วอนรัฐจัดระเบียบบุหรี่ไฟฟ้าหวั่นวัยรุ่นแห่สูบ“ค็อกเทลสารเคมีมีพิษ”

มีการเรียกร้องจากหลายฝ่ายถึงความจำเป็นต้องมีการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดขึ้นเพื่อควบคุมการสูบบุหรี่ไฟฟ้า (Vaping) หลังจากมีวิจัยฉบับล่าสุดที่พบการสูบบุหรี่ไฟฟ้ามีความเสี่ยงต่อสุขภาพหลายประการ รวมทั้งการปนเปื้อนของสารพิษต่างๆ

A man vaping

Toxicological analyses have found more than 240 chemicals in non-nicotine e-cigarettes. Source: AAP / Nicholas T. Ansell

ประเด็นสำคัญ
  • จากการวิเคราะห์ทางพิษวิทยาพบว่าในบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่มีนิโคตินมีส่วนประกอบของสารเคมีมากกว่า 240 ชนิด รวมถึงมีสารพิษ 38 ชนิดด้วยกัน
  • ผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าอาจได้รับผลกระทบของของนิโคตินด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กจะมีความเสี่ยงเป็นพิเศษ
จากผลการวิจัยล่าสุดวิจัยล่าสุดพบว่า บุหรี่ไฟฟ้าประกอบไปด้วย "ค็อกเทลสารเคมี" ซึ่งบางชนิดก็เป็นสารเคมีที่มีพิษ และการรายงานที่พบนี้ทำให้หลายฝ่ายเรียกร้องให้รัฐบาลปราบปรามและควบคุมการสูบบุหรี่ไฟฟ้า

 จากการสำรวจพบว่ามีจำนวนเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 14 ปีมีการสูบบุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้นเรื่อยๆ และปัญหานี้กลายเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขที่ใหญ่ที่สุดเรื่องหนึ่งของออสเตรเลีย

 บุหรี่ไฟฟ้ามักถูกมองว่าเป็นทางเลือกที่ "ดีกว่า" แทนการสูบบุหรี่ แต่รายงานของมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลียระบุถึงความเสี่ยงมากมาย รวมถึงการได้รับสารพิษโดยไม่ได้รู้ตัว


จากการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ของออสเตรเลียมีการวิเคราะห์ทางพิษวิทยาของบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่มีนิโคตินพบว่ามีสารเคมีมากกว่า 240 ชนิดและมีสารเคมีที่อยู่ในรายการสารพิษอย่างน้อย 38 ชนิด และอีก 27 ชนิดเป็นสารเคมีที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ

และในรายงานนี้ยังระบุว่าผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าที่มีนิโคตินก็อาจได้รับผลกระทบของพิษจากนิโคตินเพิ่มเข้ามาอีกด้วย
จากการรายงานของสภามะเร็งแห่งรัฐวิกตอเรีย (Cancer Council Victoria) กล่าวว่าพิษของนิโคตินนั้นอาจทำให้ผู้ใช้เกิดอาการชักและมีภาวะการหายใจผิดปกติซึ่งอาจทำให้เสียชีวิต


การสูบบุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่ทางเลือกสำหรับผู้ที่เลิกสูบบุหรี่

ชาวออสเตรเลียสามารถซื้อบุหรี่ไฟฟ้าที่มีนิโคตินอย่างถูกกฎหมายได้หากมีใบสั่งยาเพื่อจุดประสงค์ในการเลิกบุหรี่

โฆษกสภามะเร็งชี้ว่าความหละหลวมในการบังคับการใช้กฎหมายต่อการขายบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายกำลังคุกคามความสำเร็จที่ได้มาอย่างยากลำบากในการควบคุมยาสูบของออสเตรเลีย

ส่วนด้านคุณอนิตา เดสเส ประธานสภามะเร็งกล่าวว่า

 “รัฐบาลแห่งรัฐและดินแดนต่างๆ ต้องปราบปรามผู้ค้าปลีกหลายร้อยรายที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าอย่างผิดกฎหมายนอกร้านขายยา”

 จากรายงานยังพบว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าส่วนใหญ่ไม่ใช่เพื่อจุดประสงค์เพื่อการเลิกบุหรี่ เนื่องจากผู้สูบบุหรี่ส่วนใหญ่ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้ายังคงสูบบุหรี่ควบคู่ไปด้วย และส่วนใหญ่คนหนุ่มสาวที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าก็สูบโดยไม่เกี่ยวกับการเลิกบุหรี่

รายงานสถิติการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในปี 2562 พบว่ามากกว่าหนึ่งในสามของผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าในออสเตรเลียมีอายุต่ำกว่า 25 ปี โดยร้อยละ11 เป็นประชากรอายุตั้งแต่ 14 ปีขึ้นไป

 จากข้อมูลดังกล่าวทำให้สมาคมการแพทย์แห่งออสเตรเลีย (AMA) เรียกร้องให้รัฐบาลควบคุมการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเด็ก ศาสตราจารย์ สตีฟ ร็อบสัน ประธาน AMA กล่าวว่า

 “รัฐบาลออสเตรเลียจำเป็นต้องดำเนินการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน”

 
"การเข้ามาดูแลเรื่องนี้จะช่วยให้เราเริ่มจัดการปัญหาการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าแก่เด็ก"

ความเห็นต่างของพรรคเนชันแนลส์ (Nationals)

นาย เดวิด ลิตเติลพราว หัวหน้าพรรคเนชันแนลส์ (Nationals) มีความเห็นต่างกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเรื่องการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้านิโคตินว่าผู้ค้าปลีกควรได้รับอนุญาตให้ขายบุหรี่ไฟฟ้าแบบมีนิโคติน เขาเปิดเผยกับ ABC TV เมื่อวันอังคารว่า

 “เราเผชิญกับการระบาดนี้ทุกหนแห่ง”

 "บุหรี่ไฟฟ้ามีอยู่ทุกหัวมุมถนน"

 เขาเชื่อว่าบุหรี่ไฟฟ้าจำเป็นต้องได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับบุหรี่ เพื่อลดการขายในตลาดมืดและจำกัดการเข้าถึงของเยาวชน เขาชี้ว่า

 “เราต้องรีบจัดการปัญหานี้อย่างรวดเร็ว เพราะเด็กๆ คือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของเหตุการณ์นี้”

 ประเทศต่างๆ อย่างน้อย 32 ประเทศที่ห้ามการขายบุหรี่ไฟฟ้านิโคติน และอีกประมาณ 79 ประเทศอนุญาตให้ขายโดยมีการควบคุมทั้งหมดหรือบางส่วน และอีก 84 ประเทศที่เหลือไม่มีการควบคุมการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าแต่อย่างใด

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 


บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 


 

Share
Published 22 March 2023 11:40am
Updated 22 March 2023 11:44am
Source: AAP


Share this with family and friends