คำว่า “แบรกเกต ครีพ” (bracket creep) กลับมาเป็นเรื่องพูดคุยอย่างกว้างขวางอีกครั้ง ภายหลังจากที่รัฐบาลกลางได้ทำการปรับแผนลดภาษีขั้น 3
รัฐมนตรีคลังแห่งสหพันธรัฐ จิม ชาลเมอร์ส ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะช่วยทำให้ ภาวะแบรกเกต ครีพ นั้นเท่าเทียมกันมากขึ้น เพื่อให้สิ่งต่าง ๆ ยุติธรรมยิ่งขึ้นสำหรับ "ชนชั้นกลางของออสเตรเลีย"
ว่าแต่สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร และจะส่งผลต่อเงินคืนของเราอย่างไรบ้าง
Bracket Creep (แบรกเกต ครีพ) คืออะไร
ปัจจุบันลำดับช่วงของรายได้ที่ต้องจ่ายภาษีของออสเตรเลียมีทั้งหมด 5 ขั้น
- $0 to $18,200 - - เสียภาษี 0 เปอร์เซ็นต์
- $18,201 to $45,000 - เสียภาษี 19 เปอร์เซ็นต์
- $45,001 to $120,000 - เสียภาษี 32.5 เปอร์เซ็นต์
- $120,001 to $180,000 - เสียภาษี 37 เปอร์เซ็นต์
- $180,000+ - เสียภาษี 45 เปอร์เซ็นต์
รองศาสตราจารย์ เบน ฟิลลิปส์ นักวิจัยด้านเศรษฐกิจและสังคมจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย กล่าวว่า แทนที่จะมีการปรับค่าตามดัชนีราคา ( Indexation) เพื่อให้ทันกับอัตราเงินเฟ้อ รัฐบาลกลางเลือกจะปรับฐานภาษีแบบ "เฉพาะกิจ" แทน
“หากคุณรักษาเกณฑ์ภาษีในปัจจุบันตามที่เป็นอยู่ ผู้คนจะมีแนวโน้มที่จะย้ายเข้าสู่กลุ่มรายได้ที่สูงขึ้นโดยปกติเมื่อค่าจ้างเพิ่มขึ้นและราคาเพิ่มขึ้น” เขากล่าว
ซึ่งผลลัพธ์ที่จะได้ก็คือ “แบรกเกต ครีพ” (bracket creep) ที่ซึ่งผู้คนต้องจ่ายเงินภาษีตามสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ทำให้พวกเขาแย่ลง
แบรกเกต ครีพ จะส่งผลต่อเงินได้คุณอย่างไร
ยกตัวอย่าง เช่น หากคุณคือผู้มีรายได้ปานกลาง รายรับต่อปีอยู่ที่ $67,600 ก่อนหักภาษี คุณจะต้องจ่ายภาษีดังนี้
- 0 เปอร์เซ็นต์ สำหรับเงิน $18,200 แรก
- 19 เปอร์เซ็นต์ สำหรับเงิน $26,800 ก้อนถัดมา
- 32.5 เปอร์เซ็นต์ สำหรับเงิน $22,600 ก้อนที่เหลือ
นั่นหมายความว่าคุณจะเสียภาษีไปทั้งสิ้น $12,437 เงินรายรับต่อปีที่เหลือจริงๆ จะอยู่ที่ $55,163 (ยังไม่รวมการหักค่าสวัสดิการรักษาพยาบาล (Medicare levy) หรือ การหักค่าอื่นๆ) ซึ่งจะส่งให้คุณเสียภาษีเฉลี่ยอยู่ที่ 18.4 เปอร์เซ็นต์
หากคุณมีรายรับเพิ่มมาอีก 4.1 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้ตรงกับอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบัน เงินเดือนต่อปีของคุณจะเพิ่มเป็น $70,371.60 ก่อนหักภาษี
ในกรณีนี้ คุณจะเสียภาษีทั้งสิ้น $13,337.77 เงินที่เหลือหลังหักภาษีจะอยู่ที่ $57,033.83 (ซึ่งยังไม่รวมการต้องจ่ายค่าสวัสดิการรักษาพยาบาล (Medicare levy) หรือ การหักค่าอื่นๆ) ค่าเฉลี่ยของภาษีที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นอยู่ที่อัตรา 18.95 เปอร์เซ็นต์
ดังนั้นจะเห็นได้ว่ารายได้ก่อนภาษีที่เพิ่มมา 4.1 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้ทันกับอัตราเงินเฟ้อ แต่หากมองตัวเลขหลังหักภาษีออกไปแล้ว เท่ากับว่าเงินที่คุณได้เพิ่มมาจริงๆ นั้น จะเพิ่มมาเพียง 3.55 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น หมายความว่าเงินเดือนของคุณจริงๆ นั้นลดลง
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
ใครเสียน้อย ใครเสียมาก จากแผนลดภาษีขั้นที่ 3 ฉบับปรับปรุงใหม่
แล้วแผนการลดภาษีขั้น 3 จะช่วยเรื่องนี้อย่างไร?
