ออสฯ ต้องการงบปีละ 4 หมื่นล้าน ขยายเมืองรับประชากรเพิ่ม

NEWS: หน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานออสฯ แนะรัฐลงทุนสาธารณูปโภค 4 หมื่นล้านต่อปี รับทิศทางประชากรขยายตัวในอนาคต

Traffic coming in and out of the central business district in Brisbane

Source: AAP

You can read the full version of this story in English on SBS News .

ออสเตรเลียจำเป็นต้องใช้งบประมาณราว $200,000 ล้านดอลลาร์ในทุกๆ 5 ปี เพื่อสนับสนุนโครงการสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อรองรับการขยายาตัวของประชากร 

หน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานออสเตรเลีย (Infrastructure Australia) ได้เตือนว่า ในการลงทุนระลอกใหม่นี้ มีความจำเป็นที่จะต้องทำให้แน่ใจว่า ถนน ระบบขนส่งสาธารณะ โรงเรียน ระบบประปา ระบบไฟฟ้า และบริการสาธารณสุข จะช่วยสนับสนุนคุณภาพชีวิตของประชาชน และผลิตผลทางเศรษฐกิจ 

หน่วยงานตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานของออสเตรเลีย (Australia Infrastructure Audit) ได้ยกตัวอย่างของผลกระทบจากระบบโครงสร้างพื้นฐานอันยำแย่ที่เห็นได้ชัด คือถนนหนทางที่จราจรติดขัด และระบบขนส่งสาธารณะที่หนาแน่นในเมืองใหญ่ๆ ทั่วออสเตรเลีย
Commuters are seen in Town Hall station during peak hour in Sydney, Tuesday, August 7, 2018. Australia's population is expected to hit 25 million on Tuesday evening. (AAP Image/Erik Anderson) NO ARCHIVING
The government cut the permanent migration cap in a bid to reduce congestion. Source: AAP
ความหนาแน่นติดขัดในโครงสร้างพื้นฐาน สร้างความเสียหายให้ระบบเศรษฐกิจเป็นมูลค่าราว $19,000 ล้านดอลลาร์ แต่ถ้าหากไม่นำงบประมาณมาปรับปรุงให้มากขึ้นกว่านี้ มูลค่าความเสียหายจะเพิ่มขึ้นถึงราว $40,000 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2031

อีกส่วนหนึ่งที่อาจไม่เป็นที่สังเกตนัก แต่กำลังเผชิญกับปัญหาเดียวกับระบบโครงสร้างอื่นๆ นั่นคือ โรงพยาบาลและโรงเรียน ที่กำลังถึงขีดจำกัดในการรองรับผู้เข้ารับบริการ และเริ่มทรุดโทรม สวนสาธารณะที่หนาแน่น พื้นที่สีเขียวในเมืองใหญ่ที่ลดลง ระบบประประที่เริ่มเสื่อมสภาพ รวมถึงปัญหาคุณภาพบริการอินเทอร์เน็ต บนโครงข่ายเอ็นบีเอ็น (NBN)

รายงานจากหน่วยงานดังกล่าวยังได้ระบุไว้ว่า การอพยพย้ายถิ่น เป็นกุญแจสำคัญที่ผลักดันให้อัตราเติบโตของประชากรในออสเตรเลียนั้นมากกว่าค่าเฉลี่ย

ในความพยายาม “คลายความแออัด” รัฐบาลได้ลดเพดานรับผู้อพยพย้ายถิ่นจาก 190,000 คน เหลือ 160,000 คน ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม ทิศทางด้านประชากร ในงบประมาณแผ่นดินเดือนเมษายน 2019 ได้ชี้ให้เห็นถึงการคาดการณ์ของรัฐบาลว่า ผู้อพยพย้ายถื่นจากต่างประเทศจะเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าการคาดการณ์ในครั้งก่อน เนื่องจากจำนวนผู้อพยพย้ายถิ่นชั่วคราวที่เพิ่มขึ้น

ผลกระทบต่อครัวเรือน

ปัญหาโครงสร้างพื้นฐานที่แออัด ส่งผลกระทบต่อครัวเรือนคิดเป็นมูลค่าประมาณ $314 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ 

ในขณะที่หลายคนคิดว่า ค่าไฟฟ้าเป็นส่วนหนึ่งของค่าครองชีพที่ต้องจ่ายมากที่สุด เพราะมีอัตราราคาที่เพิ่มสูงอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อันที่จริงแล้ว ค่าใช้จ่ายในการใช้รถยนต์นั้น คิดเป็นมูลค่าถึง $205 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์

โดยค่าโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตนั้น คิดเป็นมูลค่า $45 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ ค่าไฟฟ้า $41 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ และค่าน้ำ $23 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์
The Melbourne city skyline and shipping docks are seen from Yarraville, Melbourne, Sunday June 2, 2019. The Australian Bureau of Statistics will release the quarterly balance of payments on Tuesday, June 4, 2019.  (AAP Image/Ellen Smith) NO ARCHIVING
Infrastructure Australia says the historic level of construction activity should be the "new normal". Source: AAP
นอกจากการลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐานที่มีความจำเป็นแล้ว หน่วยงานระบบโครงสร้างพื้นฐานออสเตรเลียยังเตือนถึงเรื่องการบำรุงรักษาในภาคส่วนต่างๆ อีกนับไม่ถ้วน 

