คณะกรรมการแข่งขันทางการค้าและผู้บริโภคออสเตรเลีย (Australian Competition and Consumer Commission: ACCC) ระบุว่า ขณะที่ถุงลมนิรภัยทาคาตะที่มีปัญหา 1.1 ล้านใบได้รับการเปลี่ยนในรถยนต์ประมาณ 930,000 คันในออสเตรเลีย ตั้งแต่มีการประกาศเรียกคืนเมื่อปีก่อน ยังพบว่ามีถุงลมนิรภัยที่ยังไม่ได้รับการเปลี่ยนอีกประมาณ 1.8 ล้านชุดที่ยังคงอยู่ในรถยนต์ทั่วออสเตรเลีย
นางดีเลีย ริกการ์ด (Delia Rickard) รองประธานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าและผู้บริโภคออสเตรเลีย (ACCC) ได้เตือนเจ้าของรถว่า อย่าชะล่าใจที่จะนำรถมาเปลี่ยนถุงลมนิรภัย เพราะมันสามารถเสื่อมสภาพเมื่อเวลาผ่านไป และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต เมื่อพวกมันอาจทำงานเอง และปล่อยสะเก็ดเหล็กใส่ผู้ที่อยู่ในรถเธอย้ำว่า รถที่มีถุงลมนิรภัยที่มีปัญหาไม่ควรที่จะอยู่บนท้องถนน
การเรียกคืนถุงลมนิรภัยทาคาตะยังคงดำเนินต่อไป หลังพบปัญหาใหญ่ด้านความปลอดภัย (Choice) Source: Choice
“ฉันคิดว่ามันเป็นระเบิดเวลา ซึ่งนั่นทำให้เราให้คำแนะนำอย่างชัดเจนโดยไม่มีความเคลือบแคลงสงสัย” นางริกการ์ดกล่าวกับวิทยุเอเอ็มของเอบีซี
“อย่าเพิกเฉยหรือหน่วงเวลาที่จะตอบจดหมายหรือสายโทรศัพท์จากบริษัทผู้ผลิตรถของท่าน เพื่อให้นำรถไปเปลี่ยนถุงลมนิรภัย พวกมันจะเสื่อมสภาพเมื่อเวลาผ่านไป และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต โดยมันอาจจะทำงานขึ้นมาเอง และปล่อยสะเก็ดเหล็กออกมาใส่ผู้ที่อยู่ในรถ” นางริกการ์ดกล่าวเสริม
โดยในสัปดาห์นี้ สภาอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งสหพันธรัฐได้ปล่อยแคมเปญเพื่อรณรงค์ในเรื่องนี้ รวมถึงได้มีการเปิดตัวเว็บไซต์ที่สามารถตรวจสอบได้ว่า รถของคุณได้รับการติดตั้งถุงลมนิรภัยทาคาตะที่เป็นอันตรายหรือไม่
คณะกรรมการแข่งขันทางการค้าและผู้บริโภคออสเตรเลียเชื่อว่า รัฐนิวเซาท์เวลส์มีจำนวนรถที่มีความเสี่ยงมากที่สุด โดยมีรถประมาณ 448,000 คันที่จะต้องได้รับการเปลี่ยนถุงลม รองลงมาคือรัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีรถที่มีความเสี่ยงประมาณ 400,000 คัน
ทั้งนี้ การเรียกคืนถุงลมนิรภัยของทาคาตะเกิดขึ้นหลังมีความกังวลว่า สารขับดันถุงลมนิรภัยอาจเสื่อมสภาพเมื่อเวลาผ่านไปเมื่อรถเกิดการปะทะ ถุงลมนิรภัยจะพองตัวโดยอาศัยสารขับดันภายในกระป๋องบรรจุ ถุงลมนิรภัยของทาคาตะได้มีการใช้สารแอมโมเนียม ไนเตรต (Ammonium nitrate) ซึ่งเป็นสารเคมีที่ระเบิดได้ โดยภายหลังพบว่า พวกมันจะเสื่อมสภาพหากได้รับอุณหภูมิและความชื้นที่สูงติดต่อกันเป็นเวลานาน
State and territory breakdown of airbags needing replacement. Source: ACCC
แอมโมเนียม ไนเตรตที่เสื่อมสภาพ สามารถทำให้ระบบพองตัวของถุงลมนิรภัยมีระดับแรงดันที่เป็นอันตราย และเกิดการระเบิดจนสะเก็ดเหล็กกระเด็นออกมาเมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน
ในทั่วโลก ถุงลมนิรภัยของทาคาตะที่เป็นปัญหาเหล่านี้มีความเชื่อมโยงไปสู่การเสียชีวิต 23 ครั้ง และการบาดเจ็บสาหัส 230 ครั้ง
ส่วนในออสเตรเลียนั้น มีการเสียชีวิต 1 ครั้ง และบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ครั้ง จากสะเก็ดเหล็กที่กระเด็นออกมาเมื่อถุงลมนิรภัยทาคาตะทำงาน
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ
การเดินทางโดยเครื่องบินปลอดภัยแค่ไหน