เมื่อวานนี้ (13 ก.พ.) ที่ศาลอาญากรุงเทพมหานคร ได้มีการอ่านคำพิพากษาของศาลฏีกา กรณีความผิดฐานร่วมกันบุกรุกโดยกระทำความผิดร่วมกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ จากเหตุการณ์บุกรุกทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2551 โดยกลุ่มที่เรียกตนเองว่า “กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” หรือที่เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นกลุ่ม “เสื้อเหลือง” ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในระหว่างการชุมนุมเพื่อต่อต้านรัฐบาลของอดีตนายกรัฐมนตรีสมัคร สุนทรเวช
โดยศาลได้พิจารณาฎีกาของจำเลยทั้งหกกรณีบุกรุกทำเนียบรัฐบาลแล้วเห็นว่า ไม่ได้เป็นการชุมนุมโดยสงบตามที่จำเลยอ้าง เพราะพฤติการณ์ของจำเลยและผู้ชุมนุมได้ปีนรั้วเข้าทำเนียบฯ ที่ลงกลอนไว้ และอยู่ในอาคารอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนทำลายทรัพย์สินเสียหาย ดังนั้นที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยทั้งหกฐานร่วมกันบุกรุกทำให้เสียทรัพย์นั้นชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยทั้งหกฟังไม่ขึ้น ดังนั้นที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกจำเลยทั้งหกเป็นเวลา 8 เดือน ไม่รอลงอาญานั้นเหมาะสมแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย พิพากษายืน
โดยผู้ที่ถูกศาลพิพากษาจำคุกทั้งหกรายได้แก่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง อายุ 83 ปี, นายสนธิ ลิ้มทองกุล อายุ 70 ปี, นายพิภพ ธงไชย อายุ 72 ปี, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อายุ 68 ปี, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข อายุ 72 ปี และนายสุริยะใส กตะศิลา อายุ 45 ปี
โดยในปีเดียวกันนั้นกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ยังทำการชุมนุมที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสนามบินอื่นๆ ของประเทศไทยจนทำให้การดำเนินการของท่าอากาศยานไม่สามารถเป็นไปได้ตามปกติ ส่งผลให้ทั้งท่าอากาศยานและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องสูญเสียรายได้เป็นจำนวนมาก
กลุ่มดังกล่าวรวมตัวกันเมื่อประมาณปี 2548 เพื่อเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยในช่วงแรกได้ชุมนุมเพื่อต่อต้านอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตรเป็นเวลาหลายเดือนในหลายๆ บริเวณของกรุงเทพมหานคร จนเกิดการทำรัฐประหารตามมาเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549
ติดตามฟังรายการ เอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี เวลา 22.00 น.
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
เรียนรู้ที่จะโต้เถียงอีกครั้ง หลังถูกข่มเหงในความสัมพันธ์