ประเด็นสำคัญ
- เจ้าหน้าที่รัฐวิกตอเรียสั่งปิดโรงแรมกักโรค ฮอลิเดย์ อินน์ (Holiday Inn) ในสนามบินเมลเบิร์น หลังพบเจ้าหน้าที่ในโรงแรมมีผลการตรวจหาเป็นบวกอีกรายวันนี้ ซึ่งเป็นการติดเชื้อรายที่ 3 ของโรงแรมดังกล่าว
- มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียเผยสถานการณ์น่ากังวลมาก ย้ำไม่เพิ่มโควตารับผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ
- ปธ.เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเชื่อ เครื่องพ่นละอองยาที่ใช้ในโรงแรมกักโรคอาจเป็นต้นตอการกระจายเชื้อ
10 ก.พ. เจ้าหน้าที่รัฐวิกตอเรียอพยพผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศที่กำลังกักกันโรคในโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ (Holiday Inn) ที่สนามบินนานาชาติเมลเบิร์น หลังการแพร่กระจายชองเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในโรงแรมดังกล่าวขยายวง ทำให้มีผู้ติดเชื้อจากการแพร่ระบาดในโรงแรมดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 3 รายแล้ว
โดยผู้ติดเชื้อ 2 รายก่อนหน้านี้ ได้รับการยืนยันการติดเชื้อเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (4 ก.พ.) โดยคนหนึ่งเป็นหญิงที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ซึ่งมีผลการตรวจหาเป็นบวกหลังจากเสร็จสิ้นการกักตัวระยะเวลา 14 วัน และอีกรายหนึ่งเป็นพนักงานอาหารและเครื่องดื่ม
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (7 ก.พ.) พบเจ้าหน้าที่ภายในโรงแรมดังกล่าวรายหนึ่ง มีผลการตรวจหาไวรัสโคโรนาเป็นบวก และพบอีกว่า เป็นไวรัสโคโรนาชนิดกลายพันธุ์จากประเทศอังกฤษที่มีความสามารถในการแพร่กระจายเชื้อสูง
ด้านชุดเจ้าหน้าที่กักกันโรคโควิด-19 รัฐวิกตอเรีย (COVID-19 Quarantine Victoria) ยืนยันว่า โรงแรมดังกล่าวกำลังจะปิดลงชั่วคราวในวันนี้ (10 ก.พ.)
“เพื่อเป็นการป้องกันล่วงหน้าในระดับสูง โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ จะปิดลงจนกว่าจะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้ง เพื่อทำความสะอาดและทำลายเชื้อ ขณะที่การติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด และการสืบสวนนั้นกำลังดำเนินต่อไป” โฆษกหญิงกล่าว
ที่โรงแรมดังกล่าว พนักงานโรงแรมราว 135 คน ได้รับแจ้งไม่ให้ไปทำงานเมื่อช่วงดึกเมื่อคืนวานนี้ (9 ก.พ.) รวมถึงให้ไปรับการตรวจหาเชื้อและกักตนเองอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน ทำให้จนถึงขณะนี้ มีพนักงานโรงแรมดังกล่าวอยู่ระหว่างกักตัวเฝ้าระวังอาการไวรัสโคโรนาเป็นจำนวน 220 คน
ขณะที่ผู้เข้าพักในโรงแรม 48 คน ได้รับการระบุให้เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดหลัก และจะได้รับการส่งไปรับการกักตัวต่อไปอีกระยะหนึ่ง ที่โรงแรมพูลแมน เมลเบิร์น (Pullman Melbourne)
มีพนักงานโรงแรมกักกันโรคทั่วรัฐวิกตอเรียมากกว่า 950 คน กำลังกักตนเองเพื่อเฝ้าระวังอาการ หลังพบการติดเชื้อจากการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ครั้งล่าสุดที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ (Holiday Inn) โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท (Grand Hyatt) และโรงแรมพาร์ค รอยัล (Park Royal Hotel) ซึ่งทั้ง 3 แห่งเป็นโรงแรมกักกันโรค
