ชาวนิวซีแลนด์จำนวน 80 รายได้บินเข้ามายังรัฐวิคตอเรีย เวสเทิร์นออสเตรเลีย และแทสมาเนียหลังจากลงเครื่องที่นครซิดนีย์ ทั้งๆ ที่มีเพียงรัฐนิวเซาท์เวลส์และนอร์ทเทิร์น เทอร์ริทอรีเท่านั้นที่ตกลงเข้าร่วมโครงการ the trans-Tasman bubble
หลังจากที่นาย แดเนียล แอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิคตอรเรียได้เปิดเผยว่ามีนักเดินทางจำนวน 55 รายจะเดินทางเข้ามายังรัฐวิคตอเรียซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้เพียง 5 ราย ซึ่งการประกาศนี้ได้สร้างความสับสนต่อสาธารณะเป็นวงกว้าง และประเด็นนี้ทำให้รัฐบาลของรัฐและรัฐบาลสหพันธรัฐต่างกล่าวโทษระหว่างกันเกี่ยวกับเรื่องความรับผิดชอบต่อความหละหลวมที่เกิดขึ้น
ส่วนเจ้าหน้าที่ของรัฐเวสเทิร์น ออสเตรเลียได้ออกมาเปิดเผยในอีกไม่กี่ชั่วโมงถัดมาว่าพวกเขาก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันที่มีนักเดินทางชาวนิวซีแลนด์จำนวน 23 คนเดินทางเข้ามายังรัฐเวสเทิร์น ออสเตรเลีย แทนที่จะมีจำนวน 5 คนดังที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า แต่นักเดินทางทั้งหมดจะต้องทำการกักตัวเป็นระยะเวลา 14 วันตามกำหนด ซึ่งจะทำให้ใช้โควตาที่มีค่าของชาวออสเตรเลียต้องการที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศไปโดยปริยาย
ด้าน นาย มาร์ค แมคโกเวน มุขมนตรีรัฐเวสเทิร์น ออสเตรเลียกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า (18 ต.ค.)
“เราอยากได้การจัดการที่ดีกว่านี้แต่เรื่องนี้มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากการควบคุมของเรา”
อย่างไรก็ตามด้านรัฐบาลสหพันธรัฐที่รับผิดชอบเรื่องพรมแดนระหว่างประเทศโดยตรงนั้นได้กล่าวย้ำว่าโครงการนี้ดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็น ในการที่นักเดินทางที่เข้ามาจะเดินทางต่อไปทั่วประเทศก็ต้องปฏิบัติตามมาตรการการกักตัวของรัฐนั้นๆ เฉกเช่นเดียวกับพลเมืองออสเตรเลียทั่วไป
ด้าน นาย ไมเคิล แมคคอมิก รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวในขณะร่วมในรายการ ABC News เมื่อเช้าวันนี้ (19 ต.ค.) ว่ามุขมนตรีของรัฐและเขตการปกครองต่างๆ มีอำนาจรับผิดชอบเต็มที่กับพรมแดนของรัฐนั้นๆ
“ที่สำคัญที่สุดคือ นักเดินทางเหล่านี้เป็นชาวนิวซีแลนด์ที่มีสุขภาพแข็งแรง”
รัฐวิคตอเรียนั้นแตกต่างจากรัฐแทสมาเนียและรัฐเวสเทิร์น ออสเตรเลีย เพราะว่ารัฐวิคตอเรียนั้นไม่ได้ปิดพรมแดนซึ่งหมายถึงว่าผู้คนที่เดินทางเข้ามานั้นมีอิสระที่จะเดินทางมายังวิคตอเรียจากรัฐอื่นๆ ในออสเตรเลียโดยไม่ต้องมีการกักตัว
