มีรถยนต์ 4 ล้านคันในออสเตรเลีย ที่ได้รับผลกระทบจากการเรียกคืนรถยนต์ ที่มีถุงลมนิรภัยทาคาตะ ที่อาจมีความบกพร่อง ติดตั้งอยู่ในรถ ซึ่งคิดเป็นอัตราส่วนรถยนต์จำนวน 2 ใน 7 คัน ในออสเตรเลีย
ความบกพร่องดังกล่าวสามารถทำให้ถุงลมนิรภัยระเบิด และมีสะเก็ดกระเด็นออกไปทำอันตรายแก่คนขับและผู้โดยสารได้
ความบกพร่องของถุงลมนิรภัยทาคาตะนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 23 รายทั่วโลก รวมทั้งรายหนึ่งในออสเตรเลีย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายร้อยคน
หลังจากรัฐบาลได้ประกาศเรียกคืนรถยนต์ตามความสมัครใจเมื่อปีที่แล้ว แต่ไม่ได้รับความร่วมมือดีเท่าที่ควร และเมื่อได้รับคำแนะนำถึงความรุนแรงของเรื่องนี้อย่างเป็นทางการจากองค์กรคุ้มครองผู้บริโภค ACCC รัฐบาลสหพันธรัฐจึงได้ออกคำสั่งเรียกคืนรถยนต์ แบบภาคบังคับในครั้งนี้
นายไมเคิล ซุกคา รัฐมนตรีช่วยด้านการคลัง บอกกับผู้สื่อข่าวว่า นี่เป็นมาตรการที่จำเป็น
“เราเชื่อว่ามาตรการที่เราใช้ในวันนี้ ได้ลดความเสี่ยงการเกิดความเสียหายในวงกว้าง การเรียกคืนถุงลมนิรภัยในรถยนต์ 2.3 ล้านคัน และให้เปลี่ยนถุงลมนิรภัยให้ใหม่ภายในระยะเวลาที่เรากำหนดนั้น แม้จะดูท้าทายไปสักหน่อย แต่เราคิดสามารถทำสำเร็จได้” นายซุกคา ระบุ
รถยนต์ที่เคยอยู่ในรายชื่อรถยนต์ที่ถูกเรียกคืนตามความสมัครใจเพื่อเปลี่ยนถุงลมนิรภัยใหม่ และมาคราวนี้ถูกเรียกคืนแบบภาคบังคับได้แก่ Toyota, Mazda, Honda, BMW, Chrysler, Lexus, Mitsubishi, Nissan, Subaru
ส่วนรถยนต์ที่ไม่เคยอยู่ในรายชื่อการเรียกคืนตามความสมัครใจ และคราวนี้จะรวมอยู่ในรายชื่อที่ต้องเรียกคืนมาเปลี่ยนถุงลมนิรภัยแบบภาคบังคับได้แก่ Ford, GM Holden, Mercedes Benz, Tesla, Jaguar, Land Rover, Volkswagen, Audi และ Skoda
รวมทั้งหมดแล้ว มีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ 25 บริษัท ที่ได้รับผลกระทบ
นายปีเตอร์ คอยรี จากสมาคมถนนและผู้ขับรถยนต์แห่งชาติ กล่าวว่า เจ้าของรถยนต์ควรติดต่อไปยังบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ด้วยตนเอง
“ขอให้จัดการเชิงรุกด้วยการโทรศัพท์ไปหาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของคุณเพื่อตรวจสอบดู นี่เป็นปัญหาด้านความปลอดภัยร้ายแรงอย่างหนึ่งสำหรับการเรียกคืนรถยนต์ ซึ่งเราอยากกระตุ้นให้ประชาชนอย่าเพิกเฉย และให้จองช่วงเวลาที่จะนำรถยนต์ของคุณไปยังบริษัทรถโดยด่วน” นายคอยรี แนะนำ
การประกาศเรียกคืนครั้งนี้นั้นจะทะยอยประกาศทีละระลอก โดยตัดสินจากระดับความเร่งด่วน
รถยนต์ที่เก่ากว่า 6 ปี มีความเสี่ยงสูงกว่า เช่นเดียวกับรถยนต์ของผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนและชื้น เช่นใน Northern Territory และในพื้นที่ทางเหนือสุดของรัฐควีนสแลนด์ ส่วนที่ตั้งถุงลมนิรภัยภายในรถเป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน
นายรอด ซิมส์ ประธานของ ACCC กล่าวว่า รถยนต์ที่มีถุงลมนิรภัยทาคาตะ รุ่นอัลฟา (Alpha) ติดตั้งอยู่นั้น มีความเสี่ยงอันตรายมากที่สุด
“พวกนั้นเป็นส่วนน้อย แต่สำคัญยิ่งที่จะต้องนำถุงลมนิรภัยเหล่านั้นออกไปเสีย และหากใครมีถุงลมนิรภัยอัลฟา ให้หยุดขับรถยนต์คันดังกล่าวทันที เพราะมีโอกาสถึง 1 ใน 2 ทีเดียว ที่ถุงลมนิรภัยที่มีความบกพร่องเหล่านั้นอาจระเบิดขึ้นมาได้” นายซิมส์ ประธาน ACCC ย้ำ
ถุงลมนิรภัยที่บกพร่องเหล่านั้นทั้งหมด จะต้องถูกเปลี่ยนใหม่ภายในเดือนธันวาคม ปี 2020 โดยที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์จะต้องเป็นผู้แบกรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดจากการเรียกคืนรถยนต์ครั้งนี้
หากรถยนต์ที่มีถุงลมนิรภัยที่บกพร่องติดตั้งอยู่ และไม่สามารถได้รับการเปลี่ยนถุงลมใหม่ให้ได้ ภายในเวลา 24 ชั่วโมงที่นำรถไปยังบริษัทผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่าย เจ้าของรถมีสิทธิได้รับรถเช่าให้ไปใช้ในระหว่างนั้น
ทั้งสหรัฐและประเทศเอเชียต่างออกมาตรการเช่นเดียวกันนี้ โดยมีการเรียกคืนรถยนต์กว่า 100 ล้านคัน ทั่วโลก
คุณสามารถตรวจสอบดูว่ารถยนต์ของคุณถูกเรียกคืนหรือไม่ ให้โทรศัพท์ไปสอบถามยังบริษัทผู้ผลิตและตัวจำหน่ายรถยนต์ของคุณ จะได้ข้อมูลที่แน่ชัดที่สุด แต่สำหรับข้อมูลเบื้องต้น สามารถไปค้นหาได้ที่เว็บไซต์ของ
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ
บริการใหม่ที่โอนเงินถึงผู้รับได้ทันที