ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยของสตรีในออสเตรเลียจะได้รับการยกเว้นเรียกเก็บภาษีสินค้าและบริการ (GST) ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2019 เป็นต้นไป หลังรัฐมนตรีคลังจากรัฐและเขตแดนต่าง ๆ ทั่วออสเตรเลียมีมติอย่างเป็นเอกฉันท์ สอดคล้องกับรัฐมนตรีคลังแห่งสหพันธรัฐ นายจอช ฟรายเดนเบิร์ก (Josh Frydenberg)
“สตรีชาวออสเตรเลียนับล้านคนจะได้รับประโยชน์จากนโยบายนี้” นางเคลลี โอ ดูไวเออร์ (Kelly O’Dwyer) รัฐมนตรีสตรีแห่งสหพันธรัฐ ระบุกับเซเว่นนิวส์ เมื่อเช้าวันพุธที่ผ่านมา (3 ต.ค.)
ก่อนหน้านี้ พรรคร่วมรัฐบาลภายใต้การนำของ นายมัลคอล์ม เทิร์นบูลล์ ได้ให้คำมั่นที่จะยกเว้นการเก็บภาษีสินค้าและบริการ (GST) จากผ้าอนามัย และจะมีการเพิ่มใน ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพอื่น ๆ เช่น ถุงยางอนามัย และอาหารบางชนิด
โดยนโยบายดังกล่าวจะทำให้รัฐบาลสูญเสียรายได้จากภาษีราว 30 ล้านดอลลาร์ต่อปี
ด้านนายฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีคลังแห่งสหพันธรัฐ ได้แสดงความมั่นใจก่อนหน้านี้ว่า นโยบายดังกล่าวจะได้รับการเห็นชอบในที่ประชุม โดยระบุว่ามีกระแสความเห็นชอบตั้งแต่ในคืนก่อนการประชุมที่นครเมลเบิร์น
แต่ทั้งนี้ ท่ามกลางการเสนอร่างนโยบายที่จะเปลี่ยนแปลงการกระจายรายได้จากภาษีของรัฐบาล นโยบายยกเลิกภาษีผ้าอนามัยนั้น จะเป็นนโยบายที่สร้างการถกเถียงน้อยกว่าแผนเปลี่ยนโครงสร้างการกระจายรายได้จากภาษีของรัฐบาลโดยนายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรี ที่จะทำให้แต่ละรัฐเก็บรายได้จากภาษีที่เรียกเก็บในรัฐของตนจำนวนร้อยละ 75 ขณะที่นโยบายปัจจุบันนั้น รายได้จากภาษีที่ไหลเวียนจากทุกรัฐจะเอื้อประโยฃน์ให้กับรัฐที่ขาดแคลนรายได้ โดยแผนของนายมอร์ริสันได้รับการกล่าวหาจากรัฐมตรีคลังของรัฐวิตอเรียเมื่อเร็วๆ นี้ว่า เป็นการแก้ไขให้มีความถูกต้องทางการเมือง
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
ถึงเป็นผีไม่มีวีซ่าแต่ไม่ต้องทนให้ใครข่มเหง