“โครงการระบบโครงสร้างพื้นฐาน (ที่จะมีขึ้น) จะต้องทำมากกว่าการเทงบประมาณลงไปในช่องว่าง มันจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในระยะยาวในทิศทางที่เราได้วางแผน ด้านการจัดสรรงบประมาณ และการส่งมอบระบบโครงสร้างพื้นฐาน นี่จะต้องเป้นมาตรฐานใหม่ หากเราต้องการที่จะตามให้ทันกับความท้าทายและโอกาสใหม่ๆ” นางรอมิลี แมดิว (Romily Madew) กล่าวกับผู้สื่อข่าว

ทั้งนี้ ปัญหาด้านการวางแผนในระบบโครงสร้างพื้นฐานนั้น เกิดขึ้นจากการคาดการณ์ทิศทางประชากรที่ยังคงเปรียบเทียบการเติบโตโดยวิเคราะห์จากปัจจัยเก่าในหลายส่วน ในขณะที่การเติบโตบนตัวชี้วัดอื่นๆ นั้นเกิดขึ้นเร็วมาก
Population Minister Alan Tudge
นายอลัน ทัดจ์ (Alan Tudge) กล่าวว่า รัฐบาลกำลังพูดคุยถึงประเด็นปัญหาของระบบโครงสร้างพื้นฐาน Source: AAP Image/Mick Tsikas
นายอลัน ทัดจ์ รัฐมนตรีด้านประชากรและโครงสร้างพื้นฐาน กล่าวว่า ความหนาแน่นในเขตเมืองหลวงเป็นปัญหาที่ไม่มีข้อกังขา

“นี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมรัฐบาลจึงลดอัตรารับผู้อพยพย้ายถิ่น และลงทุนอย่างมากในการแก้ปัญหาควาแออัดในเมือง และวางแผนไว้สำหรับทิศทางประชากรในอนาคตของออสเตรเลีย” นายทัดจ์กล่าว 

นอกจากนี้ นายทัดจ์ยังกล่าวอีกว่า โครงการดังกล่าวไม่ได้อยู่ในแผนระยะเวลา 10 ปีของรัฐบาล ที่จะอัดฉีดงบประมาณให้ระบบโครงสร้างพื้นฐานราว $100,000 ล้านดอลลาร์

แตะเบรกแผนขยายเมืองใหญ่

นางแมดิว กล่าวว่า การมีอำนาจเหนือพื้นที่ชานเมืองนั้นจบลงแล้ว 

เธออ้างอิงถึงประสบการณ์ในกรุงแคนเบอร์รา ซึ่งสมดุลระหว่างประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชานเมือง และพื้นที่ชั้นในอยู่ที่ 60 ต่อ 40 มาเป็นเวลายาวนานเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง 

นั่นหมายความว่า โครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ชานเมืองนั้น มีความจำเป็นที่จะต้องมีการลงทุนเพิ่มเติม โดยตัวอย่างของเรื่องนี้ คือ ความไม่ต่อเนื่องในการเข้าถึงระบบสาธารณะ โดยผู้อาศัยอยู่ในพื้นที่ชานเมืองร้อยละ 56 ไม่สามารถเดินไปใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะได้ เทียบกับตัวเมืองชั้นในซึ่งมีเพียงร้อยละ 4

นายปีเตอร์ โคลาชิโน (Peter Colacino) ผู้อำนวยการด้านนโยบายและการวิจัยของ Infrastructure Australia ได้มองลงไปถึงการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ โดยมองว่าเป็นผลตามมาจากคนรุ่นมิลเลเนียล ซึ่งจะอยู่ในตลาดแรงงานคิดเป็น 3 ใน 4 ภายในปี 2025

“คนรุ่นมิลเลเนียลมีความคาดหวังที่แตกต่าง ในแง่ของสมดุลการทำงานและการใช้ชีวิต ชั่วโมงงานที่ยืดหยุ่น การมีพาหนะเป็นของตัวเอง และโอกาสที่สามารถทำงานจากที่บ้านได้ มีการเปลี่ยนผ่านจากประชากรรุ่นเบบี้ บูมเมอร์ ไปสู่รุ่นมิลเลเนียล และรุ่นต่อๆ ไป ซึ่งวิธีการทำงานของคนรุ่นใหม่นี้ก็จะเปลี่ยนไป” นายโคลาชิโนกล่าว 

แต่ทั้งหมดทั้งมวล นายโคลาชิโนกล่าวว่า ระบบขนส่งสาธารณะในออสเตรเลียนั้นได้รับการปรับปรุงดีขึ้น มีคุณภาพ และมีราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย

แต่ความท้าทายก็คือ การระบบโครงสร้างพื้นฐานที่สมควรได้รับการลงทุนจะได้รับเงินทุนอย่างที่ควรจะเป็นหรือไม่

รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่

Share
Published 13 August 2019 12:06pm
Updated 13 August 2019 12:24pm
By AAP-SBS
Presented by Tinrawat Banyat
Source: AAP, SBS


Share this with family and friends