มีการคาดการณ์ว่า ในเวลาอีก 4 ปีข้างหน้า มหาวิทยาลัยในออสเตรเลียอาจสูญเสียรายได้ไปราว $16,000 ล้านดอลลาร์ จากมาตรการจำกัดห้ามการเดินทางในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ที่สร้างความลำบากต่อนักศึกษาต่างชาติเป็นจำนวนมาก
สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 อาจส่งผลกระทบที่ยาวนานต่อภาคการศึกษาของออสเตรเลีย โดยแบบจำลองทางการเงินของหน่วยงานระดับสูง Universities Australia ได้คาดการณ์ว่า จะเกิดความสูญเสียเป็นอย่างมาก
นางแคทริโอนา แจ็คสัน (Catriona Jackson) ประธานกรรมการบริหารของ Universities Australia กล่าวว่า การปิดพรมแดนออสเตรเลีย จะทำให้นักศึกษาต่างชาติจำนวนมากไม่กลับมาเรียนอีก"เกือบครึ่งของนักศึกษาต่างชาติเริ่มเรียนในภาคการศึกษาที่ 2 นั่นแปลว่าเขายังไม่ได้เริ่มเรียน และตอนนี้เห็นได้ชัดว่าพวกเขาจะไม่สามารถกลับมาเรียนในออสเตรเลียได้ และนั่นคือกลุ่มนักเรียนที่จะไม่กลับมาเริ่มเรียน" นางแจ็คสันกล่าว
Catriona Jackson, chief executive of Universities Australia. Source: SBS News
"นักศึกษาปีหนึ่งที่ไม่ได้เริ่มเรียนในปีนี้ ก็คือนักศึกษาปีสองที่จะไม่มาที่นี่ในปีหน้า และนักศึกษาปีสามที่จะไม่มาที่นี่อีกในปีต่อจากนั้น นี่ไม่ใช่ปัญหาเพียงปีเดียวสำหรับมหาวิทยาลัย นี่เป็นปัญหาที่อาจยาวไปถึง 2, 3 หรือ 4 ปี"
จากแบบจำลองของ Universities Australia ชี้ว่า สถาบันอุดมศึกษาอาจสูญเสียรายได้มากถึง $4,800 ล้านดอลลาร์ในปีนี้เพียงอย่างเดียว ซึ่งผลกระทบดังกล่าวอาจกระทบมากกว่าสถาบันการศึกษา และอาจสร้างความเสียหายมากกว่าการเรียนการสอน
นางแจ็คสันกล่าวอีกว่า การประมาณโดยอิสระคาดว่า กิจกรรมการวิจัยต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัยที่คิดเป็นมูลค่าประมาณ $3,500 ล้านดอลลาร์อาจตกอยู่ในความเสี่ยง
"นี่คือสิ่งที่ประเทศนี้จะสูญเสียไปไม่ได้ ออสเตรเลียสามารถรับมือกับไวรัสโคโรนาเป็นอย่างดี นั่นก็เพราะงานวิจัยที่ยอดเยี่ยม และการทำงานของบุคลากรการแพทย์ที่อยู่แถวหน้าเพื่อปกป้องสุขภาพของเราให้ปลอดภัย ในการค้นคว้าหาทางรักษาและวัคซีน" นางแจ็คสันกล่าว
ศาสตราจารย์แฟรงค์ ลาคินส์ (Prof Frank Larkins) อดีตรักษาการในตำแหน่งรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น (University of Melbourne) กล่าวว่า งานวิจัยของเขาพบว่า มีมหาวิทยาลัยมากถึง 7 แห่งในออสเตรเลียที่อาจเผชิญกับปัญหาทางการเงินอย่างหนัก
จากรายงานของศาสตราจารย์ลาคินส์ พบว่า มหาวิทยาลัยโมแนช (Monash University) สถาบันเทคโนโลยีเมลเบิร์น (Royal Melbourne Institute of Technology หรือ RMIT) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีซิดนีย์ (University of Technology Sydney) มหาวิทยาลัยลาโทรบ (La Trobe University) มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ตอนกลาง (Central Queensland University) มหาวิทยาลัยเซาท์เทิร์นครอส (Southern Cross University) และมหาวิทยาลัยแคนเบอร์รา (Canberra University) เหล่านี้เป็นมหาวิทยาลัยที่มีความเสี่ยงมากที่สุด
