บอกกับ เอสบีเอส นิวส์
“ในด้านที่ผู้อพยพย้ายถิ่นอาจมีทักษะ ซึ่งพวกเขาพัฒนาขึ้นในต่างประเทศที่เราไม่มี หรือในงานด้านที่ชาวออสเตรเลียไม่ต้องการทำ พวกเขาจะมีความสำคัญอย่างยิ่ง เช่นเดียวกับที่เคยเป็นมาในช่วงของการบูรณะฟื้นฟู เช่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2” รศ.บูเชอร์ กล่าว
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
ออสเตรเลียจะปิดพรมแดนต่อไปนานเท่าไร?
เมื่อปีที่แล้ว นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ประกาศว่า เขาจะจำกัดจำนวนการรับผู้อพยพให้มาอยู่ถาวรในเหลือ 160,000 คนต่อปี โดยลดลงจาก 190,000 คน โดยเป็นความพยายาม “แก้ปัญหาความคับคั่ง” แต่ในขณะเดียวกัน การรับผู้อพยพที่ถือวีซ่าชั่วคราวกลับมีจำนวนสูงเป็นประวัติการณ์
ผู้อพยพย้ายถิ่นที่ถือวีซ่าชั่วคราว รวมทั้งนักเรียนต่างชาติ ลูกจ้างชั่วคราว และผู้ถือวีซ่าเวิร์กกิง ฮอลิเดย์ มีจำนวนมากกว่าผู้ที่ได้รับอนุญาตให้อาศัยอยู่ในออสเตรเลียเป็นการถาวร โดยมีจำนวนถึง 2.3 ล้านคน
จากข้อมูลของรัฐบาลสหพันธรัฐ ผู้ถือวีซ่าชั่วคราวราว 300,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเรียนต่างชาติ ได้เดินทางออกจากออสเตรเลียไปแล้วนับตั้งแต่การระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโคโรนาเริ่มขึ้น
ขณะที่คาดว่าการปิดพรมแดนระหว่างประเทศจะดำเนินต่อไปอีกอย่างน้อย 3-4 เดือนข้างหน้า รัฐบาลสหพันธรัฐคาดว่าจำนวนสุทธิของการรับผู้อพยพย้ายถิ่นจะดิ่งลงเหลือเพียง 36,000 คนในช่วงปี 2020-2021 ซึ่งต่ำสุดในรอบกว่า 40 ปี
รศ.บูเชอร์ กล่าวว่า ทักษะและความเชี่ยวชาญของผู้อพยพย้ายถิ่นที่นำมาสู่กำลังแรงงานนั้นสำคัญ ขณะที่ตระหนักว่า ในหลายๆ ส่วนของโครงการย้ายถิ่นฐานของออสเตรเลีย โดยเฉพาะการย้ายถิ่นฐานถาวร เช่น ลูกจ้างทักษะ การย้ายมาอยู่กับครอบครัว หรือการย้ายถิ่นฐานของชาวนิวซีแลนด์ อาจลดจำนวนลงได้ยาก
“ผู้อพยพย้ายถิ่นความจริงแล้วอาจมีความสำคัญกว่าเดิมในอนาคตหลังวิกฤตโควิด-19 ไปแล้ว พวกเขาได้กลายเป็นส่วนที่มีความสำคัญอยู่แล้ว และอาจมีความสำคัญยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ” รศ.บูเชอร์ ระบุ
ในบางส่วนของโครงการรับผู้อพยพย้ายถิ่นชั่วคราว เช่น จำนวนผู้ถือวีซ่าเวิร์กกิง ฮอลิเดย์ อาจสามารถตัดลงจำนวนลงได้อย่างไม่ยากนัก รศ.บูเชอร์ เสริม
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
ผู้ถือวีซ่าชั่วคราวในออสเตรเลียจะพึ่งใครได้ช่วงวิกฤตไวรัสโคโรนา
“ไม่มีตัวเลขมหัศจรรย์”
ศาสตราจารย์ วาร์เรน โฮแกน ที่เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรม และเป็นนักเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีซิดนีย์ กล่าวว่า ขณะนี้ เป็นเวลาดีที่จะอภิปรายกันเกี่ยวกับระดับจำนวนการรับผู้อพยพย้ายถิ่น
“ไม่ต้องสงสัยเลยว่าออสเตรเลีย มีการรับผู้อพยพย้ายถิ่นฐานเป็นจำนวนที่สูงที่สุดในโลก นี่เป็นโอกาสที่จะครุ่นคิดว่า นั่นเป็นกลยุทธ์ที่ถูกต้องที่จะก้าวต่อไปหรือไม่” ศ.โฮแกน กล่าว
“ผมไม่คิดว่า เราควรกำหนดจำนวนจำกัด เพราะความจริงแล้ว ไม่มีตัวเลขมหัศจรรย์ (ที่ถือว่าเหมาะสมกับทุกสถานการณ์)”
เขากล่าวว่า ขณะที่มีการโต้แย้งว่า ควรมีการเพิ่มจำนวนการรับผู้อพยพย้ายถิ่นให้สูงขึ้นในระยะสั้น เพื่อชดเชยกับการสูญเสียผู้อพยพย้ายถิ่นไประหว่างการระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโคโรนา แต่ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจะไม่สามารถรู้สึกได้รวดเร็วนัก
“ผมไม่คิดว่ามีเหตุผลพอที่จะเร่งการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังวิกฤตไวรัสโคโรนาผ่านการรับผู้อพยพ ผลประโยชน์จากการรับผู้อพยพย้ายถิ่นนั้นใช้เวลานานกว่าจะปรากฎให้เห็นเด่นชัด โดยอาจเป็นเวลาหลายปี หรือแม้แต่หลายสิบปี” ศ.โฮแกน กล่าว
รองศาสตราจารย์ อลัน แกมเลน ที่เชี่ยวชาญด้านภูมิศาสตร์มนุษย์ ของมหาวิทยาลัยโมนาช กล่าวว่า ระดับการรับผู้อพยพย้ายถิ่น อาจจำเป็นต้องทำให้มีความคงที่ที่ระดับเดียวกับช่วงก่อนวิกฤตไวรัสโคโรนา เพื่อให้ออสเตรเลียสามารถกลับสู่ระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจเช่นเดียวกับช่วงก่อนการระบาดของไวรัสโควิด-19
“มันแสดงให้เห็นอย่างแท้จริงว่า ลูกจ้างที่งานด้านที่มีความสำคัญจำนวนมากเป็นลูกจ้างผู้อพยพย้ายถิ่น หากเราต้องการให้เศรษฐกิจฟื้นตัวกลับมาใกล้เคียงกับที่เคยเป็นก่อนหน้านี้ ก็แน่นอนว่า การรับผู้อพยพย้ายถิ่นต้องเด้งกลับสู่ปกติด้วย” รองศาสตราจารย์ แกมเลน กล่าว
ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร ให้ตรวจสอบข้อจำกัดในรัฐของคุณเกี่ยวกับการรวมกลุ่มกัน
การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
ผู้ประสบความรุนแรงในครอบครัวไม่ถูกทอดทิ้งแม้ช่วงล็อกดาวน์