เกร็ก เจริโค (Greg Jericho ) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันวิจัยแห่งออสเตรเลียกล่าวว่า แบรกเกต ครีพ ส่งผลกระทบค่อนข้างมากสำหรับคนที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ซึ่งพวกเขาจะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของฐานอัตราภาษีที่รวดเร็วตามเงินรายรับที่เพิ่มขึ้น
“เมื่อเราพูดว่าจะแก้ปัญหา แบรกเกต ครีพ โดยปกติแล้วคือการเพิ่มฐานภาษี หรือลดอัตราการเสียภาษี เพื่อไม่ให้ผู้คนต้องเผชิญกับความยากลำบาก จากการที่พวกเขาได้เงินเดือนเพิ่ม ซึ่งปรับตามอัตราเงินเฟ้อ” เขากล่าว
คาดการร์ว่าการปรับปรุงแผนการลดภาษีขั้น 3 เมื่อผ่านรัฐสภา จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2024 โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงดังนี้
- $0 to $18,200 - เสียภาษี 0 เปอร์เซ็นต์
- $18,201 to $45,000 - เสียภาษี 16 เปอร์เซ็นต์
- $45,001 to $135,000 - เสียภาษี 30 เปอร์เซ็นต์
- $135,001 to $180,000 - เสียภาษี 37 เปอร์เซ็นต์
- $190,000+ - เสียภาษี 45 เปอร์เซ็นต์
Credit: Kenneth Macleod
- 0 เปอร์เซ็นต์ สำหรับเงินก้อนแรก $18,200
- 16 เปอร์เซ็นต์ สำหรับเงิน $26,800 ก้อนถัดมา
- 30 สำหรับเงิน $25,371.60 ก้อนที่เหลือ
นั่นหมายความว่า คุณจะเสียภาษีทั้งสิ้น $11,899.48 โดยจะมีเงินเหลือหลังหักภาษีแล้ว $58,472.12 (ซึ่งยังไม่รวมการต้องจ่ายค่าสวัสดิการรักษาพยาบาล (Medicare levy) หรือ การหักค่าอื่นๆ) ซึ่งทำให้คุณเสียภาษีในอัตรา 16.9 เปอร์เซ็นต์
ดังนั้นแล้ว คุณจะมีเงินคืนกลับเข้ากระเป๋าเพิ่ม $1,438.29 หลังจากหักภาษีไปแล้ว ซึ่งจะมากกว่าแผนภาษีฉบับเก่า
นอกจากนี้อัตราภาษีเฉลี่ยของคุ๊จะต่ำลงที่ 2.05 เปอร์เซ็นต์
การปรับแผนการลดภาษีขั้น 3 จะมีการเปิดให้อภิปรายในสภาในสัปดาห์หน้านี้
มีการรายงานเพิ่มเติมโดย Ewa Staszewska