วิกตอเรียได้เปิดเผยแผนแม่บทในการเปิดเมืองอีกครั้ง โดยจะมีการผ่อนคลายข้อจำกัดอย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้านี้ขณะอัตราการฉีดวัคซีนของรัฐเพิ่มสูงขึ้น
ขณะเปิดเผยแผนแม่บทดังกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นายแดเนียล แอนดรูส์ มุขมนตรีของวิกตอเรีย กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมจะทบทวนแผนการเปิดเมืองอีกครั้งเมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อเปลี่ยนไป
“ผมต้องการชี้แจงให้ชัดเจนแก่ชาวรัฐวิกตอเรียทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ทำงานในระบบสุขภาพของเราว่า ในขณะที่เราดำเนินการตามแผนแม่บทนี้ เราจะตรวจสอบทุก ๆ ชั่วโมงของทุกวันว่า มีผู้ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลกี่คน และมีความกดดันต่อระบบบริการด้านสุขภาพของเรามากน้อยเพียงใด” นายแอนดรูส์ กล่าว
“แน่นอนว่ามันจะทำโดยแบ่งเป็นระยะๆ ให้สับหลีกัน ซึ่งเป็นแนวทางที่ได้ไตร่ตรองรอบคอบแล้ว แต่เรากำลังจะเปิดเมือง อย่างไม่ต้องสงสัย และจะไม่มีการหวนกลับ” นายแดเนียล แอนดรูส์ กล่าว
“เราต้องทำให้มันเป็นสิ่งปกติ เราต้องผ่านพ้นสถานการณ์ไปให้ได้ และไปให้ถึงช่วงหลังของการระบาดใหญ่ครั้งนี้”
เมื่อผู้คนร้อยละ 80 ได้รับการฉีดวัคซีนโดสแรก
วิกตอเรียคาดว่าจะมีผู้ที่อาศัยอยู่ในรัฐที่มีสิทธิ์ร้อยละ 80 ได้รับการฉีดวัคซีนโดสแรกภายในวันที่ 26 กันยายน
เมื่อถึงบรรลุเป้าหมายนี้แล้ว กิจกรรมนันทนาการกลางแจ้งสามารถกลับมาทำได้ โดยจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วม และการฝึกออกกำลังกายกลางแจ้งจะสามารถกลับมาทำได้อีกครั้ง โดยมีผู้เข้าร่วมไม่เกิน 5 คน
ระยะทางที่ผู้คนสามารถเดินทางจากบ้านได้จะเพิ่มขึ้นจาก 10 กิโลเมตรเป็น 15 กิโลเมตร
ในพื้นที่ส่วนภูมิภาคของรัฐวิกตอเรีย ผู้ที่มารับบริการตัดผม ทำผม และบริการด้านความงาม จะไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยอีกต่อไป
จากนั้นตั้งแต่ราววันที่ 5 ตุลาคม นักเรียนมัธยมชั้นปีสุดท้ายจะสามารถกลับไปเรียนที่โรงเรียนได้
ราวสองสัปดาห์ต่อมา ในวันที่ 18 ตุลาคม นักเรียนชั้นเตรียมประถมศึกษา (prep students) จะสามารถไปโรงเรียนได้ 3 วันต่อสัปดาห์ ในขณะที่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และ 2 สามารถไปโรงเรียนได้ 2 วันต่อสัปดาห์
เมื่อผู้คนร้อยละ 70 ได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้ว
คาดว่ารัฐจะบรรลุเป้าหมายนี้ประมาณในวันที่ 26 ตุลาคม
ในพื้นที่เขตมหานครของเมลเบิร์นและปริมณฑล การล็อกดาวน์จะสิ้นสุดลง และมีกิจกรรมกลางแจ้งมากขึ้นที่ได้จะรับอนุญาตให้ทำได้
ผู้คนที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้ว ไม่เกินกลุ่มละ 10 คน จะได้รับอนุญาตให้รวมกลุ่มกันกลางแจ้งได้ และกิจกรรมการออกกำลังกายต่างๆ และการฝึกซ้อมด้านกีฬาในชุมชนจะกลับมาทำได้อีกครั้ง
ผับ คลับ และสถานบันเทิงสามารถเปิดให้บริการแก่ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้วไม่เกิน 50 คนในพื้นที่กลางแจ้งภายนอกอาคาร และงานแต่งงานและงานศพที่จัดกลางแจ้งภายนอกอาคารจะสามารถมีผู้เข้าร่วมได้ไม่เกิน 50 คน
นักเรียนทั้งหมดทั่วทุกพื้นที่ของเมืองจะได้รับอนุญาตให้กลับไปเรียนที่โรงเรียนได้อย่างน้อยช่วงหนึ่งของแต่ละสัปดาห์
ช่างทำผมและผู้ให้บริการด้านความงาม จะสามารถกลับมาให้บริการแก่ลูกค้าภายในอาคารได้อีกครั้ง โดยสามารถให้บริการแก่ลูกค้าที่ฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้ว ไม่เกิน 5 คนในแต่ละครั้ง
ในภูมิภาคของรัฐวิกตอเรียจะมีการผ่อนคลายข้อจำกัดได้มากกว่านี้อีก เมื่อบรรลุเป้าหมายมีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้วร้อยละ 70
