ทีจีเอไฟเขียวใช้วัคซีน 'โมเดอร์นา' เป็นบูสเตอร์ช็อตเข็ม 3

หน่วยงานอาหารและยาออสฯ อนุมัติใช้วัคซีน ‘โมเดอร์นา’ เป็นวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันตัวที่ 2 เคียงไฟเซอร์ ฉีดได้แม้เคยรับวัคซีนยี่ห้ออื่นมาก่อนในสองโดสแรก

Pharmacist Chloe Langfield holds a vial of the Moderna COVID-19 vaccine at Cooleman Court Pharmacy in Canberra, Thursday, September 23, 2021. (AAP Image/Mick Tsikas) NO ARCHIVING

A pharmacist holds a vial of the Moderna COVID-19 vaccine. Source: AAP

ประชาชนในออสเตรเลียจะสามารถเลือกฉีดวัคซีนบูสเตอร์ได้ 2 ชนิด หลังหน่วยงานกำกับดูแลด้านสุขภาพให้การรับรองชั่วคราวในการใช้วัคซีนโมเดอร์นาเป็นวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันโควิดแล้ว

คณะกรรมาธิการควบคุมดูแลผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพของออสเตรเลีย (ทีจีเอ) อนุมัติให้ประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป สามารถไปรับการฉีดวัคซีนโมเดอร์นาเป็นวัคซีนเข็มกระตุ้น (บูสเตอร์ช็อต) เป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือนหลังได้รับการฉีดวัคซีนโควิดครบทั้งสองโดสแล้ว

ทีจีเอระบุว่า วัคซีนโมเดอร์นาจะสามารถใช้เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นได้ ไม่ว่าจะเคยฉีดวัคซีนยี่ห้อใดก็ตามมาใน 2 โดสแรก
การประกาศอนุมัติวัคซีนดังกล่าว เกิดขึ้นหลังวัคซีนไฟเซอร์ได้รับการอนุมัติให้ใช้เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นในออสเตรเลีย โดยวัคซีนโมเดอร์นาได้รับการอนุมัติ หลังผ่านการประเมินด้านความปลอดภัยและข้อมูลด้านประสิทธิภาพแล้ว

มีประชาชนในออสเตรเลียที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นไปแล้วมากกว่า 500,000 คน นับตั้งแต่มีการประกาศให้มีการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นได้

อียูหนุนสูตร ‘ฉีดผสม’ วัคซีนกระตุ้นภูมิโควิด

เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขจากสหภาพยุโรปได้สนับสนุนแนวคิดในการฉีดวัคซีนบูสเตอร์แบบฉีดผสม โดยระบุว่า ในบางกรณีอาจช่วยสร้างการตอบสนองที่ดีกว่าการฉีดวัคซีนเพียงเข็มเดียว

โดยผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนั้นมาจากการใช้วัคซีนแบบไวรัส เวกเตอร์ (Viral Vector) ในเข็มแรก เช่น วัคซีนของแอสตราเซเนกา หรือวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จากนั้นตามด้วยวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) อย่างเช่น วัคซีนของไฟเซอร์ หรือวัคซีนโมเดอร์นา เป็นเข็มที่ 2 ในภายหลัง

สำนักงานยาแห่งยุโรป (EMA) และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งยุโรป (ECDC) ระบุในแถลงการณ์ร่วมว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในลักษณะ “ฉีดผสม” สามารถใช้ได้ทั้งการฉีดวัคซีนเป็นครั้งแรก และการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น รวมถึงมอบความยืดหยุ่นให้กับประเทศต่าง ๆ ระหว่างกำลังรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่ประเทศเหล่านั้นขาดแคลนสต็อกวัคซีนบางชนิด

มีหลายประเทศในสหภาพยุโรปที่เริ่มฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้กับประชาชน หลังได้รับวัคซีนสองโดสแรกแล้วเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 6 เดือน เนื่องจากภูมิคุ้มกันที่ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป

“หลักฐานจากการศึกษาวิจัยหลายชิ้นเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนหลากชนิดได้ชี้ให้เห็นว่า การฉีดวัคซีนชนิดไวรัล เวกเตอร์ (Viral vector) และวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) ได้สร้างแอนติบอดีในระดับที่ดี และการตอบสนองของทีเซลล์ (T-cell) ที่สูงขึ้น มากกว่าการใช้งานวัคซีนชนิดเดียวกัน”
A health care worker prepares a Pfizer vaccine in the pharmacy of the Heidelberg Repatriation Hospital vaccination hub in Melbourne
The Pfizer COVID-19 vaccine will be able to be administered to children aged five to 11 from 10 January next year. Source: AAP
จนถึงขณะนี้ สหภาพยุโรปได้อนุมัติให้มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นจำนวน 4 ชนิด ได้แก่ วัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอของไฟเซอร์ และโมเดอร์นา และวัคซีนชนิดไวรัล เว็กเตอร์ ของแอสตราเซเนกา และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน

ทั้งสองหน่วยงานในสหภาพยุโรประบุว่า การเข้ารับการรักษาพยาบาล และการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เกิดขึ้นน้อยที่สุดในประเทศสมาชิกที่มีอัตราการฉีดวัคซีนในระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนยี่ห้อใดก็ตาม และได้ขอให้ประเทศต่าง ๆ ยังคงรักษาระยะห่างทางสังคม และมาตรการด้านสุขอนามัยอื่น ๆ ในการลดอัตราการติดเชื้อลง


คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย

ครู พนักงานรถไฟ-รถเมล์ หยุดงานประท้วงใน NSW


Share
Published 8 December 2021 5:07pm
Updated 9 December 2021 8:41am
Presented by Tinrawat Banyat
Source: AAP, AFP, SBS


Share this with family and friends