“เราเข้าใจว่านี่เป็นข่าวที่น่าลำบากใจที่จะได้ทราบ และเราจะทำทุกอย่างที่เราทำได้ เพื่อทำให้แน่ใจว่าสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้เข้าพักในโรงแรมเหล่านี้จะได้รับการสนับสนุนในช่วงเวลาของการกักโรค” โฆษกหญิงกล่าว
“การย้ายตัวผู้เข้าพักในโรงแรม จะดำเนินการเป็นขั้นตอนและพร้อมเพรียง และจะมีการจัดการอย่างระมัดระวังในส่วนของมาตรการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ”
สำหรับหญิงผู้ติดเชื้อรายล่าสุดนั้น เธอได้รับการตรวจหาไวรัสโควิด-19 และได้ผลออกมาเป็นลบหลายครั้งระหว่างที่เข้ารับการกักตัวในโรงแรมกักโรคซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (7 ก.พ.) จนกระทั่งได้รับการตรวจหาอีกครั้งในวันจันทร์ และมีผลการตรวจหาเชื้อเป็นบวก โดยหญิงคนดังกล่าวไม่เคยออกจากบ้านไปไหน นอกจากไปรับการตรวจหาเชื้อ และมีผู้สัมผัสใกล้ชิดหลักกับเธอเพียงคนเดียว
ส่วนพนักงานอาหารและเครื่องดื่มซึ่งทำงานอยู่บนชั้นเดียวกับห้องที่หญิงคนดังกล่าวเข้ารับการกักตัวนั้น ได้รับการระบุให้เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดจากเจ้าหน้าที่โรงแรมกักโรครายล่าสุดที่ติดเชื้อในวันนี้
ศาสตราจารย์เบรตต์ ซัตทัน (Brett Sutton) ประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า ทั้ง 3 กรณีในโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ นั้น มีความเป็นไปได้ว่า มีความเกี่ยวโยงกับเครื่องพ่นละอองยา (nebuliser) ที่ผู้เข้ารับการกักตัวใช้งานระหว่างเข้ารับการกักตัวในโรงแรม
“หากหายใจเอาละอองเข้าไป โดยเฉพาะถ้าใช้เป็นการพ่นละอองยา และมีใครสักคนที่ติดเชื้อ เครื่องพ่นยาจะดักจับไวรัสเอาไว้ ละอองจากเครื่องพ่นจะแขวนลอยอยู่ในอากาศ พร้อมกับอนุภาคของไวรัสที่มีขนาดเล็กมาก ๆ ” ศาสตราจารย์ซัตทันกล่าว
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ทำอะไรได้/ไม่ได้หลังฉีดวัคซีนโควิดแล้ว
เสี่ยงเกินไป ไม่เพิ่มโควตารับผู้เดินทางกลับจาก ตปท.
นายแดเนียล แอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย ได้ยืนยันถึงแนวทางของรัฐบาลรัฐวิกตอเรียที่จะไม่เพิ่มอัตรารับผู้เดินทางกลับมาจากต่างประเทศในระบบโรงแรมกักกันโรค จาก 1,120 เป็น 1,310 คน ตามที่ได้มีการวางแผนไว้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่าน (8 ก.พ) เนื่องจากการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนา ภายในโรงแรมกักโรค ฮอลิเดย์ อินน์
“ชาวรัฐวิกตอเรียได้ร่วมแรงร่วมใจกันอย่างมาก และผมจะไม่ทำให้เกิดความเสี่ยง จนกว่าเราจะทราบและเข้าใจอย่างแน่ชัด ถึงธรรมชาติของความท้าทายที่ไวรัสซึ่งเกิดการเปลี่ยนแปลงนั้นมีต่อเรา” นายแอนดรูส์ กล่าว
ในส่วนของการติดเชื้อทั้ง 3 รายนั้น นายแอนดรูส์ กล่าวว่า ผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อทั้งหมดได้รับการตรวจหาเชื้อแล้ว ขณะที่ได้มีการปรับปรุงรายชื่อสถานที่ซึ่งผู้ติดเชื้อได้เดินทางไป (exposure site) บน
นอกจากนี้ นายแอนดรูส กล่าวอีกว่า การขยายวงของการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์นั้นได้สร้างความกังวลเป็นอย่างมาก
“ไวรัสชนิดกลายพันธุ์นี้กำลังพิสูจน์ให้เห็นถึงความยากลำบากในการควบคุม และนั่นเป็นความท้าทายอย่างแท้จริง เราต้องเพิ่มความพยายามของเราเป็นอีกเท่าตัว ในการทำอะไรให้มากขึ้น เพื่อตอบโต้กับความท้าทายนี้” นายแอนดรูส์ กล่าว
ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ
หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
พบชาวออสฯ ไปตรวจมะเร็งน้อยลงช่วงโควิดระบาด