ส่วน นาย อลัน ทัดจ์ รักษาการณ์รัฐมนตรีกระทรวงตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า (18 ต.ค.) ศ.แบรต ซัตตัน ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพของรัฐวิคตอเรียก็อยู่ในที่ประชุมคณะกรรมการหลักในการป้องกันสุขภาพของชาวออสเตรเลีย ( Australian Health Protection Principal Committee : AHPPC ) ในวันจันทร์ที่ผ่านมา (12 ต.ค.) ในขณะที่มีการหารือถึงเรื่องความเป็นไปได้ที่นักเดินทางชาวนิวซีแลนด์จะสามารถเดินทางไปยังทั่วประเทศ
“รัฐบาลของรัฐวิคตอเรียก็อยู่ที่นั่นด้วยในขณะที่มีการอภิปราย พวกเขาก็รับรู้ว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นแต่พวกเขาก็ไม่ได้โต้แย้งอะไรในที่ประชุม”
ส่วน ศ. แบรด ซัตตัน ได้กล่าวโต้ในสิ่งที่ นาย ทัดจ์กล่าวว่า เขาเข้าร่วมประชุมในส่วนของการตอบคำถามแต่ไม่ได้อยู่ในช่วงอภิปรายเรื่อง trans-Tasman bubble
ส่วน นาย แดเนียล แอนดรูส์ กล่าวตอบโต้ต่อรัฐบาลสหพันธรัฐว่า
“ผมไม่สามารถแก้ไขอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นที่นั่นได้ ไม่ว่าใครก็แก้ไม่ได้ทั้งนั้น”
“แต่ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลกับเราที่จะกังวลกับเรื่องที่มีกลุ่มนักเดินทางจากต่างประเทศจะเดินทางมายังเมลเบิร์นเพราะว่าเรามองว่าเราไม่ได้ร่วมในโครงการนี้”
ทางด้านโฆษกกระทรวงสาธารณสุขรัฐวิคตอเรียเปิดเผยในการแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (18 ต.ค.) ว่าทางกระทรวงได้ติดต่อกับนักเดินทางทั้งหมด 55 รายเพื่อแจ้งเกี่ยวกับมาตรการโควิด 19 ซึ่งครอบคลุมทั่วทั้งรัฐวิคตอเรีย และทำให้นักเดินทาง 3 รายงดที่จะเดินทางเข้ามาในรัฐวิคตอเรียในขณะที่นักเดินทางอีก 4 รายได้เดินทางกลับไปยังรัฐนิวเซาท์เวลส์ในวันเดียวกัน
ส่วน นาย ริชาร์ด มาเลส รองผู้นำพรรคฝ่ายค้านของรัฐบาลสหพันธรัฐได้เปิดเผยได้รายการ ABC News ในเช้าวันนี้ (19 ต.ค.) ว่ากองกำลังป้องกันดินแดน (Australian Border Force : ABF) น่าจะรับผิดชอบในเรื่องของการแจ้งให้นักเดินทางทราบถึงการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับต่างๆ
“เมื่อเกิดปัญหา รัฐบาลสหพันธรัฐก็จะลอยตัวเหนือความรับผิดชอบ ซึ่งในเรื่องนี้เป็นเรื่องที่พวกเขาต้องรับผิดชอบและควรทำมัน”
ในขณะที่มีเที่ยวบินอีก 1 เที่ยวที่เดินทางมาจากนิวซีแลนด์ในวันนี้ (19 ต.ค.) นายมาเลสชี้ว่ารัฐบาลต้องออกมาอธิบายถึงเรื่องที่พวกเขาจะแน่ใจได้อย่างไรว่านักเดินทางเหล่านี้จะไม่เดินทางออกจากรัฐนิวเซาท์เวลส์
“มันเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่ออีกครั้งสำหรับรัฐบาลสหพันธรัฐที่จะหลบเลี่ยงความรับผิดชอบในการกระทำเช่นนี้”
โดยไม่ต้องมีการกักตัวเป็นระยะเวลา 14 วัน ส่วนในรัฐต่างๆ นั้นคาดว่าจะมีการลงนามร่วมในโครงการนี้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
แต่อย่างไรก็ตามชาวออสเตรเลียยังไม่ได้รับอนุญาติให้เดินทางไปยังนิวซีแลนด์ภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
VIC คลายล็อกดาวน์อีกขั้น เปิดร้านทำผม-เดินทางได้ไกลขึ้น