ขณะนี้ ตัวเลขจากหน่วยงานรัฐบาลชี้ว่า พื้นที่ทั่วรัฐนิวเซาท์เวลส์ (NSW) ทั่วทั้งรัฐได้รับผลกระทบจากภาวะแห้งแล้ง
เดือนมิถุนายน และเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งแห้งแล้งกว่าปกติ ทำให้ผลผลิตของเกษตรกรในรัฐนิวเซาท์เวลส์เสียหาย ขาดแหล่งน้ำในการเพาะปลูก และแหล่งอาหารสำหรับปศุสัตว์
ข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมหลัก (Department of Primary Industry) ระบุว่า ร้อยละ 61 ของพื้นที่รัฐนิวเซาท์เวลส์อยู่ในภาวะแห้งแล้ง หรือภาวะแห้งแล้งอย่างหนัก ขณะที่เกือบร้อยละ 39 นั้นได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง
“นี่เป็นภาวะที่ยากลำบาก” นายไนออล แบลร์ (Niall Blair) รัฐมนตรีด้านอุตสาหกรรมหลักรัฐนิวเซาท์เวลส์กล่าวเมื่อวันพุธ (8 ส.ค.)
“ไม่มีใครในรัฐนี้ที่ไม่อยากเห็นฝนตกลงมาเพื่อเกษตรกรและชุมชนในพื้นที่ห่างไกล” นายแบลร์ระบุ
พื้นที่ทางตะวันตก ตะวันตกเฉียงเหนือ และพื้นที่ตอนกลางของรัฐนิวเซาท์เวลส์ มีปริมาณฝนที่ตกน้อยกว่า 10 มิลลิเมตร เมื่อเดือนก่อน โดยคาดว่าสภาพอากาศที่แห้งแล้งกว่าปกติจะเป็นเช่นนี้ต่อไปอีก 3 เดือนข้างหน้าในพื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐ
ทั้งนี้ ตัวชี้วัดภาวะแห้งแล้ง ซึ่งเก็บข้อมูลจากปริมาณฝน ระดับน้ำในดิน การเจริิญเติบโตของพืช และข้อมูลสภาพอากาศในระยะยาวชี้ว่า ไม่มีส่วนใดของรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่ฟื้นสภาพแม้จะมีฝนตกลงมาก่อนหน้านี้“ผู้เพาะปลูกผลิตจะต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบากว่าจะต้องไถกลบพืชผล หรือจะรอฝนที่อาจจะตกลงมาในอีก 2 เดือนข้างหน้าเพื่อให้ได้ผลผลิต” นายแบลร์กล่าว
An aerial view of the cattle feeding operation on the property 'Toorawandi' owned by Coonabrabran farmer Ambrose Doolan Source: Getty
ด้าน นายมัลคอล์ม เทิร์นบูลล์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียได้ลงพื้นที่สำรวจชุมชนที่เผชิญกับภาวะแห้งแล้ง และได้ประกาศมอบเงินเยียวยาครอบครัวเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจำนวนครอบครัวละ $12,000 ดอลลาร์
ส่วนรัฐบาลรัฐนิวเซาท์เวลส์ก็ได้เพิ่มงบประมาณเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบขึ้นอีกเท่าตัว โดยงบประมาณทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ $1,000 ล้านดอลลาร์
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ
รมต. เสนอแนวคิดให้ผู้อพยพใหม่อยู่นอกตัวเมือง