ตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมาของวันนี้ (3 ม.ค.) รัฐวิกตอเรียได้ประกาศภาวะภัยพิบัติ (State of Disaster) ในหลายพื้นที่ทางตะวันออกของรัฐเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สถานการณ์ไฟป่า แบล็ก แซทเทอร์เดย์ (Black Saturday) เมื่อปี 2009
โดยการประกาศภาวะภัยพิบัติในครั้งนี้ จะเป็นการมอบอำนาจพิเศษให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการออกคำสั่งให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่ไฟป่าล่วงหน้า ก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายลง
ทั้งนี้ พื้นที่ในรัฐวิกตอเรียที่ได้รับการประกาศให้เป็นเขตภัยพิบัติ คือ East Gippsland Shire, Mansfield Shire, Wellington Shire, Wangaratta Rural Shire, Towong Shire, Alpine Shire, Mount Butler, Mount Hotham และ Mount Stirling Alpine Resort
นายแดเนียล แอนดริวส์ (Daniel Andrews) มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย ได้แถลงต่อสื่อมวลชนในช่วงกลางดึกของวันนี้ว่า การประกาศภาวะภัยพิบัติในครั้งนี้จะเป็นการส่งสารที่มีน้ำหนักไปยังประชาชนในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากไฟป่า และเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกภาคส่วนสามารถมุ่งปฏิบัติหน้าที่เพื่อช่วยเหลือให้ประชาชนปลอดภัยในช่วงไม่กี่วันข้างหน้าได้อย่างเต็มที่
“คุณต้องอพยพออกจากพื้นที่หากยังสามารถทำได้ ถ้าคุณอยู่ในพื้นที่ เราไม่สามารถประกันความปลอดภัยของคุณได้ คุณอาจถูกตัดขาดจากภายนอกเป็นระยะเวลาหนึ่งหลังเกิดเหตุไฟป่า” นายแอนดริวส์กล่าว
แม้เจ้าหน้าที่จะสามารถออกคำสั่งให้ประชาชนออกจากพื้นที่ แต่ นายแอนดริว คริสป์ (Andrew Crisp) ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉินรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่จับกุมผู้ที่ไม่ต้องการออกจากพื้นที่
“มันเป็นพื้นที่ใหญ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐวิกตอเรียได้ไปเคาะประตูบ้านร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเราจะไม่จับกุมประชาชน (ที่ไม่ออกจากพื้นที่) เราไม่มีทรัพยากรมากพอที่จะทำแบบนั้น” นายคริสป์กล่าวกับเอบีซี นิวส์ เมื่อเช้าวันนี้ (3 ม.ค.)
เจ้าหน้าที่กังวลว่า สภาพอากาศที่จะมีฟ้าผ่าในอากาศแห้งอาจทำให้เกิดไฟป่าจุดใหม่ลุกไหม้ขึ้นได้ ขณะที่มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า ระดับความชื้นในอากาศตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันเสาร์ (4 ม.ค.) นั้น อยู่ในระดับที่ต่ำมาก
“นี่เป็นโอกาสที่คุณจะออกมาได้ และอาจเกิดไฟป่าจุดใหม่ได้ในวันนี้” นายแอนดริวส์กล่าวนอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ทหารจากกองทัพออสเตรเลียกำลังอยู่ระหว่างสนับสนุนการอพยพประชาชนหลายพันคนที่ยังติดค้างอยู่ในเมืองมาลาคูตา (Mallacoota) หลังไฟป่าได้ลุกลามในพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (30 ธ.ค.) คาดว่าจะสามารถนำประชาชนออกจากพื้นที่ได้ราว 1,000 คน เพื่อขึ้นเรือเดินสมุทรของกองทัพบริเวณชายฝั่งได้ในวันนี้
Victorian Premier Daniel Andrews speaks to Jilly Brown and husband Mel, who lost their 120-year-old Sarsfeild Home and accommodation business. Source: AAP
ในรัฐวิกตอเรีย มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 2 ราย และมีผู้สูญหายแล้วอย่างน้อย 28 คนจากเหตุไฟป่า มีไฟป่าที่ยังคงลุกไหม้อย่างรุนแรงอย่างน้อย 50 จุด โดยเฉพาะในภูมิภาคอีสต์ กิปส์แลนด์ และบริเวณเทือกเขาสูง
สรุปตัวเลขความเสียหายจากไฟป่าทั่วออสเตรเลีย (3 ม.ค.)
รัฐนิวเซาท์เวลส์ และเขตนครหลวงออสเตรเลีย (NSW/ACT)
- ผู้เสียชีวิต 16 ราย สูญหาย 1 คน
- มีไฟป่าลุกไหม้กว่า 140 จุด
- พื้นที่ 3.6 ล้านเฮคเตอร์ถูกไฟเผาทำลาย มากกว่าพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร 22 เท่า
- มีบ้านเรือนถูกทำลายจากไฟป่า 1,365 หลัง
รัฐวิกตอเรีย (VIC)
- ผู้เสียชีวิต 2 ราย สูญหาย 28 คน
- มีไฟป่าลุกไหม้ประมาณ 50 จุด
- พื้นที่ 780,000 เฮคเตอร์ถูกไฟเผาทำลาย
- อาคารและสิ่งปลูกสร้าง 68 แห่งถูกทำลายจากไฟป่า คาดว่าตัวเลขความเสียหายจะเพิ่มขึ้นสูง
รัฐควีนส์แลนด์ (QLD)
- มีไฟป่าลุกไหม้ประมาณ 30 จุด
- พื้นที่ 250,000 เฮคเตอร์ถูกไฟเผาทำลาย
- มีบ้านเรือนถูกทำลายจากไฟป่า 45 หลัง
รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย (WA)
- มีไฟป่าลุกไหม้ประมาณ 30 จุด มีจุดที่สำคัญ 2 จุด
- พื้นที่ 1.2 ล้านเฮคเตอร์ถูกไฟเผาทำลาย
- มีบ้านเรือนถูกทำลายจากไฟป่า 1 หลัง
รัฐแทสเมเนีย (TAS)
- ไฟป่าลุกไหม้มากกว่า 30 จุด มีจุดที่สำคัญ 7 จุด
- พื้นที่ 8,000 เฮคเตอร์ถูกไฟเผาทำลาย
- มีบ้านเรือนถูกทำลายจากไฟป่า 1 หลัง
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
คนไทยเล่าถูกไฟป่าล้อมเมือง