โดยมหาวิทยาลัยทั้งหมด ยกเว้นมหาวิทยาลัยลาโทรบนั้น มีรายได้จากค่าเล่าเรียนของนักศึกษาต่างประเทศ คิดเป็นร้อยละ 30 ของรายได้ทั้งหมด"หากมหาวิทยาลัยต้องสูญเสียรายได้จากนักศึกษาต่างชาติตามที่เราได้วิจัยไว้ นั่นหมายถึงร้อยละ 40 ของรายได้มหาวิทยาลัยตลอดปี มหาวิทยาลัยอย่าง RMIT จะขาดดุลไปประมาณ $137 ล้านดอลลาร์ ขณะที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีซิดนีย์อาจขาดดุลไปประมาณ $77 ล้านดอลลาร์" ศาสตราจารย์ลาร์คินส์กล่าว
"เนื่องจากความสูญเสียด้านรายได้นั้นจะเริ่มก่อตัวตั้งแต่ช่วงปีที่สองและปีที่สามนับจากนี้ เราคาดว่า ภายในปี 2023 มหาวิทยาลัย RMIT จะขาดดุลไปประมาณ $500 ล้านดอลลาร์ ขณะที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีซิดนีย์จะขาดดุลไปประมาณ $330 ล้านดอลลาร์"
ผลกระทบที่สร้างความตึงเครียดด้านรายได้ อาจทำให้มหาวิทยาลัยต้องดำเนินการในส่วนนี้อย่างรุนแรง โดยศาสตราจารย์ลาร์คินส์ คาดว่า สถาบันการศึกษาหลายแห่งอาจเลือกที่จะตัดรายวิชาในการสอน ลดจำนวนพนักงาน รวมถึงอาจปิดวิทยาเขตที่ไม่มีความจำเป็น
"งบประมาณมากกว่าร้อยละ 50 ที่มหาวิทยาลัยต้องใช้ไป คือการจ่ายเงินให้ลูกจ้าง นั่นหมายความว่า ในอีก 3 – 5 ปีข้างหน้า อาจมีการลดตำแหน่งงานมากถึง 21,000 ตำแหน่งในส่วนนี้" ศาสตราจารย์ลาร์คินส์กล่าว
แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงมีแนวทางในการบรรเทาความเดือดร้อนสำหรับสถาบันอุดมศึกษาทั่วออสเตรเลีย จากการที่ผู้นำรัฐและรัฐบาลสหพันธรัฐ เปิดทางให้นักศึกษาต่างชาติสามารถกลับมาเรียนได้อีกครั้ง ด้วยการผ่อนคลายมาตรการปิดพรมแดน
นางแกลดีส์ เบเรจิเกลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า เธอและคณะรัฐบาลรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้ทำงานร่วมกันในการเปิดพรมแดนสำหรับนักศึกษาต่างชาติ เพื่อช่วยเหลือมหาวิทยาลัยในท้องถิ่น
ส่วนนายแดเนียล แอนดรูวส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย ได้กล่าวในสัปดาห์นี้ว่า เขายังคงมีความหวังในการทำให้การศึกษานานาชาติ "กลับสู่สภาพปกติได้ในเร็ว ๆ นี้"
นางแจ็คสัน จาก Universities Australia กล่าวว่า มหาวิทยาลัยทั่วประเทศได้เตรียมตัวในการเข้าสู่สภาวะขาดรายได้ในช่วงนี้ แล้วเธอยืนยันว่า การพิจารณาตัดลดตำแหน่งงานลงนั้นจะเป็นทางเลือกสุดท้าย"โครงการเงินทุน และโครงการก่อสร้างทุกชนิดถูกเลื่อนไป การอภิปรายต่าง ๆ เกิดขึ้นร่วมกับหน่วยงานของรัฐ และมีการหารือกับธนาคารในเรื่องสินเชื่อ มีการทดลองทางเลือกต่าง ๆ และลดค่าใช้จ่าย เพื่อให้มหาวิทยาลัยต่าง ๆ อยู่ในสภาพที่พร้อมดำเนินกิจการ" นางแจ็คสันกล่าว
中國警告其學生不要來澳學習。 Source: Getty Images
"ตามที่ดิฉันได้กล่าวไป จำนวนเงินราว $16,000 ล้านดอลลาร์ที่จะสูญเสียไปในช่วง 4 ปีนั้น เป็นจำนวนเงินมหาศาล มันมีความจำเป็นที่จะต้องมีการสนับสนุนเพิ่มเติมในส่วนนี้โดยรัฐบาลสหพันธรัฐ"
นางแจ็คสันกล่าวว่า เศรษฐกิจของออสเตรเลียจะไม่สามารถฟื้นฟูได้อย่างเหมาะสม หากการวิจัยไม่ถูกจัดให้เป็นความสำคัญอันดับแรก ๆ
"มันคือสิ่งที่สร้างองค์ความรู้ สร้างงาน และอุตสาหกรรมใหม่ ๆ และนั่นคือสิ่งที่เราต้องทำในตอนนี้ท่ามกลางภาวะตกต่ำทางการเงิน" นางแจ็คสันกล่าว
ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ
การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
ภาพ นศ.ต่อคิวรับคูปองอาหารอาจเป็นเพียง 'ปลายยอดภูเขาน้ำแข็ง'