สร้างชุมชนพื้นที่ห่างไกลให้เข้าใจผู้อพยพย้ายถิ่น

NEWS: สถาบันพื้นที่ส่วนภูมิภาคออสเตรเลีย เปิดตัวเครื่องมือช่วยเหลือผู้อพยพย้ายถิ่น หวังดึงแรงงานทักษะเข้าพื้นที่เพิ่ม ชุมชนร่วมประสานตั้งโครงการช่วยเรื่องที่พักอาศัย

รายการวิทยุ เอสบีเอส ไทย ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่

You can check out the full version of this story in English on SBS News website .

ที่เมืองรุปันยับ (Rupanyup) ห่างจากนครเมลเบิร์นไปทางตะวันตกเฉียงเหนือเป็นระยะทางราว 300 กิโลเมตร ด้วยจำนวนประชากรเพียง 500 คน กิจกรรมทางการเกษตรที่นี่นั้นอยู่เหนืออุตสาหกรรม ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้า 

แต่ เดวิด แมทธิวส์ ผู้อำนวยการธนาคารเบินดิโก และธนาคารแอดิเลด เป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของครอบครัวเกษตรกรในเมืองแห่งนี้ กล่าวว่า มันเป้นเรื่องที่ยากลำบากในการโน้มน้าวให้แรงงานทักษะเข้ามาทำงานในพื้นที่

“ยังมีตำแหน่งงานอีกมากในระบบอุตสาหกรรมการขนส่ง โลจิสติก และคมนาคม ดังนั้น (ที่นี่) คุณสามารถทำงานดังกล่าวได้ที่โรงงาน รวมถึงอุตกาหกรรมระบบขนส่งทางถนน” นายแมทธิวส์กล่าว

แต่เขาได้กล่าวอีกว่า ในตอนนี้มีความต้องการผู้ที่มีความเข้าใจในการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรที่สูงขึ้น

“ที่นี่ พวกเราไม่ขับรถเก็บเกี่ยวหรือรถแทรคเตอร์กันอีกต่อไปแล้ว เรานั่งดูที่หน้าจอ ทุกอย่างทำงานด้วยระบบ GPS โดยมีความแม่นยำที่ไม่ขาดไม่เกิน 2 เซนติเมตร ดังนั้น คุณก็จะต้องการช่างเทคนิคและผู้ปฏิบัติงาน ที่สามารถจัดการและบำรุงรักษาเครื่องมือเหล่านี้ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากลำบาก” นายแมทธิวส์กล่าว

ทั้งนี้ นายแมทธิวได้ประสบผลสำเร็จในการสนับสนุนลูกจ้างอพยพย้ายถิ่นกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่ง ซึ่งมาจากประเทศโคลอมเบียเป็นส่วนใหญ่ เพื่อเข้ามาทำงานในฟาร์มของเขา
David Matthews
David Matthews and migrant workers from Colombia. Source: Supplied
เขาบอกว่า ตอนนี้มีผู้อพยพย้ายถิ่นอาศัยอยู่ในเมืองแห่งนี้แล้ว 10 คน โดยจะมีผู้อพยพย้ายถิ่นคนอื่นๆ ที่มาจากแอฟริกาใต้ ซึ่งจะเข้ามาเติมเต็มตำแหน่งงานที่ยังว่างอยู่ แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอ

ชุดเครื่องมือ 7 ขั้น หนุนผู้อพยพย้ายถิ่นทำงานพื้นที่ส่วนภูมิภาค

สถาบันพื้นที่ส่วนภูมิภาคออสเตรเลีย (The Regional Australia Institute) กล่าวว่า ยังมีตำแหน่งงานมากกว่า 44,600 ตำแหน่งในพื้นที่ส่วนภูมิภาคของออสเตรเลีย ซึ่งยืนยันถึงความยากลำบากในการหาคนทำงานมาเติมเต็ม 

การขาดแคลนแรงงานอันยาวนานของพื้นที่ส่วนภูมิภาคได้ส่งผลกระทบไปยังบางพื้นที่ ส่งผลให้จำนวนประชากรลดลง และธุรกิจต้องปิดกิจการ 

โดยในเดือนนี้ ทางสถาบันฯ ได้เปิดตัวชุดเครื่องมือแบบใหม่ ที่จะช่วยเหลือชุมชนในพื้นที่ส่วนภูมิภาค ให้สามารถโน้มน้าวผู้อพยพย้ายถิ่นให้มาตั้งรกรากในพื้นที่ส่วนภูมิภาค และพื้นที่ห่างไกลในออสเตรเลียได้มากขึ้น

