พยาบาลคนหนึ่งในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในข้อหาฉ้อโกง หลังแกล้งทำเป็นฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับเด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกของคนที่เธอรู้จัก
เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ตั้งข้อหาความผิดฐานฉ้อโกงกับพยาบาลวิชาชีพหญิงวัย 51 ปี เจ้าหน้าที่ฉีดวัคซีนในศูนย์การแพทย์ใจกลางย่านเซนต์เจมส์ (St James) ของนครเพิร์ท
เธอได้รับอนุญาตจากศูนย์การแพทย์ซึ่งเป็นนายจ้างของเธอเพื่อฉีดวัคซีนให้กับคนรู้จัก โดยเธอฉีดวัคซีนให้กับลูกของคนที่เธอรู้จักซึ่งเป็นวัยรุ่น เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (7 พ.ย.)
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างอุกอาจ แม้มีแพทย์คอยสังเกตการณ์อยู่ในระหว่างการฉีดวัคซีน
“จะมีการตั้งข้อหากับพยาบาลคนดังกล่าว ซึ่งสอดเข็มบนแขนของเด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง แต่ไม่สามารถฉีดวัคซีนเข้าสู่ร่างกายได้” ตำรวจรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ระบุในแถลงการณ์
“และจะมีการตั้งข้อหาเพิ่มเติมว่า กระบอกฉีดยาซึ่งยังมีของเหลววัคซีนอยู่ภายในถูกกำจัด และมีการบันทึกข้อมูลเท็จเกิดขึ้นในระบบเวชระเบียน ที่ระบุว่าเด็กวัยรุ่นคนดังกล่าวได้รับวัคซีนแล้วเป็นจำนวน 1 โดส”
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาอีกว่า พยาบาลคนดังกล่าวได้ใส่ชื่อพนักงานอีกคนในศูนย์การแพทย์แห่งนี้ ให้เป็นผู้ฉีดวัคซีนโควิดแทนเธอ
การสอบสวนในกรณีดังกล่าวเริ่มขึ้นทันทีที่เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์การแพทย์แห่งนี้
“หญิงวัย 51 ปีจากเมืองเบย์ฟอร์ด (Bayford) ได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในบ้านพักส่วนตัวเมื่อวานนี้ (7 พ.ย.) และถูกตั้งข้อหาในความผิดฐานหาประโยชน์ด้วยการฉ้อโกง 1 กระทง” ตำรวจรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย กล่าว
เจ้าหน้าที่ได้ปฏิเสธการให้ประกันตัวพยาบาลหญิงคนดังกล่าว โดยผู้ต้องหามีกำหนดปรากฏตัวต่อศาลชั้นต้นนครเพิร์ท (Perth Magistrates Court) ในวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
แบบจำลองสถานการณ์เผยโรงเรียนอาจเปิดต่อไปได้แม้พบนักเรียนติดโควิด