กิจกรรมนันทนาการในร่มและกีฬาจะกลับมาทำได้ โดยจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วม ขณะที่ผับ คลับ และสถานบันเทิงสามารถให้บริการแก่ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบสองโดสแล้วไม่เกิน 30 คนภายในอาคาร
การรวมตัวกันเพื่อกิจกรรมทางศาสนา งานศพ และงานแต่งงาน จะสามารถมีผู้ที่ได้รับวัคซีนครบสองโดสแล้วเข้าร่วมได้ไม่เกิน 30 คนภายในอาคาร และไม่เกิน 100 คนกลางแจ้งหรือภายนอกอาคาร
เมื่อผู้คนร้อยละ 80 ได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้ว
เมื่อร้อยละ 80 ของผู้อยู่อาศัยในรัฐได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้ว ข้อจำกัดสำหรับส่วนภูมิภาคของรัฐวิกตอเรียและนครเมลเบิร์นจะอยู่ในระดับเดียวกัน
ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบสองโดสแล้วไม่เกิน 10 คนจะสามารถไปเยี่ยมผู้อื่นที่บ้านได้ และจะรวมกลุ่มกันในที่สาธารณะได้ไม่เกินกลุ่มละ 30 คน
ผับ ร้านอาหาร และร้านกาแฟจะสามารถกลับมาเปิดให้บริการแบบนั่งที่โต๊ะเท่านั้น (ห้ามยืนดื่มหรือยืนรับประทาน) สำหรับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้วไม่เกิน 150 คนภายในอาคาร และไม่เกิน 500 คนภายนอกอาคาร
กีฬาชุมชนในร่มจะกลับมาทำได้อีกครั้ง เช่นเดียวกับช่างทำผมและผู้ให้บริการด้านความงามจะสามารถให้บริการแก่ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบสองโดสแล้วได้
ร้านค้าปลีกจะกลับมาเปิดอีกครั้ง แต่ยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัยภายในอาคาร
งานแต่งงาน งานศพ และพิธีทางศาสนาสามารถมีผู้ได้รับวัคซีนครบสองโดสแล้วเข้าร่วมได้ไม่เกิน 150 คนภายในอาคารและไม่เกิน 500 คนภายนอกอาคาร และกีฬาชุมชนในร่มจะกลับมาทำได้อีกครั้ง
โรงเรียนอนุบาลและสถานดูแลเด็กเล็กจะสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้อย่างสมบูรณ์ นักเรียนทุกคนจะกลับไปเรียนที่โรงเรียนโดยจะมีมาตรการด้านความปลอดภัยเพิ่มเติม และผู้ใหญ่ที่ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างครบถ้วนแล้วก็สามารถกลับไปเรียนที่สถานศึกษาได้
ชาวรัฐวิกตอเรียจะยังคงได้รับการสนับสนุนให้ทำงานจากที่บ้านต่อไปหากทำได้ แต่สามารถไปทำงานในที่ทำงานได้หากได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้ว
เมื่อผู้คนเกินร้อยละ 80 ได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้ว
แม้ว่าแผนแห่งชาติสำหรับการกลับมาเปิดเมืองอีกครั้งจะระบุถึงแค่เมื่อประชาชนร้อยละ 80 ได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้ว มุขมนตรีวิกตอเรียกล่าวว่ายังมีการผ่อนคลายข้อจำกัดอื่นๆ ที่ชาวรัฐวิกตอเรียสามารถตั้งตารอได้หลังบรรลุเป้าหมายนี้แล้ว
นายแอนดรูส์ กล่าวว่า เขาต้องการเห็น การที่ประชาชนได้รับอนุญาตให้มีผู้มาเยี่ยมที่บ้านได้ไม่เกิน 30 คนภายในวันคริสต์มาส และเขาคาดว่าในไม่ช้าชาวรัฐวิกตอเรียอาจได้รับอนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศ โดยเป็นประเทศที่อยู่ใน "เลนสีเขียว" ได้ (มีการระบาดของโควิดต่ำ)
“เราตั้งเป้าที่จะมีผู้มาเยี่ยมบ้านของคุณได้ 30 คนในวันคริสต์มาส” นายแอนดรูส์ กล่าว
“การเดินทางระหว่างประเทศจะเกิดขึ้น ผมหวังว่าการเดินทางระหว่างรัฐจะเกิดขึ้น”
“เราพยายามให้ความแน่นอนแก่ผู้คนสำหรับช่วงเวลาที่กำลังจะมาถึงให้มากที่สุด เท่าที่เราจะทำได้”
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ถ้าเคยติดโควิดยังต้องฉีดวัคซีนหรือไม่?
หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
ร้านอาหารไทยเปิดใจหลังตกเป็นข่าวใหญ่เพราะโควิด