รายงานโดย Economist Intelligence Unit (EIU) เมื่อวานนี้ (4 ก.ย.) ได้จัดอันดับให้กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 2 ขณะที่นครเมลเบิร์นของออสเตรเลียอยู่ที่อันดับ 2 และนครซิดนีย์อยู่ที่ลำดับ 3
ทั้งนี้ นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเคยได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลกติดต่อกัน 7 ปีซ้อนจนกระทั่งปี 2018 มีเมืองที่น่าอยู่ในลำดับรองลงมาอย่างนครโตเกียว นครโอซากา และเมืองคาลการี ประเทศแคนาดา
ในออสเตรเลีย นครแอดิเลดได้รับการจัดให้อยู่ในอันดับ 10 นครเพิร์ธอยู่อันดับที่ 14 และนครบริสเบนในอันดับที่ 18โดยเกณฑ์การให้คะแนนของ EIU นั้น จะพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ในแต่ละปี เช่น การเมือง เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ การคมนาคมขนส่ง อัตราเหตุอาชญากรรม และการเข้าถึงบริการด้านการศึกษาและสุขภาพ
Melbourne's Flinders Street Station Source: AAP
โดยกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียนั้น ในปีนี้ได้รับคะแนนประเมินจาก EIU 99.1 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน
“ยุโรปตะวันตกและอเมริกาเหนือยังคงเป็นภูมิภาคที่น่าอยู่ที่สุดในโลก” EIU ระบุ
นอกจากนี้ EIU ยังได้ใช้เกณฑ์การประเมินด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ในการจัดลำดับเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลกเป็นครั้งแรกในปีนี้ โดยกรุงนิวเดลีของอินเดีย และกรุงไคโรของอิยิปต์ ได้ตกอันดับลงมาอยู่ที่ 118 และ 125 ตามลำดับ เนื่องจากคุณภาพอากาศที่ย่ำแย่ อุณหภูมิเฉลี่ยที่ไม่เหมาะสม และการขาดแคลนน้ำ
ขณะที่ในนครซิดนีย์ ซึ่งขยับอันดับขึ้นมาจากอันดับ 5 เมื่อปีก่อน เป็นอันดับ 3 ในปีนี้ มาจากปัจจัยความรับผิดชอบในเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
“ซิดนีย์ได้ขยับอันดับขึ้นมาแล้ว ต้องขอบคุณการปรับปรุงที่ดีขึ้นในด้านวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม สิ่งเหล่านั้นได้สะท้อนถึงความตั้งใจในการต่อสู้และรับมือกับผลกระทบจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งได้มีการระบุไว้ในยุทธศาสตร์เมือง ‘Sustainable Sydney 2030’” EIU ระบุ
ขณะที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้หล่นลงมาอยู่ในอันดับที่ 25 เนื่องจากการประท้วงของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลที่เรียกตนเองว่า “คนเสื้อเหลือง”
ส่วนที่ฮ่องกงนั้นหล่นลงมาถึง 3 อันดับ มาอยู่ที่อันดับ 38 และมีความเป็นไปได้ว่าจะตกลงมาต่ำกว่านี้ จากสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่คลี่คลายกรุงลอนดอนของสหราชอาณาจักร และนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ ได้รับการจัดอันดับที่ 48 และ 58 ตามลำดับ ซี่งทั้งสองเมืองเผชิญปัญหาด้านความเสี่ยงในการเกิดเหตุความไม่สงบและอาชญากรรม
Source: The New York Times
สำหรับเมืองที่น่าอยู่น้อยที่สุดในโลก คือ กรุงการาจี ประเทศปากีสถาน กรุงตริโปลี ประเทศลิเบีย กรุงดาการ์ ประเทศเซเนกัล เมืองลากอส ประเทศโปรตุเกส และอันดับท้ายสุด ที่กรุงดามัสกัส เมืองหลวงประเทศซีเรีย ซึ่งถูกทำลายจากสงครามกลางเมือง โดยอยู่ในอันดับท้ายสุดต่อเนื่องมาเป็นเวลา 7 ปี
รายการวิทยุ เอสบีเอส ไทย ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
พอดคาสต์ ซีรีส์: มองหลากอาชีพในออสเตรเลีย 1