ท่านสามารถกดเพื่อรับฟังพอดคาสท์ของเอสบีเอสภาคภาษาไทย เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างละเอียดได้ ที่นี่
ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม ค่าผลประโยชน์การดูแลบุตร (Child Care Benefit) และ ค่าเบิกคืนการดูแลบุตร (Child Care Rebate) จะถูกยกเลิกและแทนที่โดย
รัฐมนตรีการศึกษาและอบรม นายไซมอน เบอร์มิงแฮม กล่าวกับเอสบีเอสว่า ระบบใหม่นี้ จะเรียบง่ายขึ้น สำหรับบิดามารดา:
"เราเข้าใจว่าระบบการดูแลบุตรนั้นอาจยุ่งยากสำหรับผู้คนที่เข้าใช้ โดยเฉพาะหากผู้คนมาจากพื้นเพทางภาษาที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เราดำเนินการเปลี่ยนระบบให้เรียบง่ายขึ้น โดยให้กลายเป็นเงินชดเชยการเลี้ยงดูบุตรเพียงก้อนเดียว"
Getty Images Source: Getty Images
ระบบใหม่จะเป็นอย่างไร?
ค่าชดเชยการดูแลบุตร จะชำระโดยตรงให้กับบริการดูแลบุตรต่างๆ
จำนวนที่แต่ละครอบครัวจะได้รับต่อบุตรแต่ละคนนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยสามประการ: และ
เพื่อให้ได้ค่าชดเชยมากที่สุด ทั้งบิดาและมารดาจำเป็นจะต้องทำงานเป็นเวลาหลายวันในแต่ละสัปดาห์ หรือ เช่น ศึกษาเล่าเรียน เป็นอาสาสมัคร สมัครงาน หรือกำลังลาพักงานเพื่อเลี้ยงดูบุตร
"มันเกี่ยวกับว่าโดยรวมแล้ว เราพุ่งเป้าค่าชดเชยการดูแลบุตรให้แก่ผู้คนซึ่งจำเป็นต้องได้จริงๆ เพื่อให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมประเภทต่างๆ ซึ่งเราต้องการให้ผู้คนนั้นทำ หากจะมีส่วนร่วมในสังคม" วุฒิสมาชิกเบอร์มิงแฮมกล่าว
สำหรับท่านจะเป็นอย่างไร?
คาดว่า บิดามารดาเกือบทุกคนจะได้รับประโยชน์มากขึ้นเมื่อระบบค่าชดเชยการเลี้ยงดูบุตรใหม่ถูกนำมาใช้
ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป จะไม่มีเพดาน (cap) สำหรับจำนวนเงินค่าชดเชยการเลี้ยงดูบุตรสำหรับครอบครัวที่มีรายได้ต่ำกว่า $185,710 ต่อปี ซึ่งในปัจจุบันนี้ หลายๆ ครอบครัวถูกจำกัดเพดาน ค่าเบิกคืนการดูแลบุตร (Child Care Rebate) อยู่ที่ $7500 ดอลลาร์ต่อบุตรหนึ่งคน
วุฒิสมาชิกเบอร์มิงแฮมกล่าวว่า รัฐบาลต้องการที่จะให้แน่ใจว่า การที่จะสามารถจะจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตรได้นั้น ไม่ควรจะกีดขวางการที่บิดามารดานั้นไปทำงาน
ผู้บริหารสูงสุดของ คุณซาแมนธา เพจ กล่าวว่า ครอบครัวซึ่งทั้งบิดาและมารดามีการงานที่มั่นคง จะได้รับผลประโยชน์มากที่สุดจากระบบการดูแลเด็กใหม่นี้ แต่ครอบครัวซึ่งบิดาหรือมารดาคนใดคนหนึ่งนั้นไม่ได้ทำงานเต็มเวลา (full-time) ก็จะพบว่าเงินที่พวกเขาได้รับสำหรับค่าดูแลบุตรนั้นลดน้อยลง
"หากว่าบิดามารดาคนใดคนหนึ่งหรือทั้งสองคน ทำงานแคสชวล (casual) หรือรับจ้างตามสัญญา (contract work) หรือเมื่อสภาวะทางเศรษฐกิจขึ้นๆ ลงๆ ทำให้พวกเขาต้องทำงานเป็นเวลาสองสัปดาห์ แล้วอีกสองสัปดาห์ว่างงาน บิดามารดาเหล่านี้อาจได้รับผลกระทบแง่ลบจากเกณฑ์พิจารณากิจกรรม มันเป็นสิ่งสำคัญที่พวกเขาควรเข้าใจว่ามันจะมีผลกระทบอย่างไรต่อพวกเขา" คุณซาแมนธา เพจ กล่าว
เพื่อให้เข้าใจว่าความเปลี่ยนแปลงต่างๆ จะมีความหมายอย่างไรต่อครอบครัวของท่าน กระทรวงศึกษาได้จัดสร้าง (กดลิงค์เพื่อตามไปใช้)
จะเตรียมตัวอย่างไร?
จะช่วยให้ท่านทราบว่าท่านอาจสูญเสียผลประโยชน์หรือไม่ หากไม่ร่วมกิจกรรมในสังคมเป็นจำนวนชั่วโมงมากเพียงพอ ท่านยังสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
"สิ่งที่สามารถทำได้ก็อาจจะเช่น ลงทะเบียนเพื่อศึกษาอะไรสักอย่าง หรือสมัครเป็นอาสาสมัคร หรือขอให้ประเมินรายได้โดยใช้รายได้เฉลี่ย โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานแคสชวล พวกเขาสามารถขอให้รายได้นั้นคิดเฉลี่ยจากช่วงเวลาสามเดือน เพื่อที่พวกเขาจะยังคงได้รับเงินชดเชยต่อไป เพื่อที่บุตรของพวกเขาจะได้ไปเข้าเรียนในช่วงวัยเยาว์ต่อไป" คุณเพจ อธิบาย"
วุฒิสมาชิกเบอร์มิงแฮมกล่าวว่า ครอบครัวที่ปัจจุบันพาลูกไปฝากดูแลในระบบดูแลบุตร (child care system) จะได้รับข้อมูลเพิ่มเติมในช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้านี้
ท่านยังสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมออนไลน์ได้ มีแผ่นพับเจ็ดภาษา (อารบิก ดารี อังกฤษ เกาหลี ภาษาจีนแบบง่าย ภาษาจีน และเวียดนาม) แจกจ่ายตามองค์กรต่างๆ ในชุมชน ศูนย์ข้อมูลสำหรับผู้อพยพย้ายถิ่นฐาน และที่สถานให้บริการเลี้ยงดูบุตร จะมีแผ่นพับเหล่านี้ทางออนไลน์ในเร็วๆ นี้ด้วย
ประเมินเงินชดเชยค่าเลี้ยงดูบุตรของท่าน ด้วยเครื่องมือออนไลน์
ท่านสามารถกดเพื่อรับฟังพอดคาสท์ของเอสบีเอสภาคภาษาไทย เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างละเอียดได้ ที่นี่
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ
Settlement Guide: ข้อควรรู้เกี่ยวกับค่าชดเชยการดูแลบุตรระบบใหม่