กระแสการซื้อของออนไลน์สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และดีดตัวขึ้นอีกหลังการล็อกดาวน์ จากการระบาดของโควิด-19
การวิจัยล่าสุดพบว่า ประชากรออสเตรเลีย 1 ใน 5 ซื้อของออนไลน์ การวิจัยอีกตัวหนึ่งพบว่าการซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ตแบบออนไลน์เพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าในช่วงการระบาด
ด็อกเตอร์หลุยส์ กริมเมอร์ (Dr Louise Grimmer) นักวิจัยและอาจารย์สอนวิชาการตลาด ภาควิชาธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแทสเมเนีย (University of Tasmania) กล่าวว่า ก่อนวิกฤตโควิด ร้านค้ารายใหญ่มีการขายออนไลน์ที่ดีอยู่แล้ว วิกฤตโควิดบังคับให้ร้านค้าหลายร้านต้องมีหน้าร้านออนไลน์ หรือปรับปรุงแพลตฟอร์มและบริการทางดิจิทัล
“ก่อนการระบาด มีผู้บริโภคของออสเตรเลียซื้อของออนไลน์เพียง 40 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้เราผ่านวิกฤตการระบาดมาแล้ว และหลายคนยังคงซื้อแบบออนไลน์ ตัวเลขเพิ่มขึ้นมาก ขณะนี้ผู้บริโภคประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ซื้อของออนไลน์เป็นประจำ”
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
พบการรายงานอันตรายทางไซเบอร์ในออสเตรเลียทุก ๆ 8 นาที
ด็อกเตอร์กริมเมอร์อธิบายว่า ร้านค้าหลายร้านปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อเสนอบริการออนไลน์และการจัดส่งที่ดีขึ้น ทั้งสิทธิประโยชน์และสิ่งล่อใจอื่นๆ เพื่อรักษาธุรกิจไว้
เธอกล่าวว่า ถึงแม้ว่าเว็บไซต์ขายปลีกออนไลน์มักช่วยลูกค้าประหยัดเงินด้วยการโฆษณาส่งเสริมการขาย แจกคูปองรางวัล การันตีคืนเงิน และข้อเสนอพิเศษต่างๆ ผู้บริโภคควรตระหนักว่าร้านเหล่านี้เก็บข้อมูลส่วนบุคคลและติดตามข้อมูลพฤติกรรมการซื้อของออนไลน์ด้วย
“ทุกวันนี้ ร้านค้าส่วนมาก ร้านใหญ่ๆ หรือร้านเล็กๆ มีโปรแกรมรักษาความสัมพันธ์ (Loyalty program) โดยคุณให้ข้อมูลของคุณไป เช่น อีเมล และคุณอาจได้อะไรบางอย่างตอบแทน อาจเป็นส่วนลด อาจเป็นบัตรกำนัลเพื่อใช้ในภายหลัง แน่นอนว่ามีการติดตาม (Tracking) ว่าคุณทำอะไรบนเว็บไซต์ และคุณต้องให้ข้อมูลส่วนตัวบางอย่าง”
ภาพเงาแฮกเกอร์กำลังดึงข้อมูล Source: Getty / Getty Images
ข้อมูลเหล่านี้ดึงดูดอาชญากรทางไซเบอร์และแฮกเกอร์ (Hackers) ที่ต้องการใช้เพื่อประโยชน์ของตนเอง เนื่องจากข้อมูลส่วนตัวสามารถขายได้ในตลาดมืดเพื่อหากำไร
ความเสี่ยงอีกประการหนึ่งของการซื้อของออนไลน์คือร้านค้าปลอมที่ตั้งขึ้นโดยสแกมเมอร์ เพื่อขโมยเงินหรือตัวตน
รองประธานของคณะกรรมการการแข่งขันและผู้บริโภค เดเลีย ริกการ์ด (Delia Rickard) อธิบายว่า
“เดี๋ยวนี้สิ่งที่สแกมเมอร์ทำคือตั้งร้านปลอมขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทางอินเตอร์เน็ตหรือที่พบได้บ่อยคือทางโซเชียลมีเดีย พวกเขาโฆษณาสินค้าที่มักจะมีราคาถูกมาก หรือมีผลประโยชน์ที่น่าทึ่ง ซึ่งดีเกินจริง”
