ลูกจ้างแคชวล ที่ทำงานดูแลผู้สูงอายุ จะมีสิทธิลาป่วยเพราะการระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโคโรนา (pandemic leave) โดยยังคงได้รับค่าจ้าง หลังคณะกรรมาธิการ แฟร์ เวิร์ก (Fair Work คณะกรรมาธิการเพื่อการจ้างงานที่เป็นธรรม) มีคำตัดสินเรื่องนี้ เพื่อพยายามป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
การเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพุธ (29 ก.ค.) เป็นต้นไป และจะมีผลต่อไปเป็นเวลา 3 เดือน คณะกรรมาธิการระบุในคำตัดสินเรื่องนี้ที่เผยแพร่ออกมาในคืนวันจันทร์ (27 ก.ค.)
การเสียชีวิตในรัฐวิกตอเรียเมื่อเร็วๆ นี้ จากการระบาดระลอกสองของเชื้อโควิด-19 นั้น มีความเชื่อมโยงกับการปะทุขึ้นของเชื้อนี้ในสถานดูแลผู้สูงอายุหลายแห่ง ซึ่งส่งผลให้คณะกรรมาธิการ แฟร์ เวิร์ก เร่งดำเนินการในเรื่องนี้“มีความเสี่ยงอย่างแท้จริงที่ลูกจ้าง ซึ่งไม่มีสิทธิลาป่วย อาจไม่แจ้งถึงอาการของเชื้อโควิด-19 เพราะมันอาจส่งผลให้พวกเขาต้องกักตัว ดังนั้นจึงพยายามที่จะไปทำงานเพราะความจำเป็นทางการเงิน” คำตัดสินของแฟร์ เวิร์ก ระบุ
Medical staff are seen preparing to transport people from the St Basils Home for the Aged Care in Fawkner, Victoria. Source: AAP
“นี่ก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างสูงต่อมาตรการควบคุมการติดเชื้อ”
“ปัจจัยเหล่านี้มีน้ำหนักอย่างยิ่งที่ทำให้เราเห็นชอบจะให้มีสิทธิลาป่วยเพราะการระบาดใหญ่ของเชื้อโรค (pandemic leave) โดยได้รับค่าจ้าง”
ก่อนหน้านี้ มุขมนตรีแดเนียล แอนดรูส์ ของรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า ผู้คนที่ยังคงไปทำงานแม้จะป่วย รวมทั้งผู้ที่ทำงานในสถานดูแลผู้สูงอายุ “เป็นตัวการสำคัญที่สุด” ที่ทำให้เกิดการระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกสองในรัฐวิกตอเรีย
แต่สหภาพแรงงานต่างกล่าวว่า ผู้คนเหล่านั้นจำนวนมากไม่สามารถหยุดงานได้ เพราะความจำเป็นทางการเงิน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ รัฐบาลรัฐวิกตอเรีย มีมาตรการจ่ายเงิน 300 ดอลลาร์ให้แก่ลูกจ้างที่ไม่สามารถไปทำงานได้ เพราะต้องกักตัวหลังไปรับการตรวจเชื้อโควิด-19 และรอผลการตรวจอยู่
นอกจากนี้ ยังมีเงินตอบแทนความยากลำบากอีก 1,500 ดอลลาร์ สำหรับผู้ที่มีผลการตรวจเป็นบวก หรือถูกระบุว่าเป็นผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ ซึ่งทำให้ต้องกักโรค
คณะกรรมาธิการแฟร์ เวิร์ก กล่าวว่า สิทธิลาป่วยเพราะการระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโคโรนา (pandemic leave) โดยยังคงได้รับค่าจ้าง จะครอบคลุมถึง:
- ลูกจ้างที่ถูกบังคับจากนายจ้าง หรือจากองค์การด้านการแพทย์ของรัฐบาล หรือจากคำแนะนำของเจ้าหน้าที่การแพทย์ ให้ต้องกักตัว เพราะพวกเขามีอาการของเชื้อโควิด-19 หรือได้พบปะใกล้ชิดกับผู้ที่ต้องสงสัยว่าติดเชื้อ
- เป็นการลาป่วยโดยได้รับค่าจ้าง เป็นระยะเวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ สำหรับการกักตัวแต่ละครั้ง
- ไม่จ่ายให้แก่ลูกจ้างที่สามารถทำงานที่บ้านได้ หรือทำงานทางไกลได้ ระหว่างการกักตัว
ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตมหานครของเมลเบิร์นต้องปฏิบัติตามคำสั่ง “ให้อยู่บ้าน” และสามารถออกจากเคหสถานได้เฉพาะเมื่อออกไปทำงานหรือไปเรียน ไปออกกำลังกาย ไปทำหน้าที่ให้การดูแล และไปซื้ออาหารหรือสิ่งของจำเป็นเท่านั้น ยังมีคำแนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะด้วย
ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ
การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
VIVA: จะรับบริการด้านสุขภาพผ่านเทเลเฮลธ์ได้อย่างไร