เครื่องมือดังกล่าวได้รวมถึงวิธีการต้อนรับและการเป็นเจ้าบ้านกับผู้อพยพย้ายถิ่นใหม่ เช่นเดียวกับการรักษาความมั่นคงทางอาชีพ และที่พักอาศัย รวมถึงการให้ความสำคัญในด้านวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมปฏิบัติ และสิ่งแวดล้อมด้วย
Seven-step toolkit
RAI's seven-step toolkit for migrants. Source: RAI


ทั้งนี้ นางอแมนดา บาร์วิก บรรณาธิการใหญ่ สถาบันพื้นที่ส่วนภูมิภาคออสเตรเลีย ระบุว่า ที่นี่เป็นเป็นสถาบันด้านนโยบายที่มุ่งไปที่ประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ส่วนภูมิภาคโดยเฉพาะ

“เมื่อผู้อพยพย้ายถิ่นและครอบครัวของพวกเขาย้ายเข้ามาในชุมชนพื้นที่ส่วนภูมิภาค พวกเขาจะต้องรู้สึกว่า ได้รับการต้อนรับเมื่อพวกเขามาถึง และนั่นคือเหตุผลที่ในชุดเครื่องมือดังกล่าว เราแนะนำว่า เมื่อชุมชนมุ่งที่จะทำสิ่งนี้ เราจึงตั้งคณะกรรมการเพื่อติดตามกระบวนการดังกล่าว” นางบาร์วิกกล่าวกับเอสบีเอส นิวส์ 

“หากครอบครัวผู้อพยพย้ายถิ่นไม่ได้ถูกรวมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน พวกเขาจะรู้สึกแปลกแยก และจะย้ายออกไป ดังนั้น หากคุณสามารถทำให้แน่ใจว่าชุมชนมีความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น คุณสามารถทำให้ผู้อพยพย้ายถิ่นรู้สึกได้ถึงการต้อนรับ พวกเขาจะพบว่า ต้องการที่จะอาศัยอยู่ต่อ”  นางบาร์วิกกล่าวเสริม

การเข้าไปอยู่อาศัยในพื้นที่ส่วนภูมิภาคของผู้อพยพย้ายถิ่น

จากสถิติของรัฐบาลแสดงให้เห็นว่า ระหว่างปี 2017-18 มีแรงงานทักษะอพยพย้ายถิ่นมากกว่า 110,000 คนที่เดินทางมาถึงออสเตรเลีย แต่มีเพียง 6,000 คนที่อยู่ในโครงการอพยพย้ายถิ่นในพื้นที่ส่วนภูมิภาคแบบมีสปอนเซอร์ (Regional Sponsored Migration Scheme) ซึ่งลดลงจากในช่วงปี 2016-17 ถึงร้อยละ 39

จากการศึกษาในปี 2018 โดยมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์กลาง (Central Queensland University) ซึ่งมุ่งไปที่ปัจจัยที่ทำให้ผู้อพยพย้ายถิ่นโบกย้ายระหว่างพื้นที่ส่วนภูมิภาค ได้แนะนำว่า บริการที่มีจำกัด ความแปลกแยกทางสังคม และการขาดโอกาสที่จะเชื่อมต่อกับผู้คนภูมิหลังเดียวกัน เป็นส่วนหนึ่งของปัญหานี้
rupanyup, victoria
เมืองรุปันยับ (Rupanyup) รัฐวิกตอเรีย (Source: Google) Source: Google
นายแมทธิวส์ เกษตรกรในเมืองรุปันยับ กล่าวว่า ไม่ใช่เพียงความแปลกแยกทางสังคมเพียงอย่างเดียวที่ทำให้ผู้อพยพยย้ายถิ่นไม่เข้ามาอาศัย โครงสร้างสาธารณูปโภคก็เช่นกัน

การขาดแคลนที่พักอาศัย ได้ทำให้ชุมชนในเมืองแห่งนี้ตั้งโครงการที่พักอาศัย Building Rupanyap ขึ้นมา 

“ในตอนแรก เราคิดว่าความสำคัญอันดับแรกคืองานมากกว่าเรื่องที่พักอาศัย แต่ในตอนนี้เราเชื่อแล้วว่า ที่พักอาศัยคือความสำคัญอันดับแรก เราคงจะมีอีก 4 ครอบครัวผู้อพยพย้ายถิ่นเข้ามาอาศัยแล้ว ถ้าเรามีบ้านที่เหมาะสมสำหรับพวกเขา จุดสนใจของเราในตอนนี้ คือการพัฒนาที่พักอาศัยที่ผู้คนสามารถเข้าถึงได้ง่าย เราต้องช่วยเหลือพวกเขา เพราะบ่อยครั้งพวกเขาโดยลำพังไม่สามารถมีบ้านได้” นายแมทธิวส์กล่าว