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
คนไทยลูกค้าออปตัสถูกแฮคข้อมูลใบขับขี่
คุณริกการ์ดกล่าวว่า หากเว็บไซต์ถามถึงการชำระเงินที่ผิดปกติ เช่น การโอนเงินผ่านธนาคาร จ่ายด้วยสกุลเงินดิจิทัล หรือบัตรกำนัล มีแนวโน้มว่าจะเป็นการฉ้อโกง
เธอเตือนอีกว่ามิจฉาชีพออนไลน์มักแอบอ้างเป็นหน่วยงานในออสเตรเลีย เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
บ่อยครั้ง พวกเขาจะแสร้งทำเป็นบริษัทในออสเตรเลีย มีเลขประจำตัวเอบีเอ็น (ABN number) ของออสเตรเลีย ที่พวกเขาขโมยมาคุณริกการ์ดเตือน
คุณริกการ์ดแนะนำให้นักช้อปออนไลน์ตรวจสอบเว็บไซต์ เพื่อศึกษากลโกงออนไลน์ รายงานการฉ้อโกงหรือขอความช่วยเหลือ
ข้อมูลออนไลน์ยังมีในหลายภาษา
“ในเว็บไซต์สแกมวอช เรามีสิ่งที่เรียกว่า สมุดบัญชีปกดำของการฉ้อโกง ที่ได้ถูกแปลไว้ในหลายภาษา”
แม่กุญแจบนแผงข้อมูล Credit: Getty Images
เธอเสริมว่า ความต้องการที่เพิ่มขึ้นทำให้การจัดส่งสินค้าล่าช้าลง ส่งผลให้เป็นการยากขึ้นที่ผู้บริโภคจะบอกได้ว่าถูกโกงหรือเป็นความล่าช้าจริงๆ “มันยากขึ้นเรื่อยๆ ที่จะรู้ว่าคุณถูกโกงจากการซื้อของลดราคาออนไลน์หรือไม่ เพราะปัญหาการจัดส่ง นี่ยังคงหมายถึงว่าเราเริ่มคุ้นเคยกับหลายๆ สิ่งที่ใช้เวลานานกว่าเดิมในการได้รับของ และนั่นเป็นปัญหา เพราะยิ่งคุณรู้ว่าคุณถูกหลอกเร็วเท่าไหร่ และรีบบอกธนาคารของคุณ คุณจะสามารถปกป้องตัวคุณเองได้ดีขึ้น”
อย่างไรก็ตาม คุณริกการ์ดกล่าวว่า การฉ้อโกงทางออนไลน์หลายอย่างถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ อายุ ที่อยู่ และข้อมูลทีเป็นที่ต้องการคือใบขับขี่และหมายเลขหนังสือเดินทาง
กลโกงเหล่านี้มักใช้เพื่อขโมยข้อมูลที่ระบุตัวตน
ตัวหนังสือสแกมบนแลปทอป Source: Getty / Getty Images
คุณยังสามารถติดต่อทาง idcare.org หน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลที่ช่วยต่อต้านการโจรกรรมข้อมูลระบุตัวตน
ด็อกเตอร์กริมเมอร์แนะนำให้นักช้อปออนไลน์ตรวจสอบเว็บไซต์ ก่อนที่จะชำระเงินหรือให้ข้อมูลส่วนตัว
“คุณสามารถดูได้จากเบราว์เซอร์ (Browser) ของคุณ ซึ่งมียูอาร์แอล (URL) ของร้าน ดูว่ามีรูปแม่กุญแจเล็กๆ หรือไม่ เพราะนั่นหมายความว่ามันเป็นเว็บที่ปลอดภัยที่คุณสามารถซื้อของได้ คุณยังสามารถค้นหาว่าเว็บนั้นเป็นเว็บที่มีชื่อเสียงหรือไม่ เป็นแหล่งที่ผู้คนซื้อของและมีประสบการณ์ที่ดีหรือไม่ และคุณสามารถดูได้จากการรีวิว (Review) และการให้คะแนน (Rating)”
ด็อกเตอร์กริมเมอร์แนะนำให้ผู้ที่ยังใหม่กับการซื้อของออนไลน์ปรึกษาครอบครัวหรือเพื่อนๆ เพื่อให้แน่ใจว่าแพลตฟอร์มร้านค้าที่เจอนั้นเชื่อถือได้
แม้ว่าจะไม่จำเป็นต้องติดต่อตำรวจ บางครั้งการทำสิ่งนั้นอาจช่วยได้ โดยเฉพาะหากสแกมเมอร์นั้นอยู่ในออสเตรเลีย
ณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ผู้คนในออสเตรเลียสูญเงินให้สแกมเมอร์มากเป็นประวัติการณ์