30 ก.ย.รัฐวิกตอเรียได้บันทึกยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในวันนี้ 13 ราย และผู้เสียชีวิต 4 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในรัฐวิกตอเรียล่าสุดอยู่ที่ 798 ราย ขณะที่การติดเชื้อซึ่งไม่ทราบที่มา และอัตราการติดเชื้อใหม่เฉลี่ยในรอบ 2 สัปดาห์นั้นลดลงอย่างต่อเนื่อง
โดยผู้เสียชีวิตในวันนี้ 4 ราย
- เป็นหญิงวัยประมาณ 70 ปี 1 ราย
- หญิงวัยประมาณ 80 ปี 1 ราย
- และชาย 1 ราย และหญิงอีก 1 ราย ในวัยประมาณ 90 ปี
มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ที่มีความเชื่อมโยงกับการแพร่ระบาดในสถานดูแลผู้สูงอายุ ขณะที่จำนวนติดเชื้อที่ยังคงแสดงอาการนั้นอยู่ที่ 147 ราย โดยหนึ่งในนั้นเป็นเจ้าหน้าที่และผู้เข้ารับการดูแลในสถานดูแลผู้สูงอายุ
ส่วนในจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ 13 รายนั้น พบ 2 ราย มีความเชื่อมโยงกับพนักงานในร้านขายเนื้อสัตว์บุตเชอร์ คลับ (Butcher Club) ในศูนย์การค้าแชดส์ตัน (Chadstone Shopping Centre) โดยพนักงานคนดังกล่าวอยู่ในระยะการแพร่เชื้อ ระหว่างวันที่ 23-26 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งพวกเขาทำงานในกะระหว่างเวลา 6:00 – 18:00 น. และได้ใช้ห้องน้ำสาธารณะในวันที่ปฏิบัติงาน
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ร้านขายเนื้อ Butcher Club, ซูเปอร์มาร์เก็ตโคลส์ (Coles) สาขาศูนย์การค้าแชดส์ตัน ร้านขายอาหารสดในศูนย์การค้าแชดส์ตัน และซูเปอร์มาร์เก็ตวูลเวิร์ธส์ (Woolworths) ในเมืองแอชวูด (Ashwood) ได้รับการเพิ่มในพื้นที่ฮอตสปอตความเสี่ยงสูงในพื้นที่นครเมลเบิร์น
โดยข้อมูลล่าสุด ณ วันนี้ (30 ก.ย.) มีการติดเชื้อที่ไม่ทราบที่มา 21 ราย ขณะที่อัตราการติดเชื้อใหม่เฉลี่ยในรอบ 2 สัปดาห์ในพื้นที่มหานครเมลเบิร์นนั้นอยู่ที่ 16.4 ราย และ 0.3 รายในพื้นที่ส่วนภูมิภาคของรัฐวิกตอเรีย
ขณะที่วันนี้ มีชาวรัฐวิกตอเรีย 44 ราย ที่ยังคงต้องได้รับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาลจากไวรัสโคโรนา โดยมี 6 รายที่อยู่ในแผนกดูแลผู้ป่วยวิกฤต และอีก 3 รายที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (29 ก.ย.) มีผู้ไปรับการตรวจหาไวรัสโคโรนา 17,937 คน
“นั่นเป็นจำนวนที่สูงมาก และผมขอขอบคุณจากใจไปถึงทุก ๆ ท่านกว่า 18,000 คนที่มารับการตรวจหาเชื้อ” นายแดเนียล แอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียกล่าว
อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ซึ่งไม่ทราบที่มาในรอบ 2 สัปดาห์นั้นจะต้องต่ำกว่า 5 รายลงไป จึงจะสามารถผ่อนคลายมาตรการจำกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาได้อีกครั้งในรัฐวิกตอเรีย
นายแดเนียล แอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย ได้ประกาศให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ ในอุตสาหกรรมแปรรูปเนื้อสัตว์ สัตว์ปีก และอาหารทะเล รวมถึงซูเปอร์มาร์เก็ต และศูนย์จัดจำหน่าย จะต้องทำการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนากับพนักงานเป็นจำนวนร้อยละ 25 ในแต่ละสัปดาห์
นอกจากนี้ ยังมีการตรวจหาเชื้อเป็นประจำในสถานดูแลผู้สูงอายุ หลังจากได้มีการทำข้อตกลงกับรัฐบาลสหพันธรัฐ โดยพนักงานร้อยละ 50 ในสถานดูแลผู้สูงอายุในพื้นที่มหานครเมลเบิร์น และพนักงานร้อยละ 25 ในพื้นที่ส่วนภูมิภาครัฐวิกตอเรีย จะได้รับการตรวจเชื้อทุกสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม พนักงานจะไม่ได้รับการกักตัวเพื่อเฝ้าระวังอาการเป็นเวลา 14 วัน นอกจากได้รับผลการตรวจหาไวรัสโคโรนาเป็นบวก
นอกจากนี้ จะยังมีการติดตามเชื้อไวรัสโคโรนาต่อไปในบ่อบำบัดน้ำเสีย 30 จุด
นายเจโรเอน เวย์มาร์ (Jeroen Weimar) จากหน่วยงานสาธารณสุขและบริการสังคมยืนยันว่า พบผลตรวจไวรัสโควิด-19 เป็นบวกในตัวอย่างน้ำจากบ่อน้ำเสียในเมืองแองเจิลซี (Anglesea) ถึงแม้ว่าจะไม่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในเมือง Surf Coast ก็ตาม
“เราทราบว่าจะต้องมีใครสักคน ที่ได้รับเชื้อไวรัสโคโรนาในพื้นที่เมืองแองเจิลซี หรือใครสักคนที่ผ่านเมืองนี้ แต่มันอาจเป็นใครสักคนที่อาจไม่รู้ตัวว่า พวกเขาอาจมีไวรัสอยู่ในตัวก็ได้” นายเวย์มาร์กล่าว
นายเวย์มาร์ได้กระตุ้นให้ประชาชนในเมืองแองเจิลซี ซึ่งมีอาการต่าง ๆ ของไวรัสโคโรนา หรือรู้สึกไม่สบาย ไปรับการตรวจเชื้อ
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (28 ก.ย.) รัฐวิกตอเรียได้ก้าวเข้าสู่ระยะที่ 2 ของแผนแม่บทในการออกจากมาตรการจำกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา โดยในระยะที่ 3 นั้น จะมีการยกเลิกข้อบังคับในการออกจากบ้าน ที่กำหนดให้อยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตร บรรดาร้านค้าต่าง ๆ จะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง ขณะที่ร้านอาหารและร้านกาแฟจะสามารถมีลูกค้ามารับประทานในร้านได้
โดยรัฐบาลรัฐวิกตอเรียได้ตัดสินใจเลื่อนกำหนดการในการเข้าสู่ระยะที่ 3 ตามแผนแม่บท ในพื้นที่มหานครเมลเบิร์น มาเป็นวันที่ 19 ต.ค.นี้ จากเดิมที่กำหนดในแผนแม่บทก่อนหน้านี้คือวันที่ 26 ต.ค.
ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ
การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
คนส่วนใหญ่ในออสเตรเลียที่มีอาการโควิดไม่ไปตรวจเชื้อ