นอกจากนี้ นายแมทธิวยังกล่าวอีกว่า โครงการดังกล่าว เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ผู้อพยพอาศัยอยู่ในเมืองแห่งนี้

“เมื่อผู้อพยพย้ายถิ่นใหม่เดินทางมาถึง พวกเขาจะมีบ้านให้เช่า จากนั้น เราก็จะทำให้บ้านเหล่านั้นสามารถซื้อได้ เราคิดว่านี่จะเป็นสิ่งที่เชื่อมพวกเขาให้เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนของเรา” นายแมทธิวส์กล่าว

คำแนะนำจากที่ปรึกษาเพื่อให้การตั้งถิ่นฐานผู้อพยพย้ายถิ่นได้ผล

เอมมานูเอล มูโซนี เดินทางมาถึงออสเตรเลียในฐานะผู้ลี้ภัยจากประเทศรวันดา และได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับสถาบันฯ และมูลนิธิสแกนลอน (Scanlon Foundation) เพื่อช่วยพัฒนาชุดเครื่องมือช่วยเหลือผู้อพยพย้ายถิ่น เขาได้ให้คำปรึกษากับผู้อพยพย้ายถิ่น และผู้ลี้ภัยหลายคนในเมืองใหญ่ เพื่อมองหาว่าอะไรเป็นอุปสรรคในการอพยพย้ายถิ่นไปยังพื้นที่ส่วนภูมิภาค
Emmanuel Musoni
Emmanuel Musoni wants more migrants and refugees to settle in regional towns. Source: Supplied
นอกจากนี้ นายมูโซนี ยังได้ทำงานร่วมกับชุมชนในพื้นที่ส่วนภูมิภาคหลายแห่ง เพื่อช่วยให้พวกเขาได้เข้าใจถึงการทำให้เมืองของพวกเขาสามารถดึงดูดผู้อพยพย้ายถิ่นและผู้เลี้ภัยมากขึ้น

“ถ้าคุณเป็นบุคคลทั่วไป คุณสามารถทำงานเป็นผู้นำและสนับสนุนชุมชน ถ้าหากคุณมาจากภูมิหลังทางธุรกิจ มันมีหลายกิจการที่สามารถดึงดูดผู้อพยพย้ายถิ่นให้เดินทางมาตั้งถิ่นฐาน และพวกเขาก็ก่อตัวกันเป็นชุมชนขนาดใหญ่” นายมูโซนีกล่าว

“สำหรับทุกๆ คนในออสเตรเลีย มันไม่มีข้ออ้างใดๆ ทุกคนสามารถช่วยเหลือและสนับสนุนชุมชนของตนเองในการต้อนรับผู้อพยพย้ายถิ่นได้” นายมูโซนีกล่าวเสริม

นางแทมมี วูล์ฟส์ ประธานกรรมการบริหาร Settlement Council Australia กล่าวว่า หากรัฐบาลและชุมชนในพื้นที่ส่วนภูมิภาคต้องการที่จะผลักดันให้ผู้คนอาศัยอยู่ในเมืองของตนเองนั้น พวกเขาจะต้องทำอะไรให้มากขึ้น เพื่อให้เรื่องนั้นเป็นจริงได้ 

“มันมีผลลัพธ์ที่คละเคล้ากันไปในเรื่องการตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ส่วนภูมิภาค แต่ในที่ซึ่งมีผู้เข้ามาอาศัยนั้น จะต้องมีสิ่งเหล่านั้น คุณต้องมีชุมชนที่พร้อมให้การต้อนรับ คุณต้องมีตำแหน่งงาน คุณต้องมีโครงสร้างบริการและสาธารณูปโภคที่สามารถสนับสนุนผู้อพยพย้ายถิ่นได้” นางวูล์ฟส์กล่าว

“ในขณะเดียวกัน เราก็ทราบดีว่า ผู้อพยพคนอื่นๆ ที่ได้รับการสนับสนุนให้มาตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ส่วนภูมิภาคและพื้นที่ห่างไกลเดินทางกลับไปอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ เมื่อพวกเขาไม่สามารถหางาน หรือเข้าถึงสวัสดิการสังคมสำหรับครอบครัว รวมถึงไม่ได้รับการสนับสนุนชุมชน”

Share
Published 18 July 2019 2:09pm
Updated 18 July 2019 2:26pm
By Peggy Giakoumelos
Presented by Tinrawat Banyat
Source: SBS News


